Redmi Note 9 Pro Series มือถือสเปคสุดคุ้มที่ก่อนหน้านี้ เคยเปิดตัวในอินเดียไปรอบนึงแล้วกับรุ่น Redmi Note 9 Pro และ Note 9 Pro Max ส่วนการเปิดตัวในครั้งนี้จะเป็นการเปิดตัวเวอร์ชั่น Global รุ่น Redmi Note 9 และรุ่นท็อป Note 9 Pro นั่นเอง ส่วนสเปค และฟีเจอร์ของมือถือซีรีส์นี้จะเป็นยังไงบ้าง มาดูกันครับ
มาเริ่มกันที่รุ่นท็อปอย่าง Redmi Note 9 Pro โดยมือถือรุ่นนี้ใช้ดีไซน์ Aura Design แบบสมมาตร โดยด้านหลังเครื่องจะวางโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมไว้ตรงกลางเครื่องด้านบน โดยบนโมดูลก็มีกล้อง 4 ตัว วางเรียงกันด้านบน 2 ตัว ด้านล่าง 2 ตัว และถัดลงมาเป็นแฟลช LED
หน้าจอของ Redmi Note 9 Pro มีขนาดอยู่ที่ 6.67 นิ้ว ใช้ดีไซน์หน้าจอเจาะรู ตรงกลางจอด้านบนสำหรับวางกล้องเซลฟี่ มีอัตราส่วนหน้าจอ อยู่ที่ 20:9 เรียกว่า Cinematic Screen ซึ่งเหมาะสุดๆ สำหรับการดูหนัง หรือดูคลิปต่างๆ ได้แบบเต็มจอ
Redmi Note 9 Pro มากับกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP + กล้อง Ultra Wide 8MP + กล้องมาโคร 5MP + กล้องจับความลึก 2MP ซึ่งสามารถถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ซึ่งมีคุณภาพที่สูงกว่าไฟล์ภาพแบบปกติ ทำให้เราสามารถนำไปตกแต่งเพิ่มเติมในแอปที่ต้องการได้โดยที่ภาพไม่เสียรายละเอียดนั่นเอง
ส่วนกล้องเซลฟี่เป็นแบบ In display Camera ที่มีความละเอียดสูงถึง 16MP ที่มากับฟีเจอร์เก๋ๆ อย่าง Slow Motion Selfies อีกด้วย
Redmi Note 9 Pro ให้แบตเตอรี่มาจุใจถึง 5020 mAh ซึ่งทาง Redmi เคลมว่าสามารถสแตนด์บายได้ถึง 20 วันครึ่ง, ดูวิดีโอติดต่อกันได้ถึง 26 ชม., เล่น PUBG ติดต่อกันได้ 11 ชม. นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไวที่ระดับ 30W แถมยังมีที่ชาร์จไว 33W แถมให้มาในกล่องเลยด้วย
มาต่อกันที่รุ่นน้องอย่าง Redmi Note 9 ที่มีดีไซน์ตัวเครื่องโดยรวมค่อนข้างคล้ายกับ Redmi Note 9 Pro ด้วยตัวเครื่องด้านหลังที่มีขอบโค้งแบบ 3D และใช้ดีไซน์แบบสมมาตร แต่จะต่างกันตรงที่มือถือรุ่นนี้ใช้เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือด้านหลัง (รุ่น Pro สแกนนิ้วด้านข้าง) วางถัดลงมาจากกล้องทั้ง 4 ตัว
หน้าจอของ Redmi Note 9 ก็จะแตกต่างกับรุ่นพี่อยู่เล็กน้อย ด้วยขนาดที่เล็กกว่าอยู่ที่ 6.53 นิ้ว และเปลี่ยนตำแหน่งของรูกล้องบนหน้าจอมาอยู่ที่มุมซ้ายบนแทน
กล้องหลังของมือถือรุ่นนี้มีจำนวนเท่ากันที่ 4 ตัว แต่จะลดสเปคลงไปบ้าง ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP (f/1.79) + กล้อง Ultra wide ความละเอียด 8MP (f/2.2) มุมกว้าง 118° + กล้องจับความลึก 2MP (f/2.4) + กล้องมาโคร 2MP ระยะโฟกัสใกล้สุด 2 – 10 ซม.
ส่วนกล้องเซลฟี่ให้มาที่ความละเอียด 13MP พร้อมโหมดถ่ายภาพทั้ง Portrit Mode, Panorama Selfie, Palm Shutter และยังรองรับการปลดล็อคเครื่องด้วยใบหน้าอีกด้วย
แบตเตอรี่อัดมาให้จุกๆ เท่ากับรุ่นพี่ที่ 5020 mAh ใช้งานข้ามวันได้สบายๆ หรือถ้าใช้ไม่มากจะข้ามไป 2 วันเลยก็ยังได้
แบตเตอรี่เยอะอย่างเดียวไม่พอ เพราะถ้าระบบชาร์จยังอืดอาด กว่าจะชาร์จเต็มก็คงกินเวลาหลายชม. แต่ไม่ต้องห่วง เพราะ Redmi Note 9 รองรับระบบชาร์จไว 18W พร้อมกับแถมที่ชาร์จไวขนาด 22.5W มาให้อีกด้วย
สำหรับตัวท็อป Redmi Note 9 Pro จะวางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่น แบ่งออกตามหน่วยความจำดังนี้
รุ่นน้อง Redmi Note 9 จะวางจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่น เช่นกัน แบ่งออกตามหน่วยความจำดังนี้
Redmi Note 9 และ Redmi Note 9 Pro จะเริ่มวางจำหน่ายแบบทั่วโลกตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ส่วนในบ้านเราจะเข้ามาช่วงไหน และจะเปิดราคามาเท่าไหร่ เอาไว้ามารอลุ้นไปด้วยกันนะครับ
30/04/2020 01:34 PM
2014 © ปพลิเคชันไทย