รู้กันอยู่แล้วว่าในงาน Galaxy UNPACKED ที่เพิ่งจบไป Samsung จะมีสินค้ามาเปิดตัวมากถึง 5 ชิ้น และหนึ่งในนั้นก็คือ Galaxy Tab S7 และ Galaxy Tab S7+ (จริงๆ ก็ต้องนับเป็นสองอะนะ ) ว่าแต่แท็บเล็ตซีรีส์นี้จะมีสเปคประมาณไหน มาหาคำตอบได้ในบทความนี้เลยครับ
Galaxy Tab S7+ ตัวท็อป จะมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 12.4 นิ้ว (ขนาดเกือบจะเท่าโน้ตบุ๊คแล้ว) ความละเอียด 2800 x 1752 พิกเซล อีกทั้งรอบนี้ยังใส่ค่ารีเฟรชเรทมาให้สูงถึง 120Hz อีกด้วย ส่วน Galaxy Tab S7 รุ่นธรรมดา จะมากับจอขนาดที่ไล่เลี่ยกันที่ 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล รีเฟรชเรท 120Hz เท่ากัน แต่จะใช้หน้าจอเป็นประเภทแบบ LCD เรียกว่าหน้าจอของทั้ง 2 รุ่น ถือว่าใหญ่ขึ้นกว่าเดิมพอสมควรเลยทีเดียว
Galaxy Tab S7 และ Galaxy Tab S7+ มากับลำโพง Surround ทั้งหมด 4 ตัว ที่ได้รับการปรับแต่งจูนเสียงโดยบริษัทเครื่องเสียงระดับโลกอย่าง AKG อีกทั้งยังรองรับระบบเสียงแบบ Dolby Atmos อีกด้วย แน่นอนว่าคุณภาพเสียงที่ได้ แทบจะไม่ต่างอะไรกับตอนไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์เลย
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อ Galaxy Tab S7 หรือ Galaxy Tab S7+ ทุกท่าน จะได้รับบริการ YouTube Premium นาน 4 เดือน ไม่ต้องเสียค่าบริการซักบาท ดูคอนเทนต์บน YouTube ได้แบบไม่มีสะดุด ไม่มีโฆษณาคั่น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงคอนเทนต์ YouTube Originals ได้อีกด้วย
ทั้งคู่ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์ Snapdragon 865+ ที่ Qualcomm เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อน พร้อมกับ RAM ที่เริ่มต้นที่ 6GB ขณะที่ความจุก็เริ่มต้นที่ 128GB เหมือนกัน โดยหากใครยังไม่พอใจ ก็สามารถซื้อ microSD Card มาใส่เพิ่มได้สูงสุด 1TB
แถมครั้งนี้ Galaxy Tab S7 และ Galaxy Tab S7+ ยังมีโมเด็ม Snapdragon X55 หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ แท็บเล็ตทั้ง 2 รุ่นนี้สามารถใช้งาน 5G ได้ด้วยนั่นเอง (…แต่ก็ต้องมารอลุ้นกันอีกทีว่าหากเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราแล้ว จะรองรับคลื่นไหนบ้าง)
Galaxy Tab S7 และ Galaxy Tab S7+ จะมีกล้องหลังชุดเดียวกัน ก็คือตัวหลักความละเอียด 13MP + กล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 5MP อีกทั้งยังมีไฟแฟลช LED สำหรับไว้ใช้ถ่ายรูป หรือใช้เป็นไฟฉายอีกด้วย
โดย Galaxy Tab S7 และ Galaxy Tab S7+ จะมากับฟีเจอร์ DeX รุ่นใหม่ ที่รอบนี้บอกเลยว่า Samsung จัดเต็มกว่าเดิม ไม่ต้องง้อสายเคเบิ้ลอีกต่อไป สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้แล้ว ขอแค่มี Smart TV หรือ Monitor ที่รองรับการใช้งานแบบไร้สายก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
หน้าจอใหญ่ขึ้น แถมมีค่ารีเฟรชเรท 120Hz แน่นอนว่าเจ้า Galaxy Tab S7 และ Galaxy Tab S7+ จะต้องซดแบตแน่ๆ ทำให้ Samsung อัดแบตมาให้แบบจัดเต็มที่ 8000 mAh ในรุ่นธรรมดา และ 10090 mAh ในรุ่นท็อป เรียกว่าลากใช้งานได้ 2 – 3 วันแน่นอน แถมยังรองรับระบบชาร์จไวที่ความเร็ว 45W อีกด้วย ใช้เวลาชาร์จไม่กี่นาที แบตก็เต็มแล้ว
ทั้งสองรุ่นมากับปากกา S-Pen รุ่นใหม่ ที่รอบนี้บอกเลยว่าอัปเกรดสเปคมาแบบจัดเต็ม ค่าความหน่วง หรือ Latency จากเดิมในแท็บเล็ตรุ่นก่อนๆ จะอยู่ที่ 59ms แต่ใน Galaxy Tab S7 Series เจ้าปากกาสุดเจ๋งรุ่นนี้ จะมีค่า Latency ลดลงเหลือเพียงแค่ 9ms เท่านั้น เรียกว่าแทบจะไม่ต่างอะไรกับการเขียนกระดาษจริงๆ
แถมเคสคียบอร์ด Book Cover Keyboard สามารถปรับองศาได้สูงสุดที่ 165 องศาอีกด้วย
Galaxy Tab S7 และ Galaxy Tab S7+ จะเริ่มส่งมอบในวันที่ 21 สิงหาคมที่จะถึงนี้ (ในประเทศแถบยุโรป) โดยราคาแต่ละรุ่นก็มีทั้งหมดดังนี้..
ส่วนจะเข้าไทยเมื่อไหร่ อันนี้ก็ต้องอดใจรอกันอีกซักแป๊บนึงครับผม
05/08/2020 03:21 PM
2014 © ปพลิเคชันไทย