คาดว่าแฟนๆ Huawei หรือผู้ที่มีความสนใจในเรื่องมือถือต่างๆ น่าจะคุ้นเคยกับหน้าตาของนาย Richard Yu ซึ่งเป็นหนึ่งใน CEO ของแบรนด์ Huawei กันดี (อาเฮียที่ออกมาพูดเปิดตัวมือถือซีรีส์ Huawei P กับ Mate นั่นแหละ) ซึ่งคราวนี้ทางเว็บไซท์มือถือชื่อดังอย่าง GSMArena ได้ขอสัมภาษณ์เกี่ยวกับทิศทางของแบรนด์ Huawei ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกล้องสุดเทพของ P30, มือถือจอพับ Mate X, ระบบ 5G และอื่นๆ อีกมากมายเลยล่ะ
เทคโนโลยีเลนส์ซูมออพติคอล 5X ในมือถือ เป็นอะไรที่สะดวกมากในสถานการณ์ที่คุณจำเป็นจะต้องถ่ายรูปจากระยะไกล ซึ่งเราคิดว่าระบบกล้องซูมแบบนี้แหละเป็นอะไรที่ตลาดต้องการแน่นอน และเราก็ภูมิใจมากที่มันอยู่ในมือถือเรือธงรุ่นล่าสุดของเรา
ส่วนเรื่องกล้องหน้าที่ใช้เลนส์แบบ Fixed เนี่ย ปกติแล้วมุมมองของการถ่ายเซลฟี่ส่วนมากมันก็จะจำกัดอยู่ที่ระยะสุดแขนของเรา ระบบ Autofocus ก็เลยไม่จำเป็น แต่ควรไปใส่ใจกับเซ็นเซอร์มากกว่า เราก็เลยใส่เซ็นเซอร์กล้องหน้ามาให้ถึงระดับ 32MP แถมยังสามารถถ่ายภาพได้ดีในสภาวะแสงน้อยอีกด้วย.. อีกอย่าง ถ้าเราจะใส่ระบบ Autofocus เข้าไป ขนาดของ Notch บนหน้าจอก็จะใหญ่ตามขึ้นไปอีก ซึ่งเราไม่ต้องการให้มือถือของเรามีดีไซน์ออกมาแบบนั้น
เรื่องนี้มีเหตุผลอยู่ 2 ข้อใหญ่ๆ ข้อแรก การจะดูไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง 4K จะเห็นความแตกต่างได้ก็ต่อเมื่อมันแสดงผลอยู่บนจอใหญ่ๆ เท่านั้น ก็เลยไม่มีเหตุผลที่เราจะเอาระบบนี้ใส่มาให้ในมือถือ ข้อสอง การถ่ายวิดีโอ 4K กินพื้นที่เยอะมาก และเราแนะนำให้ถ่ายที่ความละเอียดระดับ FHD ก็พอแล้ว
กล้องมือถือของเราอยู่ในระดับสุดยอดอยู่แล้ว แต่ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้ในเรื่องนี้ และนั่นคือเหตุผลที่เราต้องเอามาเปรียบเทียบบนเวทีให้เห็นกันจะๆ ไปเลย เพราะเราต้องการให้ให้คนรู้ว่าถ้าอยากได้มือถือที่ดีที่สุด ก็ควรจะเลือก Huawei ซึ่งเรามั่นใจมากว่าเราคือที่สุดแล้ว
ผมคิดว่า Apple ทำแบบนี้ก็ดีนะ เพราะผมคิดว่ามันยากสำหรับ Apple ที่จะมาสู้กับเราในด้านฮาร์ดแวร์อยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าการเปิดบริการใหม่แบบนี้จะช่วยให้ Apple ทำรายได้ขึ้นมาได้บ้าง แต่ถึงยังไงก็ยังต้องไปสู้กับเหล่าเจ้าตลาดอย่าง Netflix และอีกหลายๆ บริการ แต่สำหรับเรา (Huawei) ยังไม่มีแผนสำหรับบริการ Video Streaming ในตอนนี้ นอกจากนี้ผมยังคิดว่า Apple หมดมุขเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ๆ แล้วด้วย ก็เลยต้องหันมาพึ่งบริการแบบนี้แทน
ตอนนี้เรากำลังพัฒนาระบบกุญแจอัจฉริยะดังกล่าวอยู่ โดยแบรนด์รถอย่าง BMW, Volkswagen และแบรนด์ใหญ่อื่นๆ ก็น่าจะใช้ได้ในเร็วๆ นี้ แต่ก็ต้องขึ้นกับรถแต่ละรุ่นด้วยว่ามันจะรองรับระบบ NFC รึเปล่า ซึ่งจริงๆ เราพร้อมแล้วสำหรับระบบนี้ ก็หวังว่าเหล่าแบรนด์รถทั้งหลายจะพัฒนาให้รถในรุ่นต่อๆ ไปรองรับระบบนี้ด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้มือถือพับจอทั้งหลายพึ่งจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น แน่นอนว่าส่วนแบ่งการตลาดก็ยังน้อยอยู่ เนื่องจากชิ้นส่วนต่างๆ ยังมีราคาที่สูงมาก แต่ในอนาคตราคาก็จะถูกลงเรื่อยๆ และผมคิดว่าภายในเวลา 2 ปีต่อจากนี้ มือถือพับจอจะมีราคาถูกลงอยู่ในระดับมือถือเรือธงทั่วไป แต่ถึงยังไงตอนนั้นความชอบของลูกค้าก็ยังต่างกันอยู่ดีทั้งคนชอบและไม่ชอบมือถือพับจอแบบนี้
มันก็ยังยากที่จะบอกอยู่นะ.. แต่ผมคิดว่ามือถือระดับเรือธงของเราในอีก 2 ปีข้างหน้า จำนวนครึ่งนึงจะมีจอที่สามารถพับได้ เพราะตอนนี้ผมสนุกกับการใช้งาน Mate X มากๆ และผมใช้มันตลอดเวลา เพราะเวลาทำงานบนที่ต้องดูข้อมูลจากกราฟ จากตาราง หรือเข้าเว็บไซท์ต่างๆ การใช้งานบนจอขนาดใหญ่มันดีกว่า
ใช้อยู่แน่นอน! อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่าผมชอบใช้ Mate X ในการทำงาน ส่วน P30 Pro สำหรับเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูป เพราะกล้องมันดีจริงๆ (ชมตัวเองซะหน่อย) ซึ่งในอนาคตเราจะสามารถผลิตมือถือพับจอที่มีขนาดเล็กลงกว่านี้ (P30 Pro) ได้อีกครึ่งนึงเลยล่ะ
ตอนนี้ในประเทศจีนมีระบบ Voice Assistant ที่ชื่อว่า Xiaoyi อยู่แล้ว แต่เราก็ยังคงใช้ Google Assistant กับ Amazon Alexa ในตลาดต่างประเทศอยู่ เหตุผลก็เพราะเรื่องของ Ecosystem นั่นแหละ ซึ่งในอนาคตเราก็มีแผนสำหรับ Voice Assistant ของตัวเองอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ตอนนี้ของ Google และ Amazon มันใช้งานในประเทศอื่นๆ ได้ดีกว่านั่นเอง
หุ่นยนต์ในโรงพยาบาลที่ใช้ระบบ AI Xiaoyi
ผมคิดว่าในอนาคต ระบบ AI จะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ซึ่งมือถือของเราก็จะมีระบบประมวลผล AI ที่จะรองรับการใช้งานของเหล่าผู้พัฒนาแอปพลิเคชั่นทั้งหลายได้ ตัวอย่างเช่น ตอนนี้เรามีแอปสำหรับนักพัฒนาให้เอาไปใช้ต่อยอดในการผลิตรถยนต์อัตโนมัติสำหรับผู้บกพร่องทางสายตา และการได้ยิน, เรามีระบบ AI ช่วยประมวลผลการถ่ายรูปสำหรับกล้องมือถือ ซึ่งเราก็ไม่ได้พยายามที่จะทำทุกอย่างเองหรอกนะ แต่เราแค่เปิดโอกาสให้เหล่านักพัฒนาเอาระบบของเราไปต่อยอดให้ได้ฟีเจอร์เจ๋งๆ ออกมา ในขณะที่เราก็หันไปพัฒนาประสิทธิภาพของตัวมือถือแทน
แน่นอนว่าทางรัฐบาลอเมริกาพยายามจะจำกัดสิทธิ์ของเรา แต่เนื่องจากเรามีเทคโนโลยี 5G ที่ดีที่สุด และล้ำหน้ากว่าคนอื่น ทำให้เหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือยังคงไว้ใจในแบรนด์ Huawei.. มันดูเหมือนผมจะเข้าข้างตัวเองไปหน่อยนะ แต่ผมบอกได้เลยว่าเทคโนโลยี 5G ของเราล้ำหน้ามากกว่าเทคโนโลยีของบริษัทอื่นๆ ไปไกลกว่าครึ่งปีแล้ว ซึ่งเรามั่นใจมากว่าเหล่าผู้ให้บริการเครือข่ายทั้งหลายจะเลือกใช้อุปกรณ์ 5G ของ Huawei ซึ่งกำลังจะเริ่มใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ช่วงกลางปี 2019 นี้แหละ โดยมือถือรุ่นแรกของเราที่รองรับ 5G ก็คือ Huawei Mate X และ Mate 20 X 5G ซึ่งจะเริ่มทะยอยส่งของได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป
เรื่องนี้ถ้าคุณดูที่มือถือรุ่น P30 จะเห็นว่าขอบจอด้านล่างมันบางลงกว่าเดิมแล้ว โดยรุ่น P30 จะบางกว่าตัวท็อป P30 Pro ด้วยซ้ำ ซึ่งจริงๆ แล้วเราจะทำให้มันบางลงกว่านี้หรือเอาขอบจอออกไปเลยก็ได้ แต่ในการใช้งานจริงมันจะจับและใช้งานไม่ถนัดเอาน่ะสิ เราก็เลยขอลดขนาดของขอบจอด้านข้างแทนดีกว่า
แน่นอน! เมื่อเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา ถ้าหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว เราเติบโตมากกว่าเดิมถึงกว่า 50% เลยทีเดียว
และทั้งหมดนั่นก็คือบทสัมภาษณ์ของ Richard Yu ที่ให้ไว้กับ GSMArena นะครับ ก็ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มาแรงตามคำคุยจริงๆ นั่นแหละ เพราะขนาดว่าโดนกีดกันจากทางอเมริกา แต่ก็ยังสามารถทำรายได้จากทั่วโลกไปได้มากกว่าปีที่ผ่านๆ มาจนขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ของแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกเรียบร้อยแล้ว ต่อจากนี้ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะสามารถก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ตามที่เคยตั้งเป้าเอาไว้รึเปล่านะ
ที่มา : GSMArena
02/04/2019 03:52 AM
02/04/2019 08:29 AM
02/04/2019 10:45 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย