หลังจากเปิดตัวไปเมื่อช่วงสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา สำหรับมือถือรุ่นกลางของ Samsung อย่าง Galaxy A51 ซึ่งเคาะราคาเปิดตัวมาแบบเบาๆ ไม่แพงมาก ที่ 10,490 บาท แต่หากเอามาใช้งานจริงๆ มือถือรุ่นนี้จะคุ้มค่ากับเงินหลักหมื่นที่เสียไปหรือเปล่า มาดูกันไปพร้อมๆ กันได้ เพราะเราไปใช้งานจริงมาแล้ว เล่นทุกด้าน ลองทุกเรื่อง
เริ่มจากการแกะกล่องเช็คของ เครื่องศูนย์ไทยมีอะไรให้มาบ้าง โดยภายในกล่องของ Galaxy A51 นั้น จะมีตัวเครื่อง, เคสใส, เอกสารคู่มือ, เข็มจิ้มซิม, ที่ชาร์จแบต 15W และหูฟังแบบ earbuds ที่ผมลองใช้งานแล้ว ก็รู้สึกว่า มันสามารถใช้แก้ขัดได้ ใช้โทรคุยได้สบายๆ คือถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องฟังเพลง หูฟังตัวนี้ก็ถือว่าใช้ได้เลย แต่ใส่แล้วอาจจะได้ยินเสียงภายนอกเล็ดลอดเข้ามาค่อนข้างเยอะนิดนึง
Galaxy A51 ที่ผมได้มารีวิวครั้งนี้เป็นสีชมพู Prism Crush Pink หวานแหวว งานประกอบตัวเครื่องแน่นมือครับ สัมผัสจับถือแล้วได้ความรู้สึกพรีเมียมนิดๆ ตัวเครื่องค่อนข้างบาง ฝาหลังพอจับๆ แล้วรู้สึกว่าติดรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย แต่พอเอามาส่องๆ หาดูกลับไม่ค่อยเห็นรอยอะไรสักเท่าไหร่ เออ แปลกใจเหมือนกัน
หน้าจอของ Galaxy A51 เป็นแบบ Super AMOLED ที่แน่นอนล่ะว่าสีสันสดใสตามท้องเรื่อง มีขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีการเจาะรูเล็กๆ ไว้บริเวณกลางหน้าจอแบบเดียวกับ Galaxy Note 10 การใช้งานกลางแจ้งถือว่าทำออกมาได้ดีเลยล่ะ สู้แสงแดดจ้าๆ บ้านเราได้แบบสบายๆ ส่วนตัวผมใช้แล้วรู้สึกว่าหน้าจอมันค่อนข้างใหญ่ไปนิดนึงนะ ใช้งานมือเดียวลำบากไปนิด อ้อ.. ลืมบอกไป หน้าจอของ Galaxy A51 เป็นแบบแบนราบนะครับ ไม่ใช่หน้าจอโค้ง
ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องจะมีเพียงแค่ถาดใส่ซิมเท่านั้น อยู่บริเวณเกือบๆ ฝั่งบนสุดของตัวเครื่องเลย
โยกมาฝั่งขวา จะเห็นว่ามีทั้งปุ่ม Power และปุ่มเพิ่มลดเสียงอยู่ด้านนี้
ถัดมาด้านล่าง ไล่จากซ้ายไปขวาเลยนะครับ จะเห็นว่า Galaxy A51 ยังไม่ตัดรูหูฟัง 3.5 มม. ออก! ซึ่งสำหรับผมตอนนี้ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ Rare Item มากๆ ในสมาร์ทโฟน, พอร์ต USB-C, ไมค์สนทนา และลำโพงที่ใส่ให้มาเป็นแบบโมโนอยู่ด้านล่างตรงนี้แหละ
ส่วนด้านบนมีเพียงแค่ไมค์ตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนภายนอกเวลาคุยโทรศัพท์เท่านั้น
Galaxy A51 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 ที่ครอบทับด้วย One UI 2.0 อีกที ซึ่งใครที่เคยเล่นมือถือ Samsung มาก่อน ก็น่าจะคุ้นเคยกับ UI นี้เป็นอย่างดี ฟีเจอร์อย่าง Blue Light Filter ที่เอาไว้ตัดแสงสีฟ้า หรือ Dark Mode ก็มีมาให้ครบ ความคิดเห็นส่วนตัว ผมมองว่า Galaxy A51 นั้น มีความลื่นไหลกว่าตัว Galaxy A50 หรือ Galaxy A50s อยู่พอสมควรเลย
โดย Galaxy A51 มีฟีเจอร์อีกหนึ่งตัวที่เพิ่มเข้ามาก็คือ Edge Panel ฟีเจอร์ที่ถ้าใครหลายคนเคยใช้ Galaxy Note หรือ S มาก่อน น่าจะพอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ปัดซ้ายบริเวณมุมขวาบนของหน้าจอ หน้าเมนูก็โผล่มาแล้ว ใครใช้แอปไหนบ่อยๆ ก็ไปตั้งค่าในเมนูนั้นได้
Galaxy A51 อัด RAM มาให้ 6GB และจากที่ใช้งานมาทั้งหมดเกือบๆ 2 สัปดาห์ การทำงานในเรื่องของ Multi-Task หรือการเปิดแอปทิ้งไว้หลายๆ แอป เจ้า Galaxy A51 ก็ทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจอยู่นะ เพราะส่วนตัวทุนเดิม เป็นคนไม่ชอบเคลียร์แอปทิ้งอยู่แล้ว เปิดแอปทิ้งไว้เกือบๆ 10 แอป เครื่องยังทำงานได้ดีอยู่ ไม่มีปัญหาอาการกระตุก
ส่วนการแบ่งหน้าจอ Galaxy A51 ก็ทำได้เหมือนกับมือถือทั่วไป เพียงแค่กด recent apps ขึ้นค้าง > คลิ๊กไปที่ไอคอนแอปที่ต้องการจะแบ่งหน้าจอ > เปิดในมุมมองแยกหน้าจอ > จากนั้นเลือกแอปที่อยากจะให้แบ่งหน้าจอได้เลยครับ ง่ายสุดๆ หรือใครอยากให้มันเด้งเป็นแบบป๊อปอัพ ก็ทำได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน เพียงแค่กด “เปิดในมุมมองป๊อปอัพ”
Galaxy A51 สามารถรับสัญญาณ Wi-Fi ได้ทั้งคลื่นความถี่ 2.4G และ 5G ครับ ตามมาตรฐานของมือถือในปัจจุบัน ที่ส่วนใหญ่รุ่นระดับกลางๆ เริ่มมาเป็นแบบนี้หมดแล้ว
โดย Galaxy A51 นั้นสามารถรับชม Content บน Netflix ได้แบบ HD หลังจากไปทดสอบบนแอป Widevine แล้วขึ้นว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ได้รับมาตรฐาน Widevine L1
แต่ถ้าใครไม่อยากโหลดแอป Widevine เพราะอาจจะไม่คุ้นในชื่อแอป หรืออะไรต่างๆ นะครับ ก็สามารถเช็คจากแอป Netflix ได้โดยตรงเลยนะครับ โดยทำง่ายๆ ด้วยการกดเข้าไปที่หนังหรือซีรีส์เรื่องไหนก็ได้ ซึ่งหากโทรศัพท์ของเราแสามารถดูแบบ HD ได้ มันก็จะแสดงข้อมูลบอกเลยด้านหลังชื่อเรื่อง
มาถึงเรื่องการนำทาง GPS กันบ้าง Galaxy A51 ถือว่าทำผลงานออกมาได้ค่อนข้างดีเลยครับ ใช้งานกับ Google Maps ได้ดี ไม่มีมั่ว ไม่พาหลง หรือใช้งานกับพวกแอปส่งของอย่าง Grab, LINEMAN ฯลฯ ก็ปักหมุดได้ตรง
กล้องหลัง Galaxy A51 ถือว่าอัพเกรดขึ้นมาจากตัว Galaxy A50s พอสมควร จากเดิมมีเพียงแค่ 3 ตัว มาใน Galaxy A51 รอบนี้ ใส่มาให้เพิ่มอีก 1 เป็น 4 ตัวแล้ว มีเซนเซอร์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล ที่มีมุมกว้างถึง 123 องศา, กล้อง Depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล สำหรับช่วยในการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ หรือโหมด Live Focus และสุดท้ายเป็นกล้อง Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ซึ่งคุณภาพที่ได้จากกล้อง Galaxy A51 จะเป็นยังไง จะให้ผมบอกว่ามันดีหรือไม่ดี ก็คงจะแปลกๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมอัพให้ดูด้านล่างนะครับ เพราะเข้าใจว่า บางคนอาจชอบภาพโทนแบบนี้ บางคนอาจชอบอีกอย่าง ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าทุกภาพจบหลังกล้องหมด ไม่มีการแต่งเพิ่มใดๆ ทั้งสิ้น
ตัวอย่างภาพกล้องหลัก
ตัวอย่างภาพ Ultra Wide
11/03/2020 07:54 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย