เหล่าบรรดามือถือเรือธงเปิดตัวกันมาครบหมดแล้ว ล่าสุดคือ OnePlus 8 Pro และทางด้าน Huawei P40 series ก็เพิ่งประกาศราคาในไทยไปด้วย เราลองมาดูสเปคของบรรดามือถือเรือธงพร้อมเปรียบเทียบกันแบบคร่าวๆ กับ Galaxy S20 Ultra, Find X2 Pro และ Mi 10 Pro กันเลยดีกว่าครับ
P40 Pro | Galaxy S20 Ultra | Find X2 Pro | OnePlus 8 Pro | Mi 10 Pro | |
หน้าจอ | OLED 6.58″ 2640 x 1200 90Hz | Dynamic AMOLED 2X 6.9″ QHD+ (Full HD+ 120Hz) | AMOLED 6.7″ QHD+ 120Hz | Fluid AMOLED 6.78″ QHD+ 120Hz | AMOLED 6.67″ FHD+ 90Hz |
ชิปเซ็ต | Kirin 990 5G | Exynos 990 | Snapdragon 865 | Snapdragon 865 | Snapdragon 865 |
RAM | 8GB | 12GB | 12GB | 8/12GB | 8/12GB |
ความจุ | 512GB | 128GB | 512GB | 128/256GB | 128/256GB |
หน่วยความจำนอก | รองรับ NM Card | รองรับ Micro SD | – | – | – |
กล้องหลัง | 4 ตัว Main: 50MP f/1.9 OIS Ultra Wide: 40MP f/1.8 Tele: 12MP f/3.4 OIS 3D Depth Sensing Camera | 4 ตัว Main: 108MP f/1.8 OIS Ultra Wide: 12MP f/2.2 Tele: 48MP f/3.5 OIS Depth Vision | 3 ตัว Main: 48MP f/1.7 Ultra Wide: 48MP f/2.2 Tele: 13MP | 4 ตัว Main: 48MP f/1.7 OISUltra Wide: 48MP f/2.2Tele: 8MP f/2.44 OISColour Filter Camera: 5MP f/2.4 | 4 ตัว Main: 108MP f/1.7 Ultra Wide: 20MP f/2.2 Short Tele: 12MP f/2.0 Long Tele: 8MP f/2.0 |
Optical Zoom | 5x | 4x | 5x (Hybrid Optical) | 3x | 5x |
Digital Zoom | 50x | 100x | 60x | 30x | 50x |
กล้องหน้า | 32MP AF + Depth Camera | 40MP AF f/2.2 | 32MP | 16MP f/2.45 | 20MP f/2.0 |
เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | ใต้หน้าจอ Optical | ใต้หน้าจอ Ultrasonic | ใต้หน้าจอ Optical | ใต้หน้าจอ Optical | ใต้หน้าจอ Optical |
5G | รองรับ | รองรับ | รองรับ | รองรับ | รองรับ |
แบตเตอรี่ | 4,200 mAh | 5,000 mAh | 4,260 mAh | 4,510 mAh | 4,500 mAh |
ชาร์จไว | 40W | 45W | 65W | 30W | 50W |
ชาร์จไร้สาย | 27W | 15W | ไม่รองรับ | 30W | 30W |
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น | IP68 | IP68 | IP68 | IP68 | ไม่รองรับ |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 + EMUI 10.1 ไม่มี Google Mobile Service | Android 10 + One UI 2.0 | Android 10 + Color OS 7.1 | Android 10 + Oxygen OS | Android 10 + MIUI 11 |
ในบรรดาเรือธงทั้ง 4 รุ่น Galaxy S20 Ultra ถือว่าน่าจะเป็นพี่ไซส์ใหญ่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะให้หน้าจอมาขนาดใหญ่ถึง 6.9 นิ้ว เรียกว่าอีกนิดก็สามารถสถาปนาแต่งตั้งตัวเองขึ้นเป็นแทบเล็ตได้แล้วล่ะ สิ่งที่น่าสนใจก็คือทั้ง P40 Pro+, Find X2 Pro, Mi 10 Pro และ OnePlus 8 Pro ต่างมาพร้อมกับหน้าจอแบบเจาะรูด้วยกันทั้งสิ้น คงจะหมดยุคของมือถือจอติ่งแล้วล่ะ โดยรูของ P40 Pro ถือว่าใหญ่และกินพื้นที่หน้าจอไปเยอะมาก เพราะต้องเจาะรูใส่กล้องหน้า + กล้อง Depth IR
แม้ Galaxy S20 Ultra จะเป็นพี่ใหญ่สุดในเรื่องของขนาด แต่พอมาถึงสเปคกลายเป็น OPPO Find X2 Pro และ OnePlus 8 Pro ที่เบียดแซงไปด้วยหน้าจอ QHD+ 120Hz เพราะว่า S20 Ultra นั้นหากเปิด 120Hz ต้องปรับความละเอียดลงไปที่ Full HD+ นั่นเอง ส่วน P40 Pro และ Mi 10 Pro นั้นด้อยกว่าทั้งเรื่องความละเอียดที่ไปไม่ถึง QHD+ แถมยังมี Refresh Rate แค่ 90Hz เท่านั้น
สมาร์ทโฟนทั้ง 5 รุ่นที่ผมจับมาเปรียบเทียบครั้งนี้ ต่างใช้บริการชิปเซ็ตระดับท็อปๆ ของวงการด้วยกันทั้งสิ้น ทั้ง Snapdragon 865, Kirin 990 และ Exynos 990 ต้องบอกว่าประสิทธิภาพความแรงน่าจะเชือดเฉือนกันไม่มาก ซึ่ง 3 ค่ายที่ถือไพ่เหนือกว่าคือ Find X2 Pro, OnePlus 8 Pro และ Mi 10 Pro ที่ใช้ Snapdragon 865 ยืนหนึ่งเรื่องคุณภาพเลยก็ว่าได้ ทั้งแรงทั้งจัดการพลังงานได้ค่อนข้างดี ขณะที่ Exynos 990 ของ Galaxy S20 Ultra ยังมีปัญหาเรื่องซดแบตอยู่ และ Kirin 990 ยังคงไม่เป็นที่หมายปองของสายเกมมิ่ง แม้ว่า Huawei จะพยายามยัด GPU Turbo มาให้
ส่วนในเรื่องของการเปิดแอป อ่านเขียนไฟล์ สมาร์ทโฟนทั้ง 5 รุ่น ก็มากับ UFS 3.0 ที่รับประกันว่าอ่านเขียนไฟล์ลื่นปรื๊ดๆ จะมีความแตกต่างเล็กน้อยในเรื่องของ cache และระบบการเพิ่มความเร็วในการเขียนอ่าน ซึ่งไม่มีรุ่นไหนที่บอกรายละเอียดชัดเจนตรงนี้สักเท่าไหร่
มาถึงเรื่องกล้องอันนี้เป็นอะไรที่เปรียบเทียบยากมากๆ เพราะรุ่นที่หยิบมาเทียบนั้น ต่างมีกล้องเทพๆ ด้วยกันทั้งหมด ถ้าจะวัดคะแนนกันตรงๆ ก็คงต้องเอา DxOMark มาอ้างที่ตอนนี้ P40 Pro ที่ตอนนี้กำลังครองอันดับหนึ่ง กวาดคะแนนไปมากถึง 128 คะแนน ตามมาด้วยอันดับสองร่วมอย่าง Find X2 Pro และ Mi 10 Pro ที่ได้คะแนนไปทั้งหมด 124 คะแนน
แต่เราก็ไม่สามารถบอกได้เต็มปากว่าทั้ง 5 รุ่นนี้เอาจริงๆ แล้วใครจะถ่ายรูปสวยกว่า การตัดเกรดให้คะแนนเรื่องกล้องและภาพที่เราเสพย์ด้วยสายตานั้น มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะเอามาแทนค่าด้วยตัวเลขคะแนน หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือ ตาใครตามัน ใครชอบโทนสีแบบไหน หรือสไตล์ภาพยังไงก็ขึ้นอยู่กับเราๆ ท่านๆ ทั้งนั้น และนอกจากเรื่องภาพแล้ว มันยังมีเรื่องของความยากง่ายในการใช้งาน โหมดต่างๆ รวมถึงความเร็วในการถ่ายภาพและเซฟด้วย
มาเจาะสเปคกล้องกันแบบลึกๆ ของแต่ละรุ่นกันบ้าง เริ่มจาก P40 Pro ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืนกันก่อนเลยดีกว่า โดย P40 Pro มากับกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วยเซนเซอร์หลักความละเอียด 50MP, กล้อง Ultra Wide 40MP, กล้อง Tele 12MP ซูม Optical ได้ 5x และแบบ Digital ถึง 50x และตัวสุดท้ายเป็นเซนเซอร์สามมิติ Depth Sensing Camera
Galaxy S20 Ultra เรือธงจากค่าย Samsung มาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบไปด้วยเซนเซอร์หลัก 108MP, กล้อง Ultra Wide 12MP, กล้อง Tele 48MP และมีเซนเซอร์ 3 มิติสำหรับวัดระยะ และละลายฉากหลังเวลาถ่ายโหมดหน้าชัดหลังเบลอ หรือที่ Samsung เรียกว่า Live Focus นั่นเองครับ ซึ่งไฮไลท์หลักๆ อยู่ที่ Galaxy S20 Ultra สามารถดันซูม Digital ได้มากถึง 100x เรียกว่าถึงดวงจันทร์กันเลยทีเดียว
มาถึง Find X2 Pro สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มากับกล้องหลัง 3 ตัว ประกอบด้วยเซนเซอร์หลัก 48MP, กล้อง Ultra Wide 48MP และกล้อง Tele 13MP มีซูม Hybrid Optical ได้ 5x และ Digital Zoom สุดไกล 60x
ขณะที่ OnePlus 8 Pro มากับกล้องหลัง 4 ตัว ซึ่งถือเป็นมือถือรุ่นแรกของ OnePlus เลยที่ใส่กล้องหลังมาให้เยอะเท่านี้ ประกอบไปด้วย เซนเซอร์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล, กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล โดยสามารถซูมแบบ Optical ได้ 3x และแบบ Digital ได้ 30x และกล้องตัวสุดท้ายเป็น Colour Filter Camera ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ส่วน Mi 10 Pro มาพร้อมกล้อง 4 ตัว ได้แก่ เซนเซอร์หลักความละเอียด 108MP, กล้อง Ultra Wide 20MP, กล้อง Short Tele 12MP และกล้อง Long Tele อีกด้วย 8MP โดย Mi 10 Pro มี Optical Zoom 5x และ Digital Zoom 50x
พลิกมาคุยกันเรื่องกล้องหน้ากันบ้าง P40 Pro ที่ Huawei ใส่กล้องหน้า 32MP มาพร้อมกับ Depth Camera เอาไว้เบลอฉากหลังเป็นพิเศษ ทำให้การถ่ายภาพในโหมดหน้าชัดหลังเบลอ น่าจะทำได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ อยู่พอสมควร
ขณะที่รุ่นอื่นๆ อย่าง Mi 10 Pro, Find X2 Pro, OnePlus 8 Pro และ Galaxy S20 Ultra มากับกล้องหน้าความละเอียด 20MP, 32MP, 16MP และ 40MP ตามลำดับ ซึ่งคุณภาพก็ไม่ได้ลดหลั่นไปกว่ากันเท่าไหร่ มีโหมด AI Beauty กล้องฟรุ้งฟริ้งด้วยกันทั้งหมด
ทั้ง P40 Pro, Find X2 Pro , OnePlus 8 Pro และ Galaxy S20 Ultra ต่างมาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ด้วยกันทั้งสิ้น นั่นหมายความว่า สมาร์ทโฟนทั้งสามรุ่นสามารถลงไปอยู่ในน้ำที่ความลึก 1.5 เมตร เป็นเวลานานถึง 30 นาที แต่ก็ไม่ได้แนะนำให้เอาไปจุ่มน้ำเล่นนะ โดยจะมีเพียง Mi 10 Pro เพียงแค่รุ่นเดียวเท่านั้นที่ไม่มีมาตรฐานนี้ จุดนี้ถ้าใครไม่คิดจะเอาโทรศัพท์ไปเล่นใต้น้ำอยู่แล้ว ก็ไม่ได้น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ
ปิดท้ายด้วยเรื่องแบตเตอรี่ โดย P40 Pro ให้ความจุมา 4,200 mAh รองรับชาร์จไว 40W, Mi 10 Pro มีแบต 4,500 mAh รองรับชาร์จไว 50W, Find X2 Pro แบต 4,260 mAh แต่ระบบชาร์จไวให้มาจัดเต็ม ข่มคนอื่นที่ 65W , OnePlus 8 Pro แบต 4,510 mAh รองรับชาร์จไว 30W สุดท้าย Galaxy S20 Ultra ใส่แบตมาให้เยอะสุด 5,000 mAh มีชาร์จไวให้ที่ 45W คือถ้าเอาระบบชาร์จผ่านสายนั้น Find X2 Pro ก็ชนะไปแบบสบายๆ
ส่วนเรื่องการชาร์จแบบไร้สายนั้นกลายเป็น OnePlus 8 Pro และ Mi 10 Pro เพราะรองรับที่ความเร็วถึง 30W ส่วน Huawei และ Samsung รองรับแค่ 27W และ 15W เท่านั้น
ใครที่ชอบถ่ายรูปถ่ายวิดีโอตอนนี้บอกเลยว่าทั้ง 5 รุ่นนั้นพลังของกล้องสูสีกันจนตบกันไม่ลง จะมีก็พวกฟีเจอร์กล้องต่างๆ ที่แต่ละค่ายจะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปซึ่งใครชอบรุ่นลูกเล่นแบบไหน ก็คงต้องเลือกหยิบค่ายนั้น
แต่ถ้าไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากได้มือถือเครื่องใหม่ที่มีสเปคแบบเรือธงเท่านั้น บอกเลยได้ว่าในบรรดา 5 รุ่นนี้ จิ้มเครื่องไหนไป ก็ไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
อ้อ!….เกือบลืมไปเลย ใครที่สงสัยว่า Huawei P40 Pro มี Google Mobile Services ไหม อันนี้ตอบได้ 100% เลยว่าไม่มีนะครับ ใครที่ตัดสินใจเลือก P40 Pro ก็อย่าลืมคำนึงถึงจุดนี้ด้วย ซึ่งทาง Huawei เองก็เน้นผลักดัน Huawei Mobile Services มาอย่างต่อเนื่อง รวมถึง AppGallery ด้วย คาดว่าในอนาคตน่าจะมีแอปยอดฮิตต่างๆ เข้าไปมาอีกแน่นอน
16/04/2020 02:59 AM
16/04/2020 05:17 AM
16/04/2020 06:17 AM
16/04/2020 03:30 AM
16/04/2020 08:38 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย