Xiaomi ขอเริ่มต้นปีด้วยมือถือราคาเบาๆ แต่อัดแน่นด้วยสเปค+ฟีเจอร์ ซึ่งคราวนี้มาทีเดียว 2 รุ่นพร้อมกัน คือ Redmi 9T และ Redmi Note 9T 5G โดยรุ่นหลังนับว่าเป็นมือถือ 5G สเปคครบครันที่มีค่าตัวเอื้อมถึงได้ง่ายสุดๆ ด้วยราคาที่เปิดมาไม่ถึงหมื่นบาทเท่านั้น
เริ่มกันที่มือถือสเปคสุดคุ้มอย่าง Redmi 9T สำหรับคนที่ยังไม่ต้องการความรวดเร็วของระบบ 5G โดยมือถือรุ่นนี้มากับฝาหลังสีสันสดสวยให้เลือกมากถึง 4 สี คือ สีเทา Carbon Gray, สีฟ้า Twilight Blue, สีส้ม Sunrise Orange และสีเขียว Ocean Green
นอกจากจะมีสีสันหลากหลายแล้วยังทำมาจากวัสดุที่หยดน้ำไม่เกาะ, กันรอยนิ้วมือ และไม่ลื่นหลุดง่ายๆ อีกด้วย ส่วนด้านข้างเครื่องมีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือรุ่นใหม่ที่มีความแม่นยำและรวดเร็วกว่าเดิม
กล้องหลังของ Redmi 9T จัดมาให้ทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP + กล้อง Ultra wide 8MP + กล้องจับความลึก 2MP + กล้องมาโคร
ประสิทธิภาพเครื่องก็หายห่วงด้วยชิป Snapdragon 662, ความจุแบบ UFS 2.2 พร้อมเทคโนโลยี Writebooster เพิ่มความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูล ทำให้การใช้งานต่างๆ มีความลื่นไหลมากกว่าเดิม
จะใช้งานด้านบันเทิงก็ไม่มีปัญหาด้วยหน้าจอ LCD ขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ แถมยังมาพร้อมลำโพงคู่บน-ล่าง ช่วยเพิ่มมิติให้เสียงมากขึ้นไปอีก
อีกหนึ่งจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้ก็คือแบตเตอรี่ขนาดยักษ์ 6000 mAh ที่ Xiaomi เคลมว่าสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 2 วันครึ่ง ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง สามารถใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้ถึง 195 ชม., เล่นเกมต่อเนื่องได้ 14 ชม., ดูหนังแบบออฟไลน์ได้ 17 ชม., คุยโทรศัพท์ได้ยาวถึง 56.6 ชม. และยังรองรับการชาร์จไว 18W อีกด้วย (มีหัวชาร์จ 22.5W แถมมาให้ในกล่อง)
นอกจากนี้ยังเป็นแบตเตอรี่แบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยียืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ทำให้ความสามารถในการเก็บประจุไฟมีประสิทธิภาพดีขึ้นจนใช้ได้ยาวๆ เกือบ 4 ปี ผู้ใช้ถึงจะรู้ตัวว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมเพราะใช้งานได้สั้นลง
ต่อด้วยมือถือสำหรับคนชอบความเร็วด้วยเทคโนโลยี 5G กับ Redmi Note 9T 5G มือถือสเปคครบเครื่องที่มากับชิป Dimensity 800U พร้อมความจุแบบ UFS 2.2 ที่มีความเร็วในการอ่าน-เขียนข้อมูลไวกว่า ทำให้ไม่ว่าจะเล่นเกมกราฟิก 3D หรือจะดูหนังความละเอียดสูง ก็ไม่มีอาการหน่วงให้รำคาญใจ
และหากใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน Redmi Note 9T ก็ยังมีระบบตรวจจับความร้อนมากถึง 7 จุด เพื่อใช้ระบบ AI ในการคำนวณว่าส่วนไหนที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น จากนั้นก็จะไปลดการทำงานของส่วนนั้นลงเพื่อป้องกันความร้อนที่สูงเกินไปจนอาจเกิดความเสียหาย
ใช้งานได้ยาวๆ เกิน 2 วัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh แถมยังใช้เทคโนโลยีในการยืดอายุแบตเตอรี่จนสามารถใช้ได้นานถึง 3 ปี กว่าที่ประสิทธิภาพในการเก็บประจุจะลดลงไป
Redmi Note 9T มีฝาหลังที่ใช้วัสดุป้องกันน้ำเกาะ, กันรอยนิ้วมือ และกันลื่น มีดีไซน์ตัวเครื่องแบบ Unibody และมีฝาหลังแบบ 3D Curved ที่จับได้เข้ามือ ไม่ลื่นหลุด มีด้วยกัน 2 สีคือ สีดำ Nightfall Black และสีม่วง Daybreak Purple
Redmi Note 9T มีหน้าจอ LCD ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ และทนทานด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ที่จะช่วยป้องกันการขีดข่วนต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
เข้าถึงอารมณ์ในการฟังเพลง, เล่นเกม และดูหนังมากขึ้นด้วยลำโพงคู่ด้านบน-ล่าง ที่จะช่วยเพิ่มความกระหึ่ม และมิติของเสียงให้มากขึ้น
กล้องหลังของมือถือรุ่นนี้มีทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP + กล้องจับความลึก 2MP + กล้องมาโคร 2MP พร้อมกล้องเซลฟี่ความละเอียด 13MP
Redmi Note 9T จะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยผ่าน JD Central ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2564 ส่วน Redmi 9T จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2564 เป็นต้นไปครับ
08/01/2021 01:58 PM
2014 © ปพลิเคชันไทย