วันนี้เราจะพามาลองจับ Tablet อีกตัวที่หลายคนน่าจะพิจารณาเป็นอีกตัวเลือกนอกจาก Android Tablet และ iPad นั่นก็คือ Surface Go ที่สร้างความน่าสนใจจากความเป็น Surface ในราคาเบาๆ เริ่มต้นเพียง 14,999 บาท สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ดและปากกาได้ (ซื้อเพิ่ม) วันนี้ได้เอามาลองใช้สักพักนึง จึงขอเอาประสบการณ์ใช้งานมาแชร์กันแบบเบาๆให้คนที่สนใจได้ทราบกับครับ
สำหรับรีวิวนี้คงจะไม่ได้ทำในเชิงลึกมากนะครับ แค่เล่าประสบการณ์จากการลองใช้งานด้านต่างๆ มาให้ได้ทราบกัน พร้อมบอกดีเทลบางส่วนที่ควรทราบก่อนที่เราจะจ่ายเงินซื้อมันมาใช้งาน ตัวที่ทดสอบจะเป็นตัวรุ่นเล็กสุด 4/64GB ราคา 14,999 บาท ครับ
ข้อควรรู้เพิ่มเติมจากสเปค
สำหรับราคาอุปกรณ์เสริมตัวหลัก
ขนาดเล็กว่ากระดาษ A4 พกพาง่าย นำ้หนักเบา
ต้องบอกว่า Surface Go ได้หน้าตาของรุ่นพี่มาแบบเต็มๆ เรียกว่าถ้าถือๆอยู่แล้วไม่สังเกตถึงขนาดก็แทบจะหาความต่างไม่ออก น้ำหนักเมื่อรวมคีย์บอร์ดและปากกาแล้วก็อยู่ในระดับที่ถือง่ายพกสะดวก ใช้งานได้เรื่อยๆ จะมีข้อที่เทียบกับคู่แข่งแล้วอาจจะทำให้แปลกตาไปก็คือขอบรอบข้างที่ทำมาหนา เข้าใจว่าต้องการจะสร้างความสมมาตรรอบจอทั้งสี่ด้าน โดยด้านนึงจะต้องเว้นพื้นที่สำหรับให้คีย์บอร์ดติดใช้งาน ซึ่งตัว Type Cover Keyboard ที่ขายแยกเป็นอุปกรณ์เสริมนี้ พิมพ์สนุกติดมือดี มีส่วนที่ยกขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อยทำให้มันมีความยืดหยุ่นของคีย์บอร์ด ปุ่มกดมีความลึกกำลังดี แต่ว่าขนาดจะเล็กว่าคีย์บอร์ดทั่วไปในระดับนึง ต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถพิมพ์สัมผัสได้อย่างคล่องมือตามเดิม
Touchpad ทำงานได้ดี รองรับ Multitouch
สำหรับคนที่ซื้อปากกามาใช้งานด้วย ทาง Surface ก็มีวิธีพกปากกาเก๋ๆด้วยการใช้แม่เหล็กติดปากกาเอาไว้ที่ข้างเครื่องแบบนี้ อยากหยิบก็ดึงออกมาใช้งานง่ายๆได้เลย จะมีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ความง่ายของมัน คือมีโอกาสเกี่ยวอะไรแล้วหลุดไปโดยไม่รู้ตัวได้นั่นเอง
ปากกามีด้านที่เป็นโลหะสามารถแปะติดเข้ากับด้านข้างของเครื่องได้ทันที
Surface Go เลือกใช้ Pentium Gold 4415Y ซึ่งอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเป็นตัวที่เน้นด้านการประหยัดพลังงาน ซึ่งหากใช้งานแบบเบาๆ ดูหนังฟังเพลง อ่านเว็บ พิมพ์งาน จะสามารถอยู่ให้ใช้งานได้ยาวๆ แต่เท่าที่ลองใช้จะยังไม่เคยได้ถึง 9 ชม. ตามที่เคลมนะ อาจจะเพราะใช้งานจริงจังและต่อเนื่องเกินสเปคไปหน่อย ลองใช้เล่นเว็บเปิดหลายๆหน้าต่างสักพักก็จะเริ่มเกิดอาการอืดมาให้ได้เห็นกันแล้ว ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจากทั้ง CPU, RAM, และ Storage เลยนั่นเอง ดังนั้น
จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้หลายคนเล็ง Surface Go ก็คือมันมีปากกา ซึ่งแน่นอนว่าต้องซื้อเพิ่ม โดยหลายแอปสามารถใช้ปากกาในการช่วยทำงานได้ โดยเฉพาะทางนักออกแบบที่อยากจะเอาไปใช้ร่วมกับแอปที่วางแปลนบ้านไปเลย แต่อย่างไรก็ดีต้องตรวจสอบกันนิดนึงก่อนนะครับว่าถ้าลงแอปที่เราใช้ประจำจะสามารถทำงานได้ลื่นไหลรึเปล่า เพราะหลายตัวทำได้ดีบน Surface Pro แต่อาจจะมีหน่วงๆใน Surface Go ได้ครับ
ใช้ Surface Pen วาดใน Photoshop เส้นจะไม่ค่อยตามหัวปากกานัก
ส่วนคนที่อยากจะเอามาวาด ถ้าต้องการใช้บน Adobe Photoshop จะยังพบว่ามีอาการหน่วง ตอบสนองได้ไม่ทันทีนัก ถ้าใช้จนชินก็น่าจะทำงานได้อยู่ แต่แนะนำว่าถ้าอยากวาดจริงๆหาแอปเฉพาะทาง ปากกาจะตอบสนองได้ดีขึ้น เช่น Sketchbook ซึ่งรองรับการวาดแบบเลเยอร์ได้เช่นกัน และ Export เป็น PSD ไปทำงานบน Adobe Photoshop ต่อได้ด้วย
เหตุผลที่หลายคนเล็ง Surface Go น่าจะไม่ได้เพื่อนำไปทดแทน PC ปัจจุบันที่ใช้งานอยู่แต่ต้องการนำไปใช้งานร่วมกับ PC เครื่องนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น Desktop หรือ Power Notebook ที่หนักและพกพายากกว่า โดยทั้งคู่จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี เชื่อมต่อกันผ่าน network ได้ไม่ยาก โดยตัวมันเองจะสามารถกางแผ่นด้านหลังออกมาเป็นขาตั้งได้ วางบนโต๊ะสำหรับดูหนังฟังเพลงได้สบาย ซึ่งเป็นรูปแบบการใช้งานมาตรฐานของ Surface ที่หลายคนติดใจกัน โดยระบบเสียงของ Surface Go จะมาเป็นสเตอริโอคู่หน้า 2W พร้อมระบบเสียง Dolby® Audio Premium ดูแล้วได้อรรถรสในระดับนึงโดยไม่ต้องต่อลำโพงแยกเลย
สามารถกางปรับระดับได้หลายองศา ทั้งตั้งตามภาพหรือราบลงไปเพื่อพิมพ์โดยไม่มีคีย์บอร์ด
สำหรับกล้องหลังของ Surface Go นี้จะอยู่ที่ความละเอียด 8 ล้าน และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของ Tablet ที่จะไม่ได้ทำมาได้ถ่ายสวยงามเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่จะเน้นที่กล้องหน้าเพื่อการคุยวิดีโอคอลหรือ Live Streaming เสียมากกว่านะครับ
เราสามารถเลือกชาร์จ Surface Go ได้จากทั้งพอร์ต Surface Connect หรือจะชาร์จผ่าน USB type-C ก็ได้ ซึ่งระยะเวลาในการชาร์จจนเต็มเมื่อใช้ Adapter ที่จ่ายไฟได้เพียงพอก็จะสามารถชาร์จได้เต็มในเวลา ชม.กว่าๆ และเมื่อใช้ดู YouTube ความละเอียด 1080p ผ่าน Chrome จะกินแบตราว 2 นาที 1% และถ้าใช้งานแอปที่ประมวลผลหนักๆก็อาจจะกินไฟมากขึ้นได้
จากทั้งหมดที่ได้ลองมาต้องบอกว่า Surface Go เป็นแท็บเลตที่เบาในทุกๆด้าน ทั้งในเรื่องราคา น้ำหนัก รวมถึงประสิทธิภาพโดยรวม ซึ่งมันจะมีข้อดีที่สามารถพกพาได้ง่าย และสามารถตอบโจทย์การใช้งานในด้านการเสพย์สื่อต่างๆ รวมถึงการพรีเซนต์ และวาดเขียนทำงาน Microsoft Office ต่างๆได้ดีในระดับนึง แต่ถ้าต้องการทำงานแบบจริงจังใช้งานหนักๆถึงระดับตัดต่อวิดีโอ ตกแต่งภาพ และเล่นเกม Surface Go อาจจะไม่ใช่คำตอบนัก ควรเล็งรุ่นที่สูงขึ้นไปอย่าง Surface Pro ไปเลยมากกว่าครับ (ไม่แน่ใจว่าถ้าเป็นรุ่น 8/128GB ไปเลยจะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นขนาดไหนนะ)
ส่วนตัวมองว่าคนที่จะอยากได้ Surface Go จะต้องเป็นกลุ่มคนที่ต้องพึ่งพาแอปต่างๆของ Microsoft เป็นหลัก ต้องการการใช้งานที่ใกล้เคียงกับ Microsoft Windows เช่น ทำงานกับ Microsoft Office, พรีเซนต์งานด้วย PowerPoint, เชื่อมต่อเน็ตเวิร์คกับระบบออฟฟิศ หรือเรียกว่านำเอามาใช้ระดับ Enterprise เต็มสูบนั่นเอง แต่ถ้าต้องการความบันเทิงแบบครบสูตรพร้อมปากกา Android Tablet ในราคาที่เท่าๆกันอย่าง Huawei MediaPad M5 Pro และ Samsung Galaxy Tab S4 ก็น่าจะตอบโจทย์กว่า ด้วยแอปแอนดรอยด์ที่มากมาย มีตัวเลือกของเกมที่มากกว่า เล่นไฟล์หนังต่างๆได้ไม่ต่างกัน เปิดไฟล์ทำงานแบบ Multitask ได้รวดเร็ว มีลำโพงคุณภาพเสียงดี และโหมด desktop สำหรับต่อขึ้นจอใหญ่ได้ด้วย แต่ถ้าเน้นไปในด้านแอปและการสร้างสรรค์งาน iPad 2018 ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ด้วยว่าแอปแท็บเลตบน iOS ยังมีคุณภาพที่ดีกว่าทั้ง Android และ Windows นั่นเอง ซึ่งถ้าจะเอา Surface ชนกับ iPad จริงๆก็น่าจะต้องยกระดับไปใช้ Surface Pro กันไปเลยจะดีกว่าครับ
01/10/2018 03:10 PM
01/10/2018 01:39 AM
01/10/2018 01:39 AM
01/10/2018 05:49 AM
01/10/2018 11:45 AM
01/10/2018 09:27 AM
01/10/2018 08:27 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย