อากาศเมืองไทยก็ร้อนขึ้นทุกวัน จะออกไปซื้อข้าวแต่ละทีต้องคิดแล้วคิดอีก แต่สมัยนี้มีตัวช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเรามาก คือแอปพลิเคชั่นสั่งอาหาร ซึ่งมีด้วยกันหลายค่าย ว่าแต่สั่งแอปไหนมันจะคุ้มกว่ากัน ถ้าลองบวกกับค่าส่งแล้ว โดยเราได้ลองทดสอบใช้งาน LINE MAN – Grab Food – GET Food สามแอปสั่งซื้ออาหารยอดนิยมในปัจจุบันมาเปรียบเทียบให้ได้ทราบกัน
ตารางเปรียบเทียบราคาค่าบริการ และฟีเจอร์ต่างๆของแอปสั่งอาหารยอดนิยม LINE MAN – Grab Food – GET Food
ความแตกต่างของแต่ละแอป | LINE MAN | Grab Food | GET Food |
ค่าบริการ |
|
|
|
ความครอบคลุมของพื้นที่ |
|
|
|
เวลาให้บริการ |
|
|
|
ราคาของอาหาร |
|
|
|
ความหลากหลายในเมนูอาหารจากร้านเดียวกัน |
|
|
|
ช่องทางการชำระเงิน |
|
|
|
จำนวนร้านค้า |
|
|
|
โปรโมชั่น |
|
|
|
Grab Food แม้ว่าภาพรวมจะมีราคารวมถูกกว่าแอปอื่นๆ แต่ลองดูรายละเอียดทั้งหมดดีๆ ราคาอาหารจะสูงกว่าแอปอื่นตั้งแต่ 10 – 25 บาทเลยทีเดียว ส่วนที่ทำให้มันถูกกว่าคือราคาค่าส่งที่คิดคงที่เพียง 10 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ดีด้วยความที่ Grab Food จะมีโปรโมชั่นลดราคาอาหารบางเมนูบางร้านค้าออกมาเรื่อยๆ จึงอาจทำให้ราคารวมทั้งหมดออกมาแล้วถูกกว่าหรือเทียบเท่ากับแอปอื่นได้
LINE MAN หลายคนเห็นราคารวมแล้วน่าจะมีช็อค เพราะสูงกว่าอีกสองแอปมาก นั่นก็เป็นเพราะค่าจัดส่งที่มีคิดค่าส่งขั้นต่ำ 55 บาท ซึ่งได้ระยะทางเพียง 1 กิโลเมตรแรกเท่านั้น ส่วนกิโลถัดไปคิดที่ 9 บาทต่อกิโล ตามระยะทาง แถมถ้าสั่งในช่วงเวลาพิเศษ LINE MAN ยังมีการบวกค่าจัดส่งเพิ่ม 30-100 บาท ก็จะแพงยิ่งๆขึ้นไปอีก แต่ข้อดีคือราคาจะคิดตามจริงไม่มีบวกเพิ่ม
GET Food เป็นแอปกลางๆ ราคารวมจะไม่ได้แพงหรือถูก เนื่องจากไม่ได้มีโปรโมชั่นลดราคา และมีค่าจัดส่งเริ่มต้นที่ 10 บาท เท่ากับแอป Grab Food ส่วนราคาอาหารก็ตามจริงเท่ากับ LINE MAN ราคารวมจึงน่าจะเป็นที่พอใจของหลายๆ คน โดยเฉพาะถ้าร้านไหนที่ไม่ได้มีโปรโมชั่น เผลอๆ GET Food ก็น่าจะถูกกว่าใช้ Grab Food สั่งเสียอีก ด้วยราคาส่งที่ถูกและราคาสินค้าที่ตรงกับหน้าร้าน
ราคาจากแอป Grab จะเห็นได้ว่ามีราคาอาหารต่อเมนูแพงกว่าที่ร้าน แต่ก็จะมีส่วนลดค่าอาหารบางร้านออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ
ราคารวมจาก LINE MAN จะมีสูงกว่าคนอื่น เพราะค่าส่งที่แพงมหาโหด
GET FOOD ราคาอาหารตามจริง ค่าส่งไม่แพง จัดว่าดีที่สุดเลย
LINE MAN | Grab Food | GET FOOD | |
ค่าส่ง |
|
|
|
หลายคนน่าจะเคยเจอปัญหาอยากสั่งอาหารมากินแต่เงินสดติดตัวก็ไม่มี จะสั่งซื้ออาหารผ่านแอปทั้งทีหวังว่าจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตได้ไปเลยก็น่าจะดี ซึ่งจาก 3 แอปนี้ Grab เป็นเพียงแอปเดียวที่รองรับการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต อีกสองรายเราต้องเตรียมเงินสดเอาไว้ หน้าจะเมือก หัวจะฟู ก็ต้องพกเงินลงไปจ่ายให้กับพนักงานส่งอาหาร แต่ถ้าเป็น Grab จ่ายเงินผ่านบัตรไปเรียบร้อย จะให้เค้าฝากใครเอาไว้ก็ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องหาเงินเอาไปฝากไว้ได้ด้วย โดยนอกจากบัตรเครดิตแล้ว Grab ยังสามารถเลือกจ่ายด้วย Alipay ได้อีกด้วย รองรับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในประเทศเราได้เป็นอย่างดีอีกต่างหาก
ภายในแอปมีร้านอาหารให้เราได้เลือกมากกว่า 47,000 ร้านค้าทั่วกรุงเทพ ตั้งแต่ร้านอาหารชื่อดังยันสตรีทฟู้ดที่เป็นรถเข็น คือเราสามารถเลือกทานได้ตามความต้องการ และยังได้รับการการันตีจาก Wongnai ที่ขึ้นชื่อด้านอาหารว่าร้านนี้อร่อยจริง ถ้าทานร้านนี้คุณจะได้อาหารแบบในโฆษณาแน่ แถมสามารถสั่งอาหารจากในเว็บหรือแอป Wongnai ได้เลยด้วย
ถือเป็นแอปที่ขึ้นชื่อเรื่องการจัดโปรโมชั่นเรียกลูกค้าสุดๆ เหมาะกับสายประหยัดอย่างเราๆ มาก เพราะมีโปรโมชั่นออกมาให้ได้ใช้บ่อยๆ ไม่ว่าจะลดราคาค่าอาหาร, 1 แถม 1 และอีกมากมาย ซึ่งแอป LINE MAN, GET Food มีโปรโมชั่นน้อยแต่ก็พอมีอยู่ แต่ก็สู้แอป Grab Food ไม่ได้จริงๆ เพราะเค้าลดหนัก ลดจริง ลดถล่มทลายแบบไม่กลัวขาดทุนกันเลยทีเดียว ถือว่าดีสุดๆ สำหรับสายโปรโมชั่นอย่างเรา
โดยรวมแอปที่น่าใช้ที่สุดในปัจจุบัน คือ Grab Food โดยเฉพาะถ้าใครเป็นสายล่าโปรโมชั่นยิ่งคุ้มสุดๆ แต่ถ้าคุณสั่งเยอะๆ แนะนำ GET Food ดีกว่าเพราะค่าส่งถูกแถมไม่บวกราคาเพิ่มจากหน้าร้าน ส่วน LINE MAN มีร้านอาหารให้เลือกหลาหลาย ราคาอาหารไม่บวกเพิ่มแต่ค่าส่งแพงมาก เผลอๆ ค่าส่งแพงกว่าค่าอาหารซะอีก
สามารถดาวน์โหลดได้ทั้ง iOS และ Android
Grab
Grab - แอพจองรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และแท็กซี่ (Free, Google Play) →
Grab App (Free, App Store) →
GET
GET (เก็ท) - เรียกรถ ส่งของ สั่งอาหาร (Free, Google Play) →
GET - On Demand Lifestyle App (Free, App Store) →
LINE MAN
LINE MAN: แท็กซี่ อาหาร พัสดุ (Free, Google Play) →
LINE MAN: Taxi, Food, Postal (Free, App Store) →
24/05/2019 09:00 AM
24/05/2019 03:42 AM
24/05/2019 10:42 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย