ตอนรีวิว GoPro Hero 7 Black ถึงกับเคยคิดว่า 'นี้คือกล้องแอ็คชั่นแคมที่ดีที่สุดแล้ว' แต่หลังได้ลองใช้ GoPro Hero 8 Black ความคิดเปลี่ยนทันใด รีวิวนี้มาพบกับ GoPro Hero 8 Black
The post รีวิว : GoPro Hero 8 Black ภาคต่อที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น กันสั่นดีงามกว่าเดิม (Part 1) appeared first on AripFan.
ตอนรีวิว GoPro Hero 7 Black ถึงกับเคยคิดว่า ‘นี้คือกล้องแอ็คชั่นแคมที่ดีที่สุดแล้ว’ แต่หลังได้ลองใช้ GoPro Hero 8 Black ความคิดเปลี่ยนทันใด รีวิวนี้มาพบกับ GoPro Hero 8 Black ภาคต่อของกล้องแอ็คชั่นจาก GoPro ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสั่น HyperSmooth 2.0 ที่อัพเกรดใหม่ กันสั่นได้ทุกความละเอียดและเฟรมเรตแล้ว (รุ่นก่อนมีจำกัดไม่รองรับหมด – -) อีกทั้งสามารถกด ‘Boost’ เพื่อเพิ่มพลังกันสั่นได้อีกด้วย ถัดมาก็มี TimeWarp 2.0 ถ่ายภาพด้วยความเร็วสูง ซึ่งถ่ายได้ง่ายขึ้น สามารถปรับความเร็วได้อัตโนมัติ และกด Slow ระหว่างถ่าย หรือให้มันกด Slow เองอัตโนมัติก็ได้
อย่างไรก็ตาม HyperSmooth 2.0 กับ TimeWarp 2.0 แม้จะอัพเกรดขึ้นใหม่ แต่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดของ GoPro Hero 8 Black ในตัวกล้องยังมีของใหม่อีกเพียบ โดยจะมีอะไรบ้างเดี๋ยวลองมาดูกัน แต่ก่อนอื่นสำหรับรีวิวครั้งนี้ผมขอแบ่งเป็น 2 พาร์ท หรือ 2 ตอน สืบเนื่องจากผมมีเวลาจับเทสตัวกล้องเพียงวันเดียว เลยยังลองฟีเจอร์ได้ไม่ครบ ซึ่งขาด TimeWarp 2.0 ตัวสำคัญ และ Horizon Leveling กับโหมดตั้งค่าอื่น ๆ ที่ผมอยากให้ดูจริง ๆ เดี๋ยวรอได้ตัวกล้องมาจับอีกครั้ง จะจับเทสแบบถึงพริกถึงขิงแน่นอน สำหรับพาร์ทนี้ผมขอเน้นที่ฟีเจอร์ HyperSmooth 2.0 เป็นพิเศษไปก่อนนะ
ขอบคุณสถานที่ทดสอบ Bira Circuit (พีระเซอร์กิต) ณ พัทยา และทาง GoPro Thailand ด้วยครับ : D
หน้าตาของ GoPro Hero 8 Black ยังคงทรงเดิมเหมือน 7 Black แทบทุกประการ เป็นทรงสี่เหลี่ยมก้อนสบู่จิ๋วสีดำเมี่ยมเหมือนเคย แต่ตัว 8 Black นี้แลดูจะถึกกว่า เนื่องจาก Body เป็นอลูมิเนียมทั้งตัวเลย แต่กลับเบาขึ้น กับมียางหุ้มขอบเป็นขอบรอบด้าน ไม่จำเป็นต้องใส่เคสหรือ Housing ป้องกันอีกต่อไป และ…
เมื่อพลิกดูใต้กล้อง ก็จะเห็นจุดเปลี่ยนสำคัญอย่าง ‘ขาล็อค’ ที่เอาไว้ล็อคหรือติดตั้งกับอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ทันที โดยไม่ต้องใส่ Housing แบบรุ่นก่อน ๆ แล้ว
จุดนี้ต้องขอชมทาง GoPro จากใจจริง คือตอนรีวีวรุ่น 7 Black ผมเคยบ่นว่า “ใส่ง่ายแต่ถอดออกยากนิด ๆ” เอาตามตรง มันก็ไม่นิดนะ…. อีกทั้งยังรู้สึกเสียเวลาตอนจะติดตั้งตัวกล้องกับอุปกรณ์เสริม ที่ต้องเอาเคสมาใส่ก่อนถึงจะติดตั้งได้ แต่ตัว 8 Black นี้ไม่ต้องแล้ว เพียงแค่ง้างตัวขาล็อคที่อยู่ใต้กล้องออก ก็ติดตั้งได้ทันที
อนึ่ง ตัวขาล็อคก็เป็นอลูมิเนียมเช่นเดียวกัน หายห่วงเรื่องความทนทานเลยครับ อีกทั้งเวลาไม่ใช้ง่าย เมื่อพับเข้ากับตัวเครื่อง ก็จะมีแม่เหล็กช่วยยึดให้ด้วย ไม่ต้องกลัวใช้ไปนาน ๆ แล้วเกิดข้อหลวมจนมันห้อยต่องแต่ง
นอกจากขาล็อคแล้ว ตัว 8 Black ก็ยังมีจุดเปลี่ยนอีกอย่างคือ ฝาปิดแบตฯ ย้ายมาอยู่ด้านข้างแทน และเอาทั้งช่องใส่ Micro SD กับพอร์ต USB Type-C มาอยู่จุดนี้หมดเลย (ยกเว้นช่อง Mini HDMI) ก็เป็นอีกจุดที่ต้องขอชมเหมือนกัน
เมื่อก่อนฝาปิดแบตฯ มันอยู่ใต้ตัวกล้อง ปัญหาคือ หลังเราติดตั้ง Housing แล้ว เราจะถอดแบตฯ ไม่ได้เลย เพราะมันปิดหมด ดังนั้นตัว 8 Black จึงแก้ปัญหาโดยการย้ายเอาทุกอย่างมาอยู่ด้านข้าง
และอย่างที่กล่าวไป รุ่นนี้มีขาล็อคในตัว ไม่ต้องใส่ Housing ก็ติดตั้งตัวกล้องกับอุปกรณ์เสริมอื่นได้ ระหว่างถ่ายก็สามารถถอดเปลี่ยนแบตฯ ได้ทันที โดยไม่ต้องมานั่งถอด Housing ให้เสียเวลา
สำหรับตัว 8 Black ก็ยังคงมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดเท่าเดิม และใช้งานง่ายเหมือนใช้สมาร์ทโฟนเช่นเคย
GoPro Hero 8 Black ก็มาพร้อมกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอแบบ 4K@60fps ได้ และถ่ายวิดีโอได้เฟรมเรตสูงสุด 240 FPS จุดนี้เหมือนกับรุ่น 7 Black ทุกประการเลย หากแต่ตัว 8 Black จะมีการอัพเกรดฟีเจอร์ภายในใหม่ และปรับใช้งานตัวกล้องได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
เกือบลิมบอกไป ตัวเลนส์กล้องของ 8 Black ใช้กระจก Gorilla Glass ครอบทับ และสามารถรับแรงกระแทกได้ดีกว่าเก่า 2 เท่าด้วย
มาต่อกันที่ตัวกล้อง อย่างที่บอกว่ามันถ่ายง่ายขึ้น ง่ายขึ้นยังไง ตามนี้เลยครับ ตัวกล้องจะมาพร้อมโหมดการถ่ายวิดีโอในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม อาทิ
Standard โหมดถ่ายพื้นฐาน, Activity โหมดถ่ายกิจกรรม Extreme, Slo-Mo โหมดถ่ายภาพช้า และ Cinematic โหมดถ่ายหนัง เป็นต้น แต่ละโหมดจะมีการตั้งค่าต่าง ๆ ให้พร้อมหรือสำเร็จรูปให้เลย ไม่ว่าจะเป็น ความละเอียด ปรับมุมเลนส์ FPS ฯลฯ เลือกได้ตามใจ
หรือจะตั้งค่าเองเพิ่มเติมก็ได้
ตัวเลนส์กล้องขณะถ่ายวิดีโอหรือ Digital Lenses อีกของใหม่ที่เพิ่มเข้ามา คือเราสามารถปรับมุมกล้องก่อนถ่ายวิดีโอได้ทันทีง่าย ๆ โดยการเลื่อนปุ่ม “W” (มุมล่างซ้ายมือตามภาพ) เพื่อปรับมุมกล้องต่าง ๆ ได้ 4 เลนส์ อาทิ SuperView มุมกว้างพิเศษ Wide กว้างปกติ Linear มุมมองภาพปกติ ไม่โค้งเหมือน Wide (ที่เปิดใช้ในโหมด Cinematic นั้นเอง) และสุดท้าย Narrow หรือถ่ายระยะใกล้
ในส่วนการถ่ายภาพ ตัว 8 Black ก็เพิ่มโหมดถ่ายภาพเข้ามาใหม่อย่าง SuperPhoto, HDR และ RAW ด้วย
2014 © ปพลิเคชันไทย