รีวิว MSI Prestige 15 โน๊ตบุ๊กบางเบาสาย Creator มาพร้อม Intel Gen10 ใหม่ล่าสุด และ MSI Creator Center สำหรับการใช้ทรัพยากรภายในเครื่อง
The post รีวิว MSI Prestige 15 โน้ตบุ๊กบางเบาสเปคแรงสำหรับสาย Creative appeared first on AripFan.
ทุกวันนี้ อาชีพ Creative ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สายใดสายหนึ่งแล้ว ด้วยอาชีพใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นอย่าง Content Creator ที่เป็นนักสร้างสรรค์คอนเท้นต์ต่าง ๆ ลงโซเชี่ยล ทั้งบทความ อินโฟกราฟฟิก วีดีโอ หรือ Content ในรูปแบบต่าง ๆ
และแน่นอนว่าการจะเป็น Content Creator ต้องมีเครื่องมืออย่างคอมพิวเตอร์สักเครื่องที่มันรองรับการใช้งานโปรแกรมที่เราจำเป็นต้องใช้ หลายคนเลือกใช้ Desktop แต่สุดท้ายมันก็แบกไปพรีเซ้นต์งานลูกค้าไม่ได้แถมแก้งานภาคสนามก็ทำไม่ได้ จึงเป็นที่มาของการรีวิวในครั้งนี้ถึงความจำเป็นในการใช้ Notebook สาย Creative ที่บางเบา และสเปคต้องแรงด้วย
แกะกล่องมา Prestige 15 มาพร้อมกล้องใส่เครื่องสีขาว และตราโลโก้เป็นสีเทา ให้ความรู้สึกเรียบหรู มาพร้อมซองหนังสีเทาไว้สำหรับพกเครื่องไปทำงานในในสถานที่ต่าง ๆ ได้ และยังช่วยเสริมบุคคลิกภาพของผู้ถือได้เป็นอย่างดี
เริ่มจากสีของตัวเครื่องก่อน สีที่ดีไซน์มานั้นเป็น Carbon Gray เป็นสีออกเทา ๆ ดูหรูหรา ให้ความรู้สึกเข้มขรึม ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมและพลาสสติก โดยด้านหน้าและด้านหลังเครื่องจะเป็นอลูมิเนียม ส่วนของขอบจอเป็นพลาสติกเกรดคุณภาพสูง น้ำหนักเบา โดยตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.6 กิโลกรัม เท่านั้น
หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว มีความบางเพียง 5 มิลลิเมตร ความคมชัดระดับ UHD 4k เป็น IPS Level ค่าสีหรือ sRGB ทาง MSI เคลมไว้อยู่ที่ 98% สามารถทำงานด้านไซน์งานสีต่าง ๆ ได้อย่างมั่นใจ
ในเรื่องของแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 10 ชั่วโมงโดยประมาณหากใช้งานทั่ว ๆ ไป แต่หากใช้ Render งานหรือเล่นเกมอยากแนะนำให้ต่อสายเพิ่มเติม เพราะจะช่วยให้ประสิทธิภาพดีขึ้น
Keyboard ออกแบบให้กดใช้งานง่าย ปุ่มกดพอดีมือ แต่เวลากดอาจให้ความรู้ที่ไม่เหมือนคีย์บอร์ดทั่วไป รู้สึกกดแล้วไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่นัก
ตัวคีย์บอดร์ดมีไฟแบบ Single Light สีขาว สามารถเปิด – ปิด และปรับความสว่างได้ผ่านปุ่ม Short cut บนคีย์บอร์ด
Touchpad มีขนาดใหญ่ รองรับฟังก์ชั่นการทำงาน Touchpad ใน Windows 10 ทุกอย่าง มีขนาดใหญ่ กดง่าย ออกแบบให้มีสัมผัสแบบ Soft Touch กดแล้วนุ่มนิ้วสุด ๆ
Touchpad มาพร้อมปุ่มสแกนลายนิ้ว ทำงานคู่กับ Windows Hello สแกนเข้าเครื่องได้รวดเร็ว ไม่ต้องกดพิมพ์รหัสให้ยุ่งยาก
ด้านขวาตัวเครื่อง มีช่อง USB 3.0 สองช่อง ใช้สำหรับโอนถ่ายข้อมูล และเป็นหัวแปลงสาย Lan เพราะ Prestige 15 นั้นไม่มีพอร์ต Lan มาให้ (เพราะตัวเครื่องออกแบบให้มีความบาง)
ถัดมาคือช่องสำหรับ Micro SD Card สำหรับใครที่เป็นสาย Action Camera สามารถนำเมมมาเสียบได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านหัวแปลง
ด้านซ้ายตัวเครื่อง มีพอร์ต Thunderbolt 2 พอร์ตใช้สำหรับชาร์จไฟและถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูง
ถัดมาคือช่อง HDMI และ พอร์ตหูฟัง 3.5 รองรับการเสียบหูฟังและไมค์ในตัว
Speaker อยู่ด้างล่างตัวเครื่องทั้งด้านซ้ายและขวา เวลาเปิดจะให้ความรู้สึกเหมือนเสียงออกมาจากคีย์บอร์ด คุณภาพเสียงถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้เลย ไม่ Monotone เหมือนโน้คบุ๊กทั่วไป มีเสียงเบสค่อนข้างชัดเจน
CPU เป็น Intel Core – i7 ตัวใหม่ล่าสุด 10710U 6 Core 12 Thread Base Clock Speed อยู่ที่ 1.10 GHz และ Max Turbo สูงสุดที่ 4.70 GHz Ram ให้มาที่ 16GB (แต่ตัวที่ขายจริง ๆ จะให้ Ram ที่ 32GB)
ตัว GPU ให้มาเป็น Nvidia GTX 1650 Max-Q 4GB DDR5 เป็นการ์ดจอระดับกลาง – สูง สามารถทำงานกราฟฟิคและเล่นเกมทั่ว ๆ ไปได้ แต่ไม่แนะนำให้เล่นเกมระดับสูง ๆ มากนะ
ในการทดสอบการเล่นเกม เกมแรกที่ผมเล่นคือ Overwatch สัมผัสแรกคือมันเล่นได้นะ เล่นได้ดีเลยด้วย แต่อาจจะไม่สามารถปรับกราฟฟิคในระดับสูงได้ เพราะ Framerate จะตกลงนิดหน่อย ซึ่งในตอนเทสก็ปรับเป็น Medium เฟรมเรทก็อยู่ที่ประมาณ 50 – 65 ก็นับว่าทำได้ไม่เลวสำหรับโน๊ตบุ๊กสายทำงาน
เกมที่ 2 เป็น PUBG นับว่าทรมานเครื่องมากครับ เพราะเป็นเกมที่กินสเปคค่อนข้างสูง แต่หากว่ามันเล่นได้ไหม ก็เล่นได้นะ หากลดระดับกราฟฟิคลงมาหน่อยเฟรมเรทอยู่ประมาณ 28 – 32 และหากปรับลดกราฟฟิคลงอีกก็อาจจะได้เฟรมที่สูงขึ้น
ตัวเครื่องด้านหลัง มีช่องสำหรับดูดอากาศเข้าใต้เครื่อง โดยมีพัดลมสองตัว ตัวแรกสำหรับชิป CPU และตัวที่สองสำหรับชิป GPU มี Heatpipe หรือท่อนำความร้อนทั้งหมด 3 เส้น
ด้านบนซ้ายและขวาของตัวเครื่องมีช่องระบายความร้อนจากลมที่ดูดเข้ามาเพื่อปล่อยออกข้างหลัง แต่ตอนใช้งานจะปล่อยลมร้อนขึ้นหน้าจอ ก็แอบงงนิด ๆ นึง แต่ก็ไม่มีไม่ปัญหาอะไรกับหน้าจอนะ เพราะไม่ได้เกิดความร้อนสะสมมากขนาดที่ทำให้จอเสียได้
ตัวเครื่องด้านหลังยังมีจุ๊บยาง (ผมนับได้ 7 ตัวนะ) ที่ช่วยพยุงเครื่องขึ้นจากพื้นนิดหน่อย เพื่อให้พัดลมใต้เครื่องสามารถดูดลมเข้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากพูดถึงเบาบางสักเครื่อง มันก็หลายแบรนด์หลายรุ่นนะ แต่สิ่งที่ MSI แตกต่างคือ CREATOR CENTER โดยเป็นซอฟ์แวร์ในการปรับตั้งค่าการใช้ทรัพยากรของเครื่อง
เช่น หากผมจะ Render ภาพที่ทำเสร็จแล้วในโปรแกรม Photoshop โดยปกติแล้วโปรแกรมจะดึงทรัพยากรจะดึงการใช้งาน CPU ทั้งหมดมา มี 6 คอร์ก็ดึงมาหมด 6 คอร์ ทำให้เราไม่สามารถใช้อะไรคอมได้เลยจนกว่าจะ Render เสร็จ แต่ซอฟต์แวร์สามารถปรับการใข้งาน CPU ได้ โดยปรับลดค่า Thread โดยเราติ๊กเลือกได้เลยว่าจะใช้กี่ Thread ในการ Render ผ่านโปรแกรม Photoshop
*แก้ไขในรุ่น A10SC ได้ Ram 32 GB นะคร้าบ
ข้อดีของ Prestige 15 คือน้ำหนักเบา และราคาไม่ได้สูงมากจนเกินไป บวกกับมาพร้อม CPU Gen 10 รุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Intel ก็นับว่าค่อนข้างคุ้มค่า
แต่ขอติอยู่สองเรื่องคือ เรื่องพัดลมที่ระบายออกด้านหน้าของจอเวลาเปิดใช้งานจริง และคีย์บอร์ดเวลากดแล้วให้ความรู้สึกแปลก ๆ ไม่เหมือนกับ Prestige รุ่นก่อน ๆ ที่กดแล้วให้ความมั่นคงกว่า
2014 © ปพลิเคชันไทย