ถึงแม้ว่าในปีนี้Google จะไม่ได้จัดงาน I/O 2020 เนื่องจากโดนพิษ COVID-19 โจมตีอย่างหนักในสหรัฐอเมริกา ทำให้เราไม่ได้เห็นข่าวคราวอัพเดทของระบบปฏิบัติการ Android 11 กันซักที…แต่ล่าสุดก็ได้มีนักพัฒนาระบบดังกล่าวออกมาเผยข้อมูลฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่จะมาพร้อมกับระบบ Android 11 ให้ได้เห็นกันบ้างแล้ว ซึ่งแต่ละฟีเจอร์ก็จะทำให้การใช้งานมือถือของเราสะดวกสบายมากขึ้นอีกเช่นเคย
สำหรับ Android 11 เวอร์ชั่น Developer Preview 3 ตอนนี้ได้เปิดให้เหล่านักพัฒนาได้ทดลองเอามาลงในมือถือซีรีส์ Google Pixel กันได้แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มีพัฒนาที่ได้ทดสอบ และได้เอาข้อมูลของฟีเจอร์ใหม่ๆ มาให้ดูกัน ว่ามันมีอะไรบ้างครับ
ฟีเจอร์ใหม่ที่จะทำให้หน้าต่างของแอปต่างๆ ในหน้า Recent Apps มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม และยังเพิ่มปุ่ม Screen Shot สำหรับจับภาพหน้าจอของแอปที่เราเลือกได้ ส่วนปุ่ม Share จะเป็นการจับภาพหน้าจอเช่นกัน แต่เมื่อจับภาพเสร็จแล้วจะมีตัวเลือกให้สามารถแชร์ภาพดังกล่าวไปยังแอปอื่นๆ ต่อได้เลย
Recent Apps แบบเก่า / แบบใหม่
ปกติแล้วเวลาที่เราติดตั้งแอปใหม่ๆ ลงเครื่อง และเปิดใช้งานเป็นครั้งแรก ก็จะมีการขออนุญาตเข้าถึงส่วนต่างๆ ของเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น ไมโครโฟน, กล้อง, รายชื่อผู้ติดต่อ ฯลฯ ซึ่งหากเรากดอนุญาตแล้ว มันก็จะอนุญาตไปตลอดจนกว่าเราจะลบแอปนั้นทิ้งไป แต่ใน Android 11 ถ้าหากว่าเราไม่ได้ใช้แอปไหนเป็นเวลา 2 – 3 เดือน ระบบ Auto revoke permissions ก็จะยกเลิกการอนุญาตแอปดังกล่าวโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราต้องกดอนุญาตอีกรอบหากเข้าใช้งานหลังจากนี้
แถบ Notification ด้านบนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยคราวนี้แถบจะขยายออกไปจนสุดขอบจอซ้าย-ขวา (ของเดิมเป็นกรอบ) และแถบจะเปลี่ยนจากสีพื้นๆ เป็นสีแบบโปร่งใสที่มีการไล่เฉดไปจนกลายเป็นสีทึบ และจะเพิ่มปุ่ม History เข้ามาให้สำหรับกดดูว่าก่อนหน้านี้มี Notification อะไรเข้ามาบ้าง ซึ่งเราอาจจะเผลอกดปุ่ม Clear All ทิ้งไป โดยที่ยังไม่ทันดู นอกจากนี้เรายังสามารถลบแถบ Notification ของแอปต่างๆ ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังทิ้งได้ด้วย จากปกติที่แถบพวกนี้จะไม่สามารถลบทิ้งได้จนกว่าเราจะปิดแอปนั้นซะก่อน
แถบ Notification เก่า / ใหม่
ในหน้า Recent Apps เราสามารถใช้นิ้วปัดแอปต่างๆ ที่เปิดอยู่เบื้องหลังทิ้งไปได้ ซึ่งบางทีก็เผลอลบแอปที่กำลังใช้งานอยู่ทิ้งไป แต่ใน Android 11 เราจะใช้นิ้วปัดแอปที่ปิดไปก่อนหน้ากลับมาได้ โดยจะมีช่วงเวลาหน่วงให้ราวๆ 1 วินาที สำหรับดึงแอปกลับมา
ใน Android 10 เวลาที่เราแคปหน้าจอแล้ว จะมีหน้าต่างป๊อปอัพเด้งขึ้นมาถามว่าต้องการจะ Share, Edit หรือ Delete ภาพดังกล่าวรึเปล่า แต่ใน Android 11 จะเปลี่ยนเป็นแถบเล็กๆ เด้งขึ้นมาว่าต้องการ Share หรือ Edit ภาพดังกล่าวมั้ย หรือถ้าจะลบก็กด X ตรงมุมภาพได้เลย และใน Android 11 ตัวเต็มจะเพิ่มตัวเลือกแคปภาพหน้าจอแบบยาวลงมาได้ด้วย
Android 10 ได้เพิ่มวิธีการใช้นิ้วปัดจากขอบจอเข้ามาเพื่อแทนการใช้ปุ่ม Back ซึ่งบางคนก็ใช้ไม่ถนัด เพราะเดี๋ยวก็ปัดได้บ้างไม่ได้บ้าง หรือบางคนก็รำคาญเพราะบางที่เผลอไปโดนหน่อยเดียว กลายเป็นกด Back เฉยเลย คราวนี้ใน Android 11 ก็เลยเพิ่มการตั้งค่าความไวของ Gesture ดังกล่าวได้ว่าเราต้องการให้ขอบจอทั้งซ้าย และขวามันไวต่อการใช้นิ้วปัดแค่ไหน
ใน Android รุ่นก่อนๆ การแชร์เน็ตให้กับ PC จะทำได้ผ่าน WiFi Hotspot, USB tethering และ Bluetooth tethering เท่านั้น แต่ใน Android 11 จะรองรับการใช้งานคู่กับตัวแปลง USB-C > Ethernet และเสียบสาย LAN เข้ากับ PC เพื่อเพิ่มความเสถียรให้กับการเชื่อมต่อได้อีกด้วย
บางแอปจะมีฟีเจอร์ Bubble เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ (ถ้าใครนึกไม่ออกว่า Bubble คืออะไร ให้นึกแอป Facebook Messenger ที่จะมีคอยเด้งขึ้นมาเวลามีคนทัก) ซึ่งใน Android 11 เวลาที่มีแอปไหนใช้ระบบ Bubble แบบนี้เด้งขึ้นมาครั้งแรก ก็จะมีแถบข้อมูลบอกเอาไว้ว่า Bubble นี้คืออะไร
ใน Android รุ่นก่อนๆ การเปิด adb authorization ใน Developer options จะเปิดแล้วต้องมาปิดเองเมื่อใช้งานเสร็จ แต่ใน Android 11 จะเพิ่มตัวเลือกตั้งเวลาปิด adb authorization อัตโนมัติถ้าหากไม่ได้ใช้งานภายในเวลา 7 วัน
การเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ (มันเล็กน้อยจริงๆ นะ) เวลาที่เราปรับเสียงของมือถือ คราวนี้จะใช้คำว่า Sound แทนคำว่า Volume
ฟีเจอร์ต่างๆ ทางด้านบน เป็นฟีเจอร์ที่พร้อมใช้งานแล้ว (แต่อาจจะต้องปรับปรุงอีกเล็กน้อยเพื่อความสมบูรณ์) แต่ก็ยังมีอีกหลายฟีเจอร์ที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาด้วยเช่นกัน
ในหน้า Recent จะใส่ปุ่ม Select ให้เราสามารถกดเพื่อไฮไลท์ตัวอักษรของแต่ละแอปในหน้านั้น เพื่อจะเอาไป Paste ในแอปอื่นๆ ได้
ฟีเจอร์ picture-in-picture จะโชว์หน้าจอของแอปที่รองรับโหมดนี้ อย่างเช่น YouTube โดยเวลาเราแอปเข้า YouTube แล้วถึงจะกด Home ออกมา ก็ยังมีหน้าต่างเล็กๆ ของวิดีโอเล่นอยู่ ซึ่งปกติแล้วจะไม่สามารถปรับขนาดหน้าต่างได้ แต่ใน Android 11 จะปรับขนาดได้แล้ว
ฟีเจอร์ Battery Share สำหรับมือถือรุ่นที่รองรับการชาร์จแบตเตอรี่ให้อุปกรณ์อื่นๆ แบบไร้สาย คราวนี้จะเปลี่ยนภาพ Animation แบบใหม่ ให้เป็นรูปของ Pixel 4a
ฟีเจอร์ที่ซ่อนอยู่ในเมนู Developer Options ที่จะทำให้หน้าจอของมือถือเป็นภาพเบลอ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าฟีเจอร์นี้จะเอาไปใช้ประโยชน์ในด้านไหน
นั่นยังไม่ใช่ฟีเจอร์ทั้งหมดที่จะมากับ Android 11 ตัวเต็มนะครับ เพราะตอนนี้มันยังอยู่ในช่วงทดลองสำหรับนักพัฒนาเท่านั้น ซึ่งตัวเต็มที่ออกมาจะต้องมีอะไรมากกว่านี้ และอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอีกแน่นอน
ที่มา : XDA-Developers
30/04/2020 03:16 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย