สรุปข้อมูล iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่น ก่อนเปิดตัว ราคาเริ่มต้นราว 23,000 บาท จำหน่ายวันแรก 20 กันยายนนี้ - Android

Get it on Google Play

สรุปข้อมูล iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่น ก่อนเปิดตัว ราคาเริ่มต้นราว 23,000 บาท จำหน่ายวันแรก 20 กันยายนนี้ - Android

Apple ได้ร่อนบัตรเชิญไปตามสื่อต่างๆ แล้ว ว่าจะเปิดตัว iPhone 11 ในวันที่ 10 กันยายน 2019 ณ Steve Jobs Theatre แคลิฟอร์เนีย โดยมีการยืนยันแล้วด้วยว่า iPhone 11 จะมีด้วยกัน 3 รุ่น คือ iPhone 11, 11 Pro และ 11 Pro Max […]

Apple ได้ร่อนบัตรเชิญไปตามสื่อต่างๆ แล้ว ว่าจะเปิดตัว iPhone 11 ในวันที่ 10 กันยายน 2019 ณ Steve Jobs Theatre แคลิฟอร์เนีย โดยมีการยืนยันแล้วด้วยว่า iPhone 11 จะมีด้วยกัน 3 รุ่น คือ iPhone 11, 11 Pro และ 11 Pro Max ซึ่งล่าสุดก็ได้มีสเปคแบบเต็มๆ รวมถึงฟีเจอร์คร่าวๆ ของมือถือรุ่นดังกล่าวออกมาแล้วด้วย

ใกล้วันเปิดตัวเข้ามาเรื่อยๆ แบบนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีเหล่าข่าวหลุด ข่าวลือ ของมือถือแบรนด์ยอดนิยมรุ่นใหม่ซีรีส์ iPhone 11 ออกมาเยอะแยะมากมายไปหมด เราก็เลยขอรวบรวมข้อมูลทั้งหลายเหล่านั้นให้ได้ดูกันว่ามันจะมาพร้อมกับสเปค และฟีเจอร์ใหม่ๆ อะไรบ้าง

iPhone 11 จะมีทั้งหมด 3 รุ่น

คราวนี้มือถือซีรีส์ iPhone 11 จะมีด้วยกันถึง 3 รุ่น โดย iPhone 11 จะเป็นรุ่นเริ่มต้น ตามด้วย iPhone 11 Pro และตัวท็อป iPhone 11 Pro Max แต่ละรุ่นก็จะมีสเปคที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย ซึ่งตามข้อมูลหลุดก่อนหน้านี้บอกว่าทั้ง 3 รุ่น จะใช้ชิปรุ่นใหม่ A13 เหมือนกัน แต่จะต่างกันที่ประเภทหน้าจอแบบ LCD และ OLED, ขนาดจอ,แบตเตอรี่, RAM, ความจุ, กล้องหลัง 2 ตัว และ 3 ตัว รวมถึงวัสดุประกอบตัวเครื่องก็จะต่างกันด้วย

ดีไซน์ตัวเครื่องและหน้าจอ

เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นทั้งภาพหลุดและภาพเรนเดอร์ของ iPhone 11 กันมาแล้วว่ามันจะมีกล้องหลังที่วางอยู่บนแท่นสี่เหลี่ยมบริเวณริมซ้ายของตัวเครื่อง (และมีเสียงวิจารณ์ออกมาในทางลบซะเยอะ ว่ามันไม่สวยบ้าง พิลึกบ้าง ฯลฯ) ซึ่งล่าสุดก็ได้มีทั้งภาพของเคส และภาพอื่นๆ ออกมายืนยันว่ามันจะออกมาหน้าตาแบบนี้จริงๆ

ส่วนหน้าจอจะยังคงมี Notch สำหรับวางกล้องหน้า และเซ็นเซอร์ Face ID ที่คาดว่าจะมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการสแกนที่รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิม ทำให้ Notch ดังกล่าวอาจมีขนาดยาวกว่าเดิมด้วย

กล้องหลัง 3 ตัว

จากภาพหลุดของ iPhone 11 ที่หลุดออกมาตอนแรก จะเห็นว่ามันได้รับการอัพเกรดจากซีรีส์ iPhone XS ที่มีกล้องหลัง 2 ตัว กลายเป็น 3 ตัว ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 12MP เท่ากันหมด และหนึ่งในนั้นจะเป็นกล้องแบบ Wide Angle ด้วย

โดยรุ่นที่มีกล้องหลัง 3 ตัว จะเป็นรุ่น iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ส่วนรุ่นเริ่มต้นอย่าง iPhone 11 จะมีกล้องหลังแค่ 2 ตัว เท่านั้น

Lightning หรือ USB-C ?

ทำเอาผู้ใช้งาน iPhone หลายๆ คน อยู่ร่วมกับผู้ใช้งานมือถือ Android ยากเย็นมาหลายรุ่นแล้ว เนื่องจาก Apple ยังไม่ยอมเปลี่ยนพอร์ท Lightning มาใช้พอร์ท USB-C ที่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่กับเค้าซักที ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ หรือการเสียบสายเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อโอนถ่ายข้อมูล ไม่สามารถใช้งานร่วมกับผู้ใช้อุปกรณ์อื่นๆ ได้ (โดยเฉพาะ Android) ทำให้เกิดปัญหาไม่มีสายชาร์จเวลาฉุกเฉินอยู่เรื่อยๆ (ประมาณว่าเพื่อนๆ หรือคนรอบข้างมีแต่สาย USB-C)

ซึ่งตามข้อมูลล่าสุดก็บอกว่า iPhone 11 จะยังคงใช้พอร์ทแบบ Lightning อยู่เหมือนเดิม แต่ว่าสายที่แถมมาในกล่อง จะเป็นสายแบบข้างนึงเป็น Lightning อีกข้างนึงเป็น USB-C สำหรับเสียบกับหม้อแปลง

รองรับการใช้งาน Apple Pencil

หนึ่งในมือถือเรือธงที่ได้รับความนิยมในตลาดมากที่สุดรุ่นนึงก็ Galaxy Note ของแบรนด์ Samsung ซึ่งมีจุดเด่นสุดๆ แบบไม่มีใครเทียบได้ ก็คือปากกา S pen ที่ทำให้เราสามารถจด หรือขีดๆ เขียนๆ บนหน้าจอมือถือได้เลย ซึ่งทาง Apple คงอยากหาอะไรมาต่อกรกับมือถือซีรีส์ Galaxy Note ด้วย เราก็เลยได้เห็นภาพหลุดของเคส iPhone 11 ที่มีช่องสำหรับเก็บปากกา Apple Pencil โผล่ออกมา และช่องดังกล่าวยังมีความยาวไม่เกินตัวเครื่องอีกด้วย ก็คาดว่ามันน่าจะเป็น Apple Pencil รุ่นใหม่ที่มีขนาดเล็กลงเพื่อใช้งานกับ iPhone 11 โดยเฉพาะนั่นเอง (เฉพาะ iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max เท่านั้น ที่จะรองรับการใช้งาน Apple Pencil ได้)

สเปค iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่น

สำหรับสเปคของ iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่นนี้ เป็นข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข่าวในประเทศจีน ซึ่งยังไม่ได้มีการคอนเฟิร์มแต่อย่างใดว่าสเปคของ iPhone 11 ที่หลุดออกมาจะตรงกับของจริงที่เปิดตัวนะครับ แต่ดูๆ ไปแล้วมันก็มีความเป็นไปได้ถ้าเทียบกับเหล่าข่าวหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้.. ว่าแล้วก็มาดูกันเลยดีกว่า

สเปค iPhone 11

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792 x 828 (326ppi)
  • CPU : A13
  • RAM : 4GB
  • ความจุ : 64GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง : 12MP + 12MP
  • กล้องหน้า : 12MP
  • ระบบปลดล็อค Face ID
  • WiFi 6
  • ไม่รองรับ Apple Pencil
  • ฝาหลังกระจก
  • แบตเตอรี่ : 3110 mAh รองรับชาร์จไร้สายแบบ Bilateral

iPhone 11 จะเป็นรุ่นน้องเล็กสุดของซีรีส์ ด้วยหน้าจอแบบ LCD, มีกล้องหลัง 2 ตัว, RAM ให้มาน้อยที่สุด 4GB, มีตัวเลือกความจุเริ่มต้นที่ 64GB และไม่รองรับการใช้งาน Apple Pencil อีกด้วย ส่วนราคาตามข้อมูลจะเริ่มต้นที่ 749 ดอลลาร์ หรือราวๆ 23,000 บาท

สเปค iPhone 11 Pro

  • หน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436 x 1125 (458ppi)
  • CPU : A13
  • RAM : 6GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง : 12MP + 12MP + 12MP
  • กล้องหน้า : 12MP
  • ระบบปลดล็อค Face ID
  • WiFi 6
  • รองรับ Apple Pencil
  • ฝาหลังใช้วัสดุ Frost Glass
  • แบตเตอรี่ : 3190 mAh รองรับชาร์จไร้สายแบบ Bilateral

iPhone 11 Pro จะขยับสเปคขึ้นมาด้วยจอแบบ OLED, RAM มากขึ้นเป็น 6GB, ความจุมีให้เลือกตั้งแต่ 128GB – 512GB, กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 12MP และรองรับการใช้งาน Apple Pencil ตามข่าวลือก่อนหน้านี้ด้วย โดยราคาก็จะแพงกว่ารุ่นปกติขึ้นมาอีกนิดหน่อย เริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์ หรือราวๆ 30,600 บาท

สเปค iPhone 11 Pro Max

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2688 x 1242 (458ppi)
  • CPU : A13
  • RAM : 6GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
  • กล้องหลัง : 12MP + 12MP + 12MP
  • กล้องหน้า : 12MP
  • ระบบปลดล็อค Face ID
  • WiFi 6
  • รองรับ Apple Pencil
  • ฝาหลังใช้วัสดุ Frost Glass
  • แบตเตอรี่ : 3500 mAh รองรับชาร์จไร้สายแบบ Bilateral

สุดท้ายกับรุ่นท็อปที่ตามข้อมูลแล้วเหมือนจะได้แค่อัพเกรดขนาดหน้าจอขึ้นมาเป็น 6.5 นิ้ว และแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นเป็น 3500 mAh เท่านั้น แต่สเปคอื่นๆ ก็จะเหมือนกับ iPhone 11 Pro ทุกอย่าง ส่วนราคาก็จะแพงขึ้นมาอีก เริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาร์ หรือราวๆ 33,700 บาท

วันเปิดตัวและวันวางจำหน่าย

Apple ได้ส่งบัตรเชิญออกมายืนยันแล้วว่าจะเปิดตัวมือถือซีรีส์ iPhone 11 ในวันที่ 10 กันยายน 2019 นอกจากนี้ยังมีข้อมูลออกมาจากแหล่งข่าวหลุดเพิ่มเติมอีก ว่า Apple จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 20 กันยายน 2019 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมาจากการคาดการณ์ที่ Apple มักจะเปิดให้สั่งจอง iPhone รุ่นใหม่ได้ในวันศุกร์ถัดจากงานเปิดตัว ซึ่งในปีนี้ก็คือวันที่ 13 กันยายน และจะเริ่มวางขายจริงอีก 1 อาทิตย์ถัดไป ซึ่งก็คือวันที่ 20 กันยายน นั่นเอง

เหลือเวลาอีกแค่ราวๆ อาทิตย์เดียวเท่านั้น เราก็จะได้เห็นกันแล้วว่ามือถือซีรีส์ iPhone 11 จะออกมาตรงกับข่าวหลุดทั้งหลายรึเปล่า รวมถึงจะมีนวัตกรรมอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้เหล่าสาวก iPhone ได้ว้าวกันอีกบ้าง.. วันที่ 10 กันยายนนี้ ได้รู้กันครับ

 

ที่มา : GSMarena, Trustedreviews

03/09/2019 04:40 AM