เปิดตัว OnePlus 8T จอ AMOLED 6.55 นิ้ว 120Hz HDR10+, ชิป SD 865 5G, แบต 4500mAh ชาร์จไว 65W - Android

เปิดตัวมาตามนัดสำหรับ OnePlus 8T จัดเต็มด้วยสเปคสุดเทพในระดับเรือธง ด้วยหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว รองรับ HDR10+ รีเฟรชเรท 120Hz ชิปเซ็ต Snapdragon 865 สุดแรง กล้องหลังให้มาถึง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP แบต 4500mAh ชาร์จไว 65W และรองรับ 5G ราคาเริ่มต้นประมาณ 22,000 บาท

หน้าจอแสดงผลขั้นเทพ

OnePlus 8T จะมาพร้อมกับหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ มีสีสันที่จัดจ้านครอบคลุมถึง 100% ของสเปกตรัม DCP-P3 รองรับ HDR10+ สามารถรับมือกับการใช้งานกลางแจ้งได้อย่างไม่มีปัญหาด้วยความสว่างสูงสุดถึง 1,100 นิต ปรับระดับความสว่างได้ละเอียดยิบกว่า 8,000 ระดับ เสริมอรรถรสและความฟินในการรับชมคอนเทนต์ด้วยรีเฟรชเรท 120Hz ลื่นไหลเนียนตา ตอบสนองได้รวดเร็ว 240Hz อีกทั้งยังมีความเที่ยงตรงของสีที่สูงมาก ๆ ตามมาตรฐาน JNDC ≈0.3 การันตีคุณภาพโดย DisplayMate ด้วยคะแนนระดับ A+

ตัวเครื่องบาง เบา ให้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียน

บริเวณมุมซ้ายบนจะมีการเจาะรูเอาไว้ เพื่อเป็นที่สำหรับวางกล้องเซลฟี่ความละเอียด 16MP และทั้งหมดจะถูกครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 6 จาก Corning อีกทีหนึ่ง ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะฝังอยู่ที่ด้านใน ตัวเครื่องจะมีความหนาเพียง 8.4 มม. (ไม่รวมกล้อง) และมีน้ำหนักเพียง 188 กรัม ฝาหลังผ่านกระบวนการผลิตแบบพิเศษ ทำให้ได้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียนไม่เหมือนใคร มีด้วยกัน 2 สี คือ สีเขียว Aquamarine Green และสีเงิน Lunar Silver

กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48MP

พลิกมาที่ด้านหลังจะเจอกับกล้องจำนวน 4 ตัว วางเรียงกันในลักษณะตัว L ประกอบด้วย กล้องหลัก 48MP กล้องอัลตร้าไวด์ 16MP กล้องมาโคร 5MP และกล้องจับความลึก 2MP พร้อมไฟแฟลช LED อีก 2 ดวง มีโหมด Nightscape ที่สามารถใช้งานร่วมกันการถ่ายวิดีโอได้ ช่วยให้ได้ภาพที่สว่างแม้จะถ่ายในที่แสงน้อยก็ตาม ปุ่ม Alert Slider ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ทโฟนแบรนด์นี้ไปแล้วก็ยังคงใส่มาให้เหมือนเดิม

ชิปเซ็ตระดับเรือธง ระบบระบายความร้อนปรับปรุงใหม่

ทาง OnePlus เลือกใช้ Snapdragon 865 จาก Qualcomm เป็นชิปของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เช่นเดียวกับ OnePlus 8 Pro ที่เป็นเรือธงรุ่นก่อนหน้า ดังนั้นเรื่องประสิทธิภาพความแรงคงไม่ต้องพูดกันให้มากความ แถมระบบระบายความร้อนเองก็ถูกขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 285% ทำให้สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างคงที่ ไม่ต้องกลัวประสิทธิภาพการทำงานตกเพราะเครื่องร้อนขณะเล่นเกมหรือใช้งานหนัก

ชาร์จแบต 0 – 100% ได้ภายใน 40 นาที

OnePlus 8T มี RAM และสตอเรจสูงสุดที่ 12GB + 256GB ส่วนแบตเตอรี่จะมีความจุเท่ากับ 4500mAh รองรับชาร์จไวด้วย Warp Charge 65W เสียบชาร์จแค่ประมาณ 40 นาทีแบตก็เต็มแล้ว โดย OnePlus เคลมว่า ตัวเครื่องจะไม่ร้อนในขณะที่กำลังชาร์จด้วย

Android 11 ตั้งแต่แกะออกจากกล่อง

ความเจ๋งอีกอย่างหนึ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับ OnePlus มายาวนาน นั่นก็คือ ระบบปฏิบัติการที่ลื่นไหล โดยในคราวนี้ OnePlus 8T จะมาพร้อมกับ OxygenOS 11 บน Android 11 ตั้งแต่แกะออกจากกล่องเลย รับประกันทั้งความเร็วและความคลีนเช่นเคย แถมยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพียบ (รอติดตามรายละเอียดได้ในเร็ว ๆ นี้)

สเปค OnePlus 8T

• หน้าจอ : Fluid AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, สัดส่วน 20:9, อัตรารีเฟรช 120Hz, อัตราตอบสนอง 240Hz, 100% DCI-P3, HDR10+
• ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 865
• หน่วยความจำ : RAM 8GB / 12GB LPDDR4x
• สตอเรจ : 128GB / 256GB UFS 3.1
• ระบบปฏิบัติการ : OxygenOS 11 บน Android 11
• กล้องหลัง :
  • กล้องหลัก 48MP, ƒ/1.7, เซ็นเซอร์ Sony IMX586, PDAF+CAF, OIS + EIS
  • กล้องอัลตร้าไวด์ 16MP, ƒ/2.2, มุมกว้าง 123 องศา
  • กล้องมาโคร 5MP, ƒ/2.4
  • กล้องจับความลึก 2MP, ƒ/2.4
• กล้องหน้า : 16MP, ƒ/2.4, เซ็นเซอร์ Sony IMX471
• เสียง : ลำโพงคู่สเตอรีโอ, รองรับ Dolby Atmos
• การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 6, Bluetooth 5.1, NFC, USB Type-C
• เซ็นเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, color spectrum
• แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว Warp Charge 65W (10V/6.5A)
• สี : ◉ เขียว Aquamarine Green, ◉ เงิน Lunar Silver

ราคาและการวางจำหน่าย

OnePlus 8T แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย ตามหน่วยความจำ ดังนี้

• RAM 8GB +128GB – ราคา 599 ยูโร ≈22,000 บาท
• RAM 12GB + 256GB – ราคา 699 ยูโร ≈25,500 บาท

เริ่มวางเปิดให้พรีออร์เดอร์แล้วในวันนี้ที่โซนยุโรป และจะวางจำหน่ายแบบปรกติต่อไปในวันที่ 20 ตุลาคม สำหรับแฟน ๆ OnePlus บ้านเราก็ไม่ต้องรอนาน เพราะบริษัทได้ออกมาชิงประกาศตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วว่า OnePlus 8T จะเปิดตัวที่ประเทศไทยในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ พร้อม ๆ กับต่างประเทศเลย ! ใครที่สนใจก็สามารถรอติดตามความคืบหน้ากันได้ที่เว็บไซต์ DroidSans ของเราเช่นเคยครับ