เปิดให้จองและเตรียมวางจำหน่ายทั่วไปอาทิตย์หน้านี้แล้วสำหรับ iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นซึ่งก็คือ iPhone 11, 11 Pro และ 11 Pro Max โดยราคาเปิดตัวมาถูกกว่าตอน iPhone Xs ราว 4-5,000 บาท ทำให้ iPhone 11 กลายเป็นสมาร์ทโฟนที่หลายคนรอคอยอยู่ แต่ว่าทั้ง 3 รุ่นที่ออกมามีจุดเหมือนและจุดที่แตกต่างกันอย่างไรบ้างเราเอามาสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบให้ได้ทราบกัน
สเปค / รุ่น | iPhone 11 | iPhone 11 Pro | iPhone 11 Pro Max |
![]() | ![]() | ![]() | |
หน้าจอ | Liquid Retina (LCD) 6.1″ 1792 x 828 326 ppi คอนทราสต์ 1,400:1 ความสว่าง | Super Retina XDR (AMOLED) 5.8″ 2436 x 1125 458 ppi คอนทราสต์ 2,000,000:1 ความสว่าง | Super Retina XDR (AMOLED) 6.5″ 2688 x 1242 458 ppi คอนทราสต์ 2,000,000:1 ความสว่าง |
วัสดุดีไซน์ | กระจกและอะลูมิเนียม | กระจกผิวด้าน | กระจกผิวด้าน |
CPU | A13 Bionic | ||
RAM | 4GB | ||
ความจุ | 64GB/ 128GB/ 256GB | 64GB/ 256GB/ 512GB | 64GB/ 256GB/ 512GB |
กล้องหลัง |
|
|
|
กล้องหน้า | 12MP f/2.2, ถ่ายสโลวโมชั่นได้ | ||
แบตเตอรี่ | ขนาด 3,110 mAh ใช้ได้นานกว่า XR 1 ชั่วโมง | ขนาด 3,046 mAh ใช้ได้นานกว่า XS 4 ชั่วโมง | ขนาด 3,969 mAh ใช้ได้นานกว่า XS Max 5 ชั่วโมง |
การชาร์จแบต | 18W+ (แถมให้ในกล่อง 5W) | 18W+ (แถมให้ในกล่อง) | |
สายพอร์ตเชื่อมต่อ | Type A to Lightning | Type C to Lightning | |
ลำโพง | สเตอริโอ (Dolby Atmos) | ||
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น | IP68 (น้ำลึก 2 เมตร 30 นาที) | IP68 (น้ำลึก 4 เมตร 30 นาที) | |
Face ID | รองรับ | ||
การเชื่อมต่อ | Wi‑Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax พร้อม MIMO, Bluetooth 5.0 | Wi‑Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax พร้อม MIMO, Bluetooth 5.0 | Wi‑Fi 6 มาตรฐาน 802.11ax พร้อม MIMO, Bluetooth 5.0 |
สีที่จำหน่าย | ม่วง, เขียว, เหลือง, ดำ, ขาว และ แดง | เขียวมิดไนท์, เงิน, เทา และ ทอง | เขียวมิดไนท์, เงิน, เทา และ ทอง |
ราคาเปิดตัว | 64GB/ 24,900 บาท 128GB/ 26,900 บาท 256GB/ 30,900 บาท | 64GB/ 35,900 บาท 256GB/ 41,900 บาท 512GB/ 48,900 บาท | 64GB/ 39,900 บาท 256GB/ 45,900 บาท 512GB/ 52,900 บาท |
ในเรื่องของสเปคความแรงและฟีเจอร์ต่างๆ ถือว่าค่อนข้างคล้ายกันเลยทีเดียว แถมใช้ชิพ A13 Bionic เหมือนกันด้วย ซึ่งทาง Apple เคลมว่าแรงที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนตอนนี้แล้ว แน่นอนว่าเล่นเกมได้ลื่นทุกเกมแถมประหยัดพลังงานมากขึ้น ความแตกต่างหลักๆ ของทั้งสามรุ่นคือ ชนิดและขนาดหน้าจอ, จำนวนกล้อง และวัสดุดีไซน์บอดี้ ซึ่งการใช้งานโดยรวมพื้นฐานทั่วไปแล้วบอกเลยว่าแทบไม่ต่างกันนัก
จากที่ว่ามาทั้งหมดนี้ ดูเหมือนว่า iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max จะไม่ได้มีจุดต่างจาก iPhone 11 ธรรมดาสักเท่าไหร่นัก ถ้างบจำกัดอยู่ iPhone 11 ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีเอาซะมาก ๆ อยู่ ถ้าพิจารณาแล้วว่าข้อแตกต่างที่เราว่าไว้ข้างต้นยอมรับได้ ก็แนะนำซื้อ iPhone 11 ได้เลยครับ แต่ถ้างบเหลือ จะหันไปซื้อรุ่น iPhone 11 Pro หรือ 11 Pro Max ด้วยก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ ด้วยกล้องที่มีครบทุกระยะ ถ้าคุณข้ามจากรุ่นเก่าแค่ iPhone XS มาเจอ Night Mode ก็น่าจะร้องฮาเลลูย่า ถ้าเจอเลนส์ไวด์ไปอีกก็น่าจะร้องคิมูจิ๊กันเลยทีเดียว และจะกรีดร้องมากขึ้นเมื่อได้เจอที่ชาร์จไวกับแบตที่อึดขึ้นกว่าเดิมแบบมีนัยยะ ลดการพก PowerBank ได้พอสมควรเลย และสายถ่ายวิดีโอหรือ Vlog กำเงินไปซื้อ iPhone 11 Pro ไปเลยก็น่าสนใจเหมือนกัน ด้วยความสามารถถ่ายวิดีโอที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆ ถ้าเล่าสาธยายอีกยาวว่าดียังไงอาจจะยาวเกินไปสำหรับ blog นี้ แต่แนะนำว่าสายวิดีโอ Vlog ไม่แนะนำให้ซื้อรุ่นความจุ 64GB แต่ให้ขยับขึ้นไปอีก เพราะจากที่ใช้มา ถ้าเอามายิง 4K 60fps แค่ไม่กี่นาที 64GB อาจจะหมดไปดื้อๆ ได้ (ถ้ารวมกับการลงแอปใช้งานอื่นๆด้วย)
ก็หวังว่าข้อมูลชุดนี้จะช่วยทำให้เพื่อนๆตัดสินใจซื้อ iPhone 11 ทั้งสามรุ่นได้ง่ายขึ้นนะครับ ถ้าใครต้องการเสริมส่วนไหน สามารถแจ้งได้ในคอมเมนต์เลยนะครับ
10/10/2019 05:39 PM
10/10/2019 03:23 AM
10/10/2019 08:41 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย