สมกับเป็น One More Thing จริง ๆ สำหรับงานเปิดตัวของ Apple ที่ช่วงท้ายปีขยันออกมารัว ๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้เองทาง Apple ก็เคยแง้มมาแล้วว่าต่อไป Mac จะเปลี่ยนถ่ายจากซีพียู Intel สถาปัตยกรรม x86 มา ARM ที่เป็น Apple Silicon ทั้งหมดภายใน 2 ปี โดยคราวนี้ได้เปิดตัว Mac ทีเดียวถึง 3 รุ่นรวดทั้ง MacBook Air, MacBook Pro และ Mac mini ซึ่งใช้ซีพียู Apple M1 เหมือนกันทั้งหมด
บอกเลยว่าภายในงานเปิดตัว Apple นี่ค่อนข้างภูมิใจนำเสนอชิปใหม่ของเขามากเลยทีเดียว ซึ่งเจ้าตัว Apple M1 นี้ใช้สถาปัตยกรรมกระบวนการผลิตที่ 5nm มีจำนวนทรานซิสเตอร์สูงถึง 16,000 ล้านตัว แบ่งเป็น CPU 8 Core, GPU 8 Core และ 16 Core Neural Engine รองรับคำสั่งได้ถึง 11 ล้านล้านคำสั่งต่อวินาที พร้อมกับเพิ่มฟีเจอร์เรื่องการถอดรหัสมีเดียโค้ด และความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
(CPU คอร์เร็วที่สุด, การ์ดจอออนบอร์ดแรงที่สุด และ เป็นซีพียูใช้พลังงานต่อวัตต์ได้ดีที่สุด)
โดยซีพียู Apple M1 ทาง Apple ก็เคลมไว้เยอะเลยว่าเป็นซีพียู Core ที่เร็วที่สุดในโลก ตอบสนองได้เร็วกว่าเดิมถึง 1.9 เท่า มีการ์ดจอออนบอร์ดที่แรงที่สุดในโลก อีกทั้งเมื่อเทียบเรื่องการใช้พลังงานต่อวัตต์แล้วตัวประสิทธิภาพก็ดีที่สุดในโลกเช่นกัน ซึ่ง CPU ประสิทธิภาพจะดีกว่าซีพียูบนโน้ตบุ๊คทั่วไปถึง 2 เท่า ในขณะที่ใช้พลังงานแค่หนึ่งในสี่ส่วน และ GPU ทำได้ดีว่า 2 เท่า แถมใช้พลังงานเพียงหนึ่งในสามส่วนเท่านั้น
(ซ้าย บอร์ดแบบเดิมที่ชิปแยกกันอยู่, ขวา Apple M1 ที่รวมทุกอย่างในก้อนเดียว )
สิ่งที่ทำให้ Apple M1 ทำงานได้รวดเร็วขนาดนี้นอกจากเรื่องของสถาปัตยกรรมใหม่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งเลยก็คือเป็นเพราะตัวซีพียูออกแบบให้ชิปหน่วยประมวลต่าง ๆ ยัดลงในตัวชิปตัวเดียวรวมเป็นก้อนเดียว ไม่แยกออกจากกันเหมือนเครื่องที่ผ่าน ๆ มา กล่าวคือทั้ง CPU, GPU, Neural Engine และ Ram จะอยู่มัดอยู่รวมกันหมด ทำให้ชิปทั้งหมดเวลาทำงานสื่อสารหากันได้รวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง
สำหรับผลิตภัณฑ์แรกที่ Apple ได้เปิดตัวมาต่อจาก Apple M1 ก็คือ MacBook Air โดยเจ้าโน้ตบุ๊ครุ่นใหม่นี้ดีไซน์และการออกแบบภายนอกต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิมกับ MacBook Air 13 ปี 2020 ที่ใช้สเปคเป็น Intel ปกติ สิ่งที่ต่างกันจะเป็นแค่เรื่องของสเปคภายในเท่านั้น รวมถึงตัว MacBook Air รุ่นใหม่นี้เองจะตัดพัดลมระบายความร้อนออกไป ทำงานมีการทำงานที่ได้เงียบกว่าเดิม (แต่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาความร้อนตามมานะ)
ซีพียูApple M1 บน MacBook Air รุ่นใหม่นี้ จะ
สิ่งที่อัปเกรดขึ้นมานอกจากเรื่องของสเปคก็คือพอร์ตเชื่อมต่อที่เปลี่ยนจาก Thunderbolt 3 เป็น Thunderbolt / USB 4 มาตรฐานใหม่ รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 กล้องเว็บแคมที่พัฒนาคุณภาพให้ดีกว่าเดิม ลด Noise เพิ่ม dynamic range ปรับปรุงค่า White Balance ช่วยให้การวิดีโอคอลเป็นไปอย่างราบรื่น สมจริงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเรื่องแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 18 ชั่วโมงด้วยกัน อึดสะใจกันเลยทีเดียว
ถัดมาดูทางด้าน MacBook Pro 13 กันบ้าง ซึ่งต้องบอกเลยว่ามาทรงแบบเดียวกับ MacBook Air คือดีไซน์แบบเดิม เพิ่มเติมคือสเปคภายในใหม่ โดยแน่นอนว่ามาพร้อมกับชิป Apple M1 ที่แรงกว่ารุ่น Air โดยใช้รูปทรงบอดี้จะใช้เป็นตัวเดียวกับ MacBook Pro 13 ปี 2020 สเปค Intel Gen 8 ที่มีพอร์ต Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต แต่ของใหม่จะเป็น Thunderbolt / USB 4 แทน และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ด้วย
(MacBook Pro 13 รุ่นใหม่มีพัดลมและฮีทซิงค์ระบายความร้อนมาให้อยู่นะ)
ความแรงของ Apple M1 บน MacBook Pro 13 นี้จะเร็วกว่ารุ่นเดิมถึง 2.8 เท่า ในขณะที่ GPU เร็วขึ้นกว่าเดิมสูงสุด 5 เท่า รวมทั้ง Neural Engine เรียนรู้ระบบ
ปิดท้ายด้วย Mac mini ที่เป็น Desktop PC ไซส์เล็กแต่บอกเลยว่าสเปคนี่ใหญ่และแรงกว่าเดิมมาก ในเรื่องของดีไซน์บอดี้คือไม่ได้ต่างจากรุ่นเดิม อารมณ์เดียวกับ MacBook 2 รุ่นก่อนหน้าที่เปลี่ยนแค่สเปคภายใน หน้าตาภายนอกแทบจะเหมือนรุ่นเดิมเป๊ะๆ
สำหรับชิป Apple M1 บน Mac mini รุ่นใหม่นี้การประมวลผลจะเร็วขึ้นเดิม
พอร์ตเชื่อมต่อก็ถือว่าให้มาค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็น Ethernet, Thunderbolt / USB 4 จำนวน 2 ช่อง, HDMI 2.0, USB 3.1 gen 2 Type A จำนวน 2 ช่อง และรูหูฟัง 3.5 มม. ปกติ อีกรองรับการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Wi-Fi 6 มาตรฐานใหม่ โดยตัวเครื่องสามารถต่อจอได้ความละเอียดสูงสุดถึง 6K ด้วยกัน
ทั้ง MacBook Air, MacBook Pro และ Mac mini จะเปิดให้สั่งจองพรีออร์เดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการอาทิตย์หน้า (แต่ในหน้าเว็บประเทศไทยยังไม่มีให้กดนะ)
MacBook Air ชิป M1 จะมีให้เลือก 3 สีคือ เทาสเปซเกรย์, ทอง และเงิน
MacBook Pro 13 ชิป M1 จะมีให้เลือก 2 สีคือ เทาสเปซเกรย์, และเงิน
Mac mini ชิป M1 จะมีให้เลือก 2 ราคาคือ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ทางหน้าเว็บ Apple ประเทศไทยก็ได้เอา Mac ทั้ง 3 รุ่นที่เปิดตัวขึ้นหน้าเว็บไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนอยากจะดูรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ : https://www.apple.com/th/
10/11/2020 08:52 PM
2014 © ปพลิเคชันไทย