ข่าวนี้อาจถือเป็นการสืบสวนกรณี “การผูกขาดทางการค้า” หรือ “Antitrust” ครั้งประวัติศาสตร์ของชาติเศรษฐกิจแบบเสรีอย่างสหรัฐ ฯ ซึ่งนับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่ยุค 90s เลยทีเดียว เพราะเล่นรวมเอา 4 CEO ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกจากบรรดา Tech Giants ชื่อดังไม่ว่าจะเป็น Jeff Bezos (Amazon) | Tim Cook (Apple) | Mark Zuckerberg (Facebook) และ Sundar Pichai (Google) เข้าให้การต่อหน้าสภาสหรัฐ ฯ เพื่อชี้แจงตามข้อกล่าวหาทำธุรกิจโดยอาศัยการผูกขาดการค้าและกีดกันการแข่งขัน
งานนี้ถึงแม้จะเป็นการเข้าให้การของ CEO จากธุรกิจสัญชาติสหรัฐ ฯ ต่อหน้าสภาสหรัฐ ฯ เอง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั่วโลกก็ต้องจับตาเกาะติดกรณี “Antitrust” หรือ “การผูกขาดทางการค้า” ไปพร้อม ๆ กันอย่างใกล้ชิดต่อไปด้วย เพราะชื่อชั้นของ CEO ทั้ง 4 นั้น ไม่ใช่เป็นเพียงผู้บริหารชื่อดัง แต่นับได้ว่าอยู่ในระดับผู้ทรงอิทธิพลของโลกไปแล้วในยุคที่ทุกสิ่งอย่างนั้นขับเคลื่อนไปด้วยเทคโนโลยี โดย 4 CEO ที่ว่าได้แก่
ทั้งหมดนี้จึงเป็นคำตอบในตัวมันเองว่า การเข้าให้การต่อสภาสหรัฐ ฯ ในช่วงสัปดาห์สิ้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานั้น สำคัญมากสำหรับประวัติศาสตร์ด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ การเมือง และสังคมโลกโดยรวม แถมยังเป็นการเรียก CEO สายเทคโนโลยีเข้าพบครั้งใหญ่ที่สุดที่ทั่วโลกจับตามองนับตั้งแต่ปี 1998 ที่ Bill Gates ชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลกในขณะนั้นต้องทำแบบเดียวกันในวันที่ Microsoft เป็นผู้เล่นรายหลักรายเดียวสำหรับโลกเทคโนโลยีเพื่อชีวิตประจำวันและการทำงานอย่าง Personal Computer (Windows OS) และ Office Suites ในวันนั้นเลยแหละ
Jeff Bezos ในฐานะชายผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ กับความเป็น Amazon ที่ยังไม่เคยมีโอกาสปรากฏตัวต่อหน้าสภามาก่อน ถูกจับตามองเป็นพิเศษ โดยพวกเขาโดนข้อหาหลักที่ต้องชี้แจงในครั้งนี้คือ การที่ Amazon นั้นได้ละเมิดนำเอาข้อมูลของร้านค้าทั่วไป (3rd Party) ที่ขายสินค้าอยู่บนระบบ E-commerce ของพวกเขามาใช้สร้างประโยชน์ให้กับร้านค้าในแบรนด์ของพวกเขาเอง เช่น การปรับต้นทุนเพื่อตัดราคาสินค้าแบบเดียวกัน เป็นต้น
ถัดมาในฝั่งของ Mark Zuckerberg นั้น ถูกตั้งคำถามสำคัญเรื่องการเข้าซื้อ Instagram ในปี 2012 นั้น นับเป็นการกินรวบธุรกิจที่มีศักยภาพเพื่อทำลายการแข่งขันทางตรงหรือไม่ โดยมีการเปิดหลักฐานชิ้นเด็ดคือ Email ภายในที่ Zuckerberg ส่งโต้ตอบกับทีมงานก่อนเข้าซื้อกิจการว่า “Instagram นั้นอาจเป็น Disruption โดยตรงต่อ Facebook” ซึ่งทำให้แรงจูงใจในการเข้าซื้อกิจการนั้น อาจถูกมองเป็นการใช้เงินกำจัดคู่แข่งโดยเข้าซื้อกิจการซะเลย
Google นั้นถูกกล่าวหากรณีผูกขาดแพลตฟอร์มสำหรับการโฆษณาออนไลน์ เพราะ Google ถือครองข้อมูลจำนวนมหาศาลของโลกเอาไว้ผ่านระบบ Search ทำให้พวกเขาสามารถผูกขาดการตลาดดิจิทัลได้อย่างเบ็ดเสร็จไม่ว่าจะเป็นจาก Demand-side (ผู้ซื้อโฆษณา) หรือ Supply-side (ผู้ขายโฆษณา) ในฐานะผู้รู้ของโลกนั่นเอง
ส่วน Apple นั้นถือว่าชิว ๆ เพราะว่าถูกตั้งคำถามในข้อหาที่ถูกเอกชนจ้องฟ้องกันอยู่เนือง ๆ อย่างกรณีผูกขาดการค้าโดยการกำหนดนโยบายใน App Store สร้างข้อจำกัดทางการแข่งขันให้กับคู่ค้าที่เป็นคู่แข่งให้บริการ Apps แบบเดียวกันกับที่ Apple มีเช่น Spotify vs Apple Music เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: ทางการสหรัฐ ฯ เรียก Amazon | Apple | Facebook | Google ชี้แจง “ผูกขาดทางการค้า” | Apple งานเข้าอีกแล้ว ! EU สั่งสอบสวนกรณีผูกขาดทางการค้า
คณะกรรมาธิการด้านความยุติธรรมแห่งสภาสหรัฐ ฯ หรือ House Judiciary Commitee นั้นได้ทำการตรวจสอบและสืบสวนตามข้อกล่าวหาลักษณะ “ผูกขาดทางการค้า” ของ Tech Giants ทั้ง 4 มาเป็นเวลากว่า 1 ปี พร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐานกว่า 1 ล้านฉบับ สำหรับการจับพิรุธ CEO ผู้ทรงอิทธิพลทั้ง 4 ผู้ซึ่งแวดวงการเมืองและสังคมนั้น ยกให้ว่า ทรงอิทธิพลเสียยิ่งกว่านักการเมือง ผู้นำลัทธิ หรือผู้นำประเทศเสียอีก
การให้การนัดนี้ Jeff Bezos ของ Amazon นั้นจะได้ปรากฏตัวต่อหน้าสภาเป็นครั้งแรก ส่วนอีก 3 รายจาก Apple – Facebook และ Google นั้นอาจเรียกได้ว่าชินสนามกว่า เพราะก่อนหน้านี้ก็หมุนเวียนกันเข้าสภารวมถึงมีปัญหาฟ้องร้องกันอยู่บ่อย ๆ เพราะมีผู้เสียประโยชน์จากการทำธุรกิจด้วยและดันแข่งไม่ไหว แถม Zuckerberg จาก Facebook นั้นก็ดูจะชินชาสุด ๆ เพราะถูกโยงเข้าไปเกี่ยวกับปัญหาดราม่าการเมืองข้ามชาติแบบไม่จบไม่สิ้นมาโดยตลอดเลย งานนี้แทบจะเรียกได้ว่า เบาะ ๆ
มีการเก็บสถิติเชิงปริมาณว่า CEO ทั้ง 4 นั้นถูกตั้งคำถามในจำนวนที่ต่างกันพอสมควร โดย Cook รับไปเบา ๆ 35 คำถาม | Bezos เจอกันครั้งแรกจัดเต็ม 59 คำถาม | ส่วน Sundar กับ Zuckerberg นั้นโดนกันไปคนละ 61 และ 62 คำถามตามลำดับ แถมมีคำถามการเมืองเชื่อมโยงด้วยเป็นระยะ โดยเฉพาะจากนักการเมืองฝั่งอนุรักษ์นิยมที่เชื่อว่า Facebook และ Google เป็นปฏิปักษ์ต่อพวกเขาโดยตรง
ครั้งนี้เป็นการเรียก CEO ทั้ง 4 ขึ้นให้การต่อสภาอย่างเป็นทางการเป็นนัดแรกเท่านั้น แถมใช้วิธีการแบบ New Normal เข้าให้การผ่าน Video Conference แทน เนื่องจากสถานการณ์การ Covid-19 ที่สหรัฐ ฯ ที่ยังไม่สู้ดีนัก ซึ่งกระบวนการสอบสวนประเด็นระดับนานาชาตินี้จะต้องดำเนินไปอีกพักใหญ่ ๆ โดยทีมงาน DroidSans จะติดตามประเด็นนี้กันอย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาอัปเดตและวิเคราะห์ข่าวให้เพื่อน ๆ ทราบต่อไป
อ้างอิง: The Verge | CNN Tech | The Guardian
02/08/2020 10:12 PM
2014 © ปพลิเคชันไทย