เปิดตัว Redmi Watch หน้าปัดสี่เหลี่ยม สเปค+ฟีเจอร์ครบ แบต 12 วัน กันน้ำ 50 เมตร ราคาแค่พันนิดๆ - Android

นอกจากจะเปิดตัว Redmi Note 9 Series มือถือที่มาพร้อมกับกล้องความละเอียดสูงสุด 108MP และรองรับการใช้งาน 5G พวกเขาก็ได้เปิดตัวสมาร์วอทช์อย่าง Redmi Watch หน้าปัดสี่เหลี่ยม 1.4 นิ้ว แบตใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 12 วัน และกันน้ำ 50 เมตร ทั้งหมดนี้ในราคาเพียงแค่ 299 หยวน หรือประมาณ 1,400 บาทเท่านั้น

Redmi Watch มาพร้อมกับหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมขนาด 1.4 นิ้ว ความละเอียด HD ใช้กระจกแบบ 2.5D สามารถควบคุมการใช้งานผ่านหน้าสัมผัส มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 35 กรัมเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นผู้ใช้งานสามารถเลือกเปลี่ยนปรับเปลี่ยน Watch Faces ผ่านแอป Mi Fit ได้มากกว่า 120 แบบ ถือว่าเยอะมากจริงๆครับ และคาดว่าจะมีอัปเดทเพิ่มเติมอีกในอนาคต

ส่วนโหมดออกกำลังกาย Redmi Watch ก็ให้มาครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันมากๆ โดยมีให้เลือกถึง 7 โหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดินออกกำลัง การวิ่งหรือการปั่นจักรยานทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง รวมไปถึงการออกกำลังกายทั่วไป และยังสามารถใส่ว่ายน้ำได้ เพราะผ่านมาตรฐานกันน้ำได้ที่ระดับ 5ATM ทำให้ลงน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเซ็นเซอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง, ตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับ และยังช่วยให้ผู้ใช้งานผ่อนคลายด้วยการฝึกหายใจได้อีกด้วย

ส่วนการแจ้งเตือนก็รองรับทั้งแอป, การโทร, SMS, กิจกรรมการออกกำลังกาย การตรวจวัดหัวใจ และการเชื่อมต่อ Bluetooth ฯลฯ รวมไปถึงควบคุมเพลง, ค้นหาโทรศัพท์, ตรวจสอบสภาพอากาศ, เข็มทิศดิจิตอล, นาฬิกาปลุกและจับเวลาได้อีกด้วย

Redmi Watch สามารถใช้งานได้นานสุดถึง 12 วัน ด้วยโหมดประหยัดพลังงาน และในโหมดปกติสูงสุด 7 วัน ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จ 0% – 100% เพียงแค่ 2 ชั่วโมง โดยรองรับการใช้งานกับมือถือทั้ง Android และ iOS ด้วยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0 BLE  ที่สามารถทำงานได้ไกล และรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น แถมยังประหยัดพลังงานอีกด้วย

และผู้ใช้ยังสามารถสั่งงานผ่าน Xiao AI ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะด้วยคำสั่งเสียง และเชื่อมต่อระบบ NFC เพื่อใช้ในการชำระเงิน หรือล็อคประตูดิจิตอลได้อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ฟังก์ชั่นนี้มีเฉพาะเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในประเทศจีนเท่านั้น

Redmi Watch จะมีราคาอยู่ที่ 299 หยวน หรือราวๆ 1,400 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศจีนในวันที่ 1 ธันวาคม 2020 เป็นต้นไป ส่วนประเทศอื่นๆ อันนี้ต้องรออัปเดตข้อมูลกันอีกทีนึงครับ

ที่มา : GSMArena, Android Authority via Xiaomi