เปิดตัว Xiaomi Mi 10 Lite 5G มาพร้อมชิป Snapdragon 765G, กล้อง 4 ตัว 48MP เคาะราคาราว 12,500 บาท - Android

เราได้เห็นมือถือเรือธงอย่างXiaom Mi 10 และ Mi 10 Pro เปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยสเปคระดับไฮเอนด์ แถมกล้องหลังระดับเทพ 108MP ซูม 50x ซึ่งแน่นอนว่าอัดสเปคแน่นขนาดนี้ ราคาก็เลยพุ่งขึ้นไปที่ราวๆ 18,000 – 26,000 บาท แต่ถ้าใครสนใจมือถือสเปคงามๆ แต่ราคาเบาๆ แถมรองรับ 5G ด้วย…ตอนนี้ Xiaomi Mi 10 Lite 5G ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวออกมาแล้ว โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 12,500 บาทเท่านั้น

เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่แล้ว Xiaomi ได้เปิดตัวมือถือซีรีส์เรือธง Mi 10 ในประเทศจีนไป และในวันนี้ (27 มีนาคม 2563) ก็ได้จัดงานเปิดตัวมือถือซีรีส์ดังกล่าวอีกครั้งนึง โดยคราวนี้เป็นงานแบบ Global ที่เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และที่เซอไพรส์ก็คือในงานครั้งนี้ดันมีมือถือรุ่นน้องเล็กของซีรีส์อย่าง Xiaomi Mi 10 Lite 5G มาเปิดตัวซะด้วย

Mi 10 Lite 5G มีดีไซน์ที่แตกต่างจากรุ่นพี่ ด้วยหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.57 นิ้ว ที่ใช้ Notch แบบหยดน้ำสำหรับวางกล้องเซลฟี่ แทนการใช้หน้าจอแบบเจาะรู แถมตัวเครื่องยังมีน้ำหนักเบาๆ แค่ 192 กรัม และมีความหนาแค่ 7.98 มม.

ถึงแม้ว่า Mi 10 Lite 5G จะไม่ได้ใช้ชิปตัวโหด Snapdragon 865 เหมือนรุ่นพี่ แต่ชิป Snapdragon 765G ก็เรียกว่าใช้งานทุกอย่างได้อย่างเหลือเฟือแล้ว แถมชิปรุ่นนี้ยังมีโมเด็ม 5G ในตัว ทำให้ไม่ต้องใส่โมเด็มเสริมเข้าไป Mi 10 Lite 5G ก็เลยมีตัวเครื่องที่บาง และเบากว่านั่นเอง แถมยังมากับระบบระบายความร้อนแบบ LiquidCool ช่วยลดอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ระหว่างการใช้งาน หรือเล่นเกมเป็นเวลานานติดต่อกัน

Xiaomi Mi 10 Lite 5G มีกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียดที่ 48MP มาพร้อมโหมดถ่ายภาพล้ำๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็น Night Mode 2.0, AI Dynamic Skyscaping, Pro Mode, ถ่ายวิดีโอสโลวโมชั่น 120fps ฯลฯ ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ความละเอียด 16MP

Xiaomi Mi 10 Lite 5G จะมีตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือ สีขาว สีเทา และสีเขียว โดยจะวางจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่น คือรุ่นความจุ 64GB ราคา 349 ยูโร หรือประมาณ 12,500 บาท และรุ่นความจุ 128GB อยู่ที่ 399 ยูโร หรือประมาณ 14,300 บาท เริ่มวางจำหน่ายภายในเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป

นับว่า Xiaomi Mi 10 Lite 5G เป็นมือถือรองรับการใช้งาน 5G ที่เปิดราคามาได้น่าสนใจมากเลยทีเดียว ต้องมารอลุ้นกันอีกทีครับ ว่ามันจะมีโอกาสเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านด้วยรึเปล่า เพราะราคาที่ประกาศในงาน เป็นราคาของโซนยุโรปซึ่งมีภาษีแพงกว่าบ้านเราอยู่ราวๆ 15 – 20% เลยนั่นเอง