ในยุคที่ใครก็สามารถมีชื่อเสียงขึ้นมาได้จากการสร้างสรรค์เนื้อหาลงใน Social Media ต่าง ๆ ทำให้เราเห็นคนเก่งมีความสามารถเกิดขึ้นกันเต็มไปหมดทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่สิ่งนึงที่ทุกคนที่ก้าวเข้าสู่วงการนี้ต้องเจอ คือ คอมเมนต์หรือคำวิจารณ์ต่าง ๆ ซึ่งถ้าได้คำชมก็เป็นกำลังใจที่ดีให้ทำต่อไป แต่ในทางกลับกันถ้าเจอในด้านลบ ก็อาจจะทำให้หมดแรงทำต่อ รวมถึงนำพาให้ชีวิตพัง เสียความมั่นใจในตัวเองกันไป
บทความนี้เขียนขึ้นมาสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะโด่งดังคนรู้จักมากมาย หรือแค่วงแคบๆในหมู่เพื่อนๆ เราไม่มีทางรู้เลยว่าวันดีคืนดีสิ่งที่เราโพสต์จะดังปังไกล มีคนแชร์หลายพันหลายหมื่นเมื่อไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าก็จะมีคนมากมายหลากหลาย ร้อยพ่อพันแม่ ทั้งคนดีมีมารยาทหรือคนนิสัยเสียมีปัญหาทางจิต เข้ามาเยี่ยมเยียนเหมือนทัวร์ลง หรือบางทีแค่เพื่อนกันเองก็ยังทำกันได้ ซึ่งข้อมูลต่างๆนี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาไว้ให้ รวมถึงประสบการณ์ที่ทีมงานเราได้เจอกับตัวมาเพื่อเป็นแนวทางในการรับมือกันได้อย่างถูกต้องนะ
โดยปกติของคนที่มีความสมดุลทางอารมณ์และความคิด จะไม่ไปก่นด่าหรือไล่คอมเมนต์ด้านลบใส่คนอื่นที่ไม่รู้จักตลอดเวลา แต่สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหา มีความเครียดด้านใดด้านหนึ่ง ก็มักจะต้องการที่ระบายออก เพื่อปรับสมดุลให้กับตัวเอง โดยมักจะเลือกคนที่ “แตกต่าง” เป็นสนามอารมณ์ ขยี้ไปยังปมบางอย่าง เช่น สีผิว ความเชื่อ ศาสนา รสนิยมทางเพศที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งมีการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่คนเหล่านี้เลือกที่จะไปบูลลี่ชีวิตคนอื่น ว่า
และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรต้องรู้ไว้ คือ ไม่ใช่ว่าเราต้องเจอเรื่องแบบนี้แค่คนเดียว มันเป็นเรื่องที่หลายคนต้องเจอสักช่วงหนึ่งของชีวิต โดยผลการสำรวจในไทยจากเด็กกว่า 1600 ราย พบว่ามีเด็กที่เคยถูกเพื่อนกลั่นแกล้งบูลลี่ จำนวนที่สูงถึงร้อยละ 91 และเกือบร้อยละ 30 เคยโดนแกล้ง ด่าทอทางออนไลน์ เลยทีเดียว1
1อ้างอิง โครงการวิจัยการแกล้งกันของเด็กนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษาในเขตกทม.และปริมณฑล โดย อ.ธานี ชัยวัฒน์ จากการสนับสนุนของดีแทค ซึ่งได้มีการรวบรวมข้อมูลเอาไว้เพิ่มเติมที่ learn.safeinternet.camp ซึ่งจะมีการสอนเกี่ยวกับทักษะการรับมือภัยในโลกออนไลน์อื่นๆเพิ่มเติมเยอะเลยครับ แนะนำลองอ่านเพิ่มเติมได้นะ
เมื่อเราแสดงความคิดเห็น หรือมีตัวตนบนโลกออนไลน์ การที่มีคนพูดถึงหรือคอมเมนต์ดูจะเป็นเรื่องที่เลี่ยงกันไม่ได้ ซึ่งคอมเมนต์เหล่านี้ก็จะมีทั้งดีและแย่ มีประโยชน์และไร้สาระ อันไหนที่เป็นการติชมอย่างมีเหตุมีผลมีมารยาท ก็ควรค่าแก่การนำเอามาคิดพิจารณา แต่หลายครั้งเราก็จะเจอความเกรี้ยวกราดจากคนบางกลุ่มที่พร้อมจะมาถล่มด่ายิ่งกว่าพายุ ซึ่งแนวทางในการรับมือที่มักจะแนะนำให้ใช้กันก็จะมี 9 ข้อดังนี้
อย่างไรก็ดี แนวทางเหล่านี้จะเหมาะสำหรับคนที่ถูกแซะแซว นินทาว่าร้ายทางออนไลน์ โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่รวมถึงการกระทำอื่นๆ เช่น การโดนสร้างข่าวปลอม หรือความพลั้งเผลอทำผิดไป ซึ่งเรื่องเหล่านั้นเราสามารถแก้ไขได้ด้วยการแจ้งเรื่องจริงให้ได้ทราบ พร้อมหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อแก้ต่าง หรือเราทำผิดพลาดไปจริงๆ ก็ยอมรับผิดและขอโทษอย่างจริงใจ ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับนึงเช่นกัน แต่หากคนยังไม่เลิกรา และสร้างเรื่องหาราวให้วุ่นวายใจ ก็เป็นเรื่องที่ใหญ่ขึ้นไป และอาจต้องเปลี่ยนวิธีการรับมือไป
รู้หรือไม่ หากมีข้อมูลส่วนตัวของเราถูกแชร์ไปผิดๆ หรือสร้างความเสียหาย เราสามารถรายงานต่อแพลตฟอร์มนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook YouTube Instagram รวมถึงผลการค้นหาต่างๆ เพื่อให้ลบเนื้อหาเหล่านั้นทิ้งไปได้
ปัญหาความเกรี้ยวกราด ด่าทอกันบนโลกออนไลน์ไม่ใช่เรื่องที่ใหม่แต่อย่างใด และเป็นเรื่องที่จะทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ผู้คนเริ่มชินชากับความหยาบคาย เลือกที่จะเปิดเผยอีกด้านมืดของตัวเองหลังคีย์บอร์ด โดยคิดว่าตัวเองจะไม่ต้องรับผลจากการกระทำของตัวเอง ทางแก้ที่จะช่วยกันทำให้ปัญหานี้เบาลงได้ ไม่ใช่เพียงการอยู่เฉย ไม่ตอบโต้ แต่ต้องช่วยกันบอกให้สังคมรู้ว่าการคอมเมนต์แต่ด้านลบไม่ใช่เรื่องที่ดี ไม่ใช่ว่าใครเปิดข้อมูล มีผลงานในที่สาธารณะ แล้วเราจะสามารถไปด่าทอคอมเมนต์แรง ๆ ได้ตามที่ต้องการ และไม่ควรสนับสนุนคนที่พยายามสร้างความขัดแย้ง ทำลายบรรยากาศ อย่าให้เสียงที่พยายามสร้างแต่ด้านลบ ดังกว่าเสียงที่ช่วยทำให้สังคมดีขึ้น ช่วยกันสร้างความเข้าใจและยอมรับในความต่าง แสดงความคิดเห็นอย่างอิสระพร้อมความรับผิดชอบกันครับ
Ref: 1โครงการวิจัยการแกล้งกันฯของนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาและอาชีวศึกษาในเขตกทม.และปริมณฑล, Talkspace.com, helpguide.org, stompoutbullying.org
06/06/2020 11:16 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย