การเดินทาง 10 ปี ของ Samsung Galaxy S กับนวัตกรรมที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนถึง S10 - Android
ว่าที่มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดอย่าง Samsung Galaxy S10 กำลังจะเปิดตัวในวันพรุ่งนี้แล้ว (20 กุมภาพันธ์ 2019) ซึ่งมือถือรุ่นนี้จะเปิดตัวเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปี ของมือถือซีรีส์ Galaxy S พอดี วันนี้เราก็เลยขอย้อนรอยไปตั้งแต่ปี 2010 ที่ Samsung เปิดตัว Galaxy S รุ่นแรกและรุ่นต่อๆ ไปออกมาจนถึงปัจจุบัน ว่ามันมีรุ่นไหนบ้าง มีสเปคและฟีเจอร์ที่พัฒนาขึ้นมายังไงบ้าง
สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android รุ่นแรกของ Samsung มีชื่อว่า Samsung Galaxy มีรหัสรุ่นว่า GT-I7501 เป็นมือถือที่ใช้ระบบ Android 1.5 Cupcake ซึ่งมือถือรุ่นนี้ยังไม่ใช่มือถือในระดับเรือธง แต่ว่ารุ่นถัดมา Samsung Galaxy S ที่เปิดตัวในปี 2010 นี่แหละ ถึงจะเป็นจุดเริ่มต้นของสุดยอดมือถือซีรีส์เรือธงจนถึงปัจจุบัน
เปิดตัวเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2010 และเริ่มวางจำหน่ายในช่วงกลางปีนั้น มาพร้อมหน้าจอสัมผัส Super AMOLED ขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 480 x 800 มือถือรุ่นนี้เป็นมือถือที่ได้รับคำชมในหลายๆ เรื่อง เป็นรุ่นที่มีสเปคและฟีเจอร์ครบเครื่อง มีจุดเด่นในเรื่องหน้าจอ และคุณภาพเสียง แต่มีข้อเสียในเรื่องระบบ GPS ที่ไม่ค่อยแม่นยำนัก
เปิดตัวเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2011 ในงาน Mobile World Congress 2011 เป็นมือถือที่มากับระบบปฏิบัติการ Android 2.3 และนับเป็นหนึ่งในมือถือที่มีความบางที่สุดในยุคนั้น (8.49 มม.) Galaxy SII ยังหันมาใช้ชิป Exynos ที่พัฒนาโดย Samsung เอง มีจุดเด่นอยู่ที่แบตเตอรี่สุดอึดที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 10 ชม. หรือถ้าใช้งานทั่วไปก็สามารถอยู่ได้ถึง 2 วัน และยังเป็นมือถือรุ่นแรกๆ ที่รองรับฟีเจอร์ MHL ต่อสายออกจอได้ความละเอียดถึง 1080p แถมยังมีกล้องเซลฟี่มาให้ด้วย
เปิดตัวเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2012 และกลายเป็นมือถือ Android ที่ขายดีมากสุดๆ รุ่นนึง จนถึงขั้นขาดตลาดในบางประเทศ (โดยเฉพาะในอเมริกา) เนื่องจากเป็นมือถือที่มีความสามารถครบเครื่องจนได้ฉายาว่า iPhone Killer และได้รับเลือกให้เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดอันดับ 1 จากหลายๆ สำนัก จนกลายเป็นมือถือที่ขายดีที่สุดในปี 2012 แซงหน้า iPhone 4S ไปเลย
เปิดตัวเมื่อ 14 มีนาคม 2013 ในงาน Unpacked ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ยังคงคล้ายๆ กับ Galaxy S3 อยู่ (มาก) แต่ได้รับการอัพเกรดด้วยฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่บางคนก็บอกว่าใส่มาให้มันดูมีอะไรเท่านั้น แต่ไม่ได้เอาไปใช้งานจริง เช่น Air Gesture (วาดมือบนอากาศบริเวณหน้าจอเพื่อสั่งการ), เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ, เซ็นเซอร์วัดความชื้น ฯลฯ และยังคงเป็นหนึ่งในมือถือที่ได้รับความนิยม+ขายดีที่สุดอีกรุ่นนึง แถมยังขายได้เร็วกว่า Galaxy SIII เกือบ 2 เท่าอีกด้วย
เปิดตัวเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2014 ในงาน Mobile World Congress 2014 ด้วยดีไซน์แปลกประหลาดฝาหลังเป็นจุดๆ จนมีคนออกมาแซวกันเยอะแยะว่าเหมือนเบาะมอเตอร์ไซค์มั่งล่ะ เหมือนพลาสเตอร์ยามั่งล่ะ แต่การใช้งานและสเปคโดยรวมยังถือว่าดีงามสไตล์มือถือเรือธง แถมยังพกฟีเจอร์กันน้ำระดับ IP67 และเป็น Galaxy S รุ่นแรกที่มาพร้อมระบบสแกนนิ้วมืออีกด้วย แต่ก็ยังได้รับคำบ่นจากผู้ใช้หลายคนว่าใส่ Bloatware มาเยอะเกินไป, ระบบสแกนนิ้วมือที่ยังไม่ค่อยแม่น และวัสดุตัวเครื่องที่เป็นพลาสติกทำให้ดูไม่พรีเมี่ยมเหมือนคู่แข่งในช่วงนั้น
เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2015 และเป็นรุ่นแรกของซีรีส์ Galaxy S ที่มีการซอยรุ่นออกเป็น S6 ธรรมดาหน้าจอแบนราบ, S6 Edge และ S6 Edge+ ที่มีหน้าจอโค้ง 2 ด้านแบบ Dual Edge โดยคราวนี้เริ่มมีฟีเจอร์เด่นๆ ที่ทำให้ Galaxy S6 กลายเป็นมือถือที่ดูพรีเมี่ยมมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นหน้าจอความละเอียดระดับ 2K, รองรับการชาร์จไร้สาย, รองรับ Samsung Pay, ระบบสแกนนิ้วมือที่ดีขึ้น และใช้วัสดุเป็นโลหะและกระจกทำให้ไม่ดูกิ๊กก๊อกราคาถูกเหมือนที่โดนบ่นในรุ่น S5 แต่ดันเป็นรุ่นเดียวในซีรีส์ที่ไม่รองรับการใช้งาน MicroSD Card ซะนี่
เปิดตัวเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2016 หลังจากที่ได้ลองเชิงหน้าจอโค้ง Dual Edge มาแล้วในรุ่น S6 Edge ก็พบว่ามันได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ก็เลยทำให้หน้าจอ Dual Edge กลายเป็น Signature ของมือถือซีรีส์ Galaxy S และ Note มาตั้งแต่นั้น โดยในซีรีส์นี้ได้ลดลงเหลือแค่ 2 รุ่น คือ Galaxy S7 และ S7 Edge (ต่างกันตรงหน้าจอแบนราบและหน้าจอโค้งเท่านั้น) มือถือทั้ง 2 รุ่นนี้ยังคงได้รับคำชมจากหลายๆ สำนัก รวมถึงจากผู้ใช้งานทั่วไปในเรื่องของสเปคและกล้องที่ถือว่าดีงามมากๆ รุ่นนึงในช่วงนั้นเลย แถมยังเอาช่องใส่ MicroSD Card กลับเข้ามาอีก (หลังจากที่โดนบ่นชุดใหญ่จากตอน S6 และ Note 5) แต่ก็ยังมีเรื่องให้ติบ้างอย่างเช่น ยังใช้พอร์ท MicroUSB อยู่, ไม่รองรับการใช้งน MHL และไม่มี IR Blaster เหมือน S6 แล้ว
เปิดตัวเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2017 มีการปรับปรุงหน้าตาครั้งใหญ่จากรุ่นที่แล้วๆ มา ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือที่ย้ายไปไว้ข้างหลัง, หน้าจอที่ยาวขึ้น และเป็นจอโค้งทั้ง 2 รุ่น, ใส่ระบบปลดล็อคเครื่องด้วยการสแกนม่านตาหนึ่งเดียวในตลาดมือถือ, ระบบผู้ช่วย Bixby ที่พัฒนาขึ้นเอง, ใช้งานโหมด DeX เสียบกับหน้าจอภายนอกเพื่อใช้งานคล้ายๆ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะได้, ระบบเสียงปรับแต่งโดย AKG แถมยังมีหูฟัง AKG แถมมาให้ด้วยเลย และแน่นอนว่ามือถือรุ่นนี้ยังคงได้รับคำชมทั้งจากหลายๆ เว็บ และจากผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ที่ดูหรูหราพรีเมี่ยม, กล้องที่ยังคงมีความละเอียด 12MP เท่าเดิมกับ S7 แต่มีการปรับแต่งซอฟแวร์ใหม่จนทำให้ถ่ายรูปได้สวยขึ้นมาก, เรื่องสเปคไม่ต้องพูดถึงเพราะเป็นระดับไฮเอนด์ใช้งานได้ลื่นๆ (จนถึงปัจจุบันก็ยังถือว่าลื่นอยู่นะ)
เปิดตัวเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2018 โดยยังคงดีไซน์ที่เหมือนๆ กับรุ่น S8 อยู่ แต่คราวนี้ Galaxy S9 และ S9+ จะไม่ได้ต่างกันเฉพาะขนาดหน้าจอแล้ว แต่จะต่างตรงกล้องหลังด้วย โดยรุ่น S9 จะมีกล้องหลังมาให้แค่ตัวเดียว ส่วน Galaxy S9+ จะมากับกล้องหลังคู่ ซึ่งได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมจนตอนนั้นสามารถขึ้นครองแชมป์กล้องดีที่สุดในเว็บไซท์ DxOMark (ก่อนจะโดนโค่นลงด้วย Huawei P20 Pro) นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีกไม่ว่าจะเป็น AR Emoji, Art Bokeh, ลำโพงคู่สเตอรีโอ แต่ก็ได้รับเสียงบ่นบ้างเหมือนกันว่าฟีเจอร์ที่เพิ่มมาไม่ค่อยแปลกใหม่ และไม่ว้าวซักเท่าไหร่
และทั้งหมดนั่นก็คือการเดินทางอันยาวนานของมือถือ Samsung Galaxy S ตั้งแต่รุ่นแรกมาจนถึงรุ่น Galaxy S9 ที่กำลังจะเปิดตัวรุ่นครบรอบ 10 ปี ของซีรีส์เรือธงรุ่นนี้ ด้วย Galaxy S10 ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์นี้แล้ว ก็ต้องมารอลุ้นกันไปพร้อมๆ กันว่าเจ้ามือถือเรือธงฉลองครบรอบ 10 ปี รุ่นนี้ จะมีอะไรที่พิเศษมากไปกว่าสเปคและฟีเจอร์ที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นรึเปล่า
19/02/2019 10:00 AM
19/02/2019 11:14 PM
19/02/2019 01:25 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย
