เชิญพบกับมือถือซีรี่ส์ใหม่แกะกล่อง OPPO Reno ที่มารอบนี้ขนเอานวัตกรรมใหม่ๆ มาเพียบ แถมยังอัดสเปคมาเต็มๆ พร้อมท้าชนกับเรือธงทุกค่าย โดยเฉพาะในรุ่น Reno 10x Zoom นั้นได้เทคโนโลกล้อองซูมแบบ Periscope ที่พัฒนามาต่อเนื่อง จนสามารถทำระยะการซูม 10x ได้แบบไม่เสียรายละเอียด และขยายกำลังซูมแบบดิจิตอลไปได้ถึง 60x ส่วนด้านประสิทธิภาพนั้นรอบนี้ใช้เป็น Snapdragon 855 จัดเต็มกันไปเลย ได้เวลามาแกะกล่องพร้อมพรีวิวเจ้ามือถือรุ่นนี้กันแล้ว
สำหรับ OPPO Reno 10x Zoom นั้น ชื่อ Reno นั้นมาจากคำว่า Renovation เลยอ่านว่า “รีโน่” ตัวกล่องของมันจะยาวๆ ทรงแปลกๆ กว่าทุกรุ่นที่ผ่านมาของ OPPO ฝากล่องเงาสวยงาม สะท้อนเล่นกับแสงด้วย เรียกว่าสวยกันตั้งแต่กล่องเลยทีเดียว
ของภายในกล่องรอบนี้ดูพรีเมี่ยมกว่าเดิม จากที่ได้ลองสัมผัสตัวเคส หูฟังก็มีการออกแบบมาเป็นพิเศษ
เคสซิลิโคนรอบนี้ทำออกมาได้หนา แต่นุ่มนิ่มชวนสัมผัสกว่าเดิม ส่วนทึครอบทับปุ่มกดด้านข้างก็นิ่มมือกดง่ายมากๆ
หูฟังเป็น USB C สายและตัวฟูฟังเป็นสีดำ ตัดขอบมาด้วยสีเขียวเงาๆ ดูเข้ากับสีเครื่อง Ocean Green พอดี
สาย USB C มีซิลิโคนหุ้มมาให้ทั้ง 2 ข้าง เป็นสายที่รองรับระบบชาร์จเร็ว VOOC 3.0 เวลาใช้งานต้องใช้เส้นนี้ร่วมกับหม้อแปลงที่รองรับ
ระบบชาร์จไฟของ VOOC 3.0 นั้นจ่ายไฟสูงสุดที่ 20 วัตต์ แบบ 5V 4A ถ้าใครเคยใช้งานก็จะรู้ว่าระบบ VOOC นั้นเวลาชาร์จเครื่องจะไม่ค่อยร้อน ไม่เหมือนระบบชาร์จเร็วที่ค่าโวลต์สูงๆ
หน้าจอของ OPPO Reno นั้นเป็น Panoramic Display ขยายสุดขอบทั้ง 4 ด้าน มีขนาดอยู่ที่ 6.6 นิ้ว ใช้เป็นหน้าจอ AMOLED on-cell ความละเอียด Full HD+ (2340 x 1080)
จุดเด่นของมันก็คือ.. เป็นมือถือเรือธงที่หน้าจอไม่โค้งข้างครับ สำหรับใครที่อยากซื้อรุ่นท็อปแล้วเจออาการเซ็งกับจอโค้งขอบ OPPO Reno อาจจะเป็นหนึ่งในคำตอบที่หลายคนต้องการ ส่วนมิติของเครื่องนั้นมันจะหนานิดๆ เพราะนอกจากจะใส่แบตเตอรี่ขนาด 4065 มิลลิแอมป์ไว้ภายในแล้ว ยังมีระบบกล้องซูมด้วย
ซึ่งทาง OPPO นั้นออกแบบฝาหลังของ Reno 10x Zoom มาได้ดีงาม กล้องไม่นูนออกมา เนียบเรียบไปด้วยกันกับตังเครื่องเลยทีเดียว
พอกล้องมันเนียบเรียบไปแบบนั้น ทาง OPPO ก็เลยใส่ระบบป้องกันหน้าเลนส์ที่เรียกว่า O-dot เข้ามา มันก็คือปุ่มเงินๆ ที่อยู่ด้านล่างกล้องหลังทั้ง 3 ตัวนั่นแหละ โดยมันจะทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ฝาหลังรวมถึงกระจกเลนส์ไปสัมผัสหรือขูดขีดกับโต๊ะหรือบนพื้นผิวที่เราวางเครื่องลงไปนั่นเอง
อ้อ สำหรับสีของ Reno 10x Zoom นั้นจะเป็นสีเขียว Ocean Green ซึ่งจะซ่อนเอาสีฟ้าเอาไว้ ผิวสัมผัสจะรู้สึกด้านๆ ไม่ติดรอยนิ้วมือง่าย ส่วนอีกสีก็คือดำ Jet Black อันนี้สำหรับคนที่ชอบอะไรมันวาวแบบ Glossy ซึ่งสีที่ซ่อนอยู่จะเป็นสีอมม่วงนิดๆ
ปุ่มกดนั้นทางด้านซ้ายเป็นของจอภาพเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดเสียง ส่วนทางขวาจอจะเป็นปุ่มพาวเวอร์
ส่วนที่ด้านท้ายเครื่องนั้นก็จะมีช่องเสียบ USB C, ลำโพงหลัก และถาดซิม ซึ่งขอบอกว่างานนี้มีเซอร์ไพรส์ครับ…
นั่นก็เพราะว่า OPPO Reno 10x Zoom นั้นจัดถาดซิมแบบ Hybrid มาให้ ความจำภายใน 256GB ว่าเยอะแล้ว ยังเติมเมมได้อีก เรียกว่ามีแค่ไม่กี่รุ่นแล้วในกลุ่มเรือธงตอนนี้ที่ยังมีช่องให้ใส่ micro SD การ์ด ใครที่เป็นสายถ่ายรูปถ่ายคลิปเยอะๆ นี่ฟินแน่นอน
บริเวณขอบจอด้านบนถ้าสังเกตุดีๆ จะเห็นว่ามีรูเล็กๆ อยู่ด้วย ตรงนั้นคือช่องลำโพงสนทนา และมันถูกใช้งานเป็นลำโพงที่ 2 ในระบบ Dolby Stereo ไปพร้อมกัน
จากมุมด้านบนนั้นเวลาที่ตัว Pivot Rising Camera มันเก็บอยู่ก็จะเนียนเรียบไปแบบนี้
พอเปิดกล้องหน้าขึ้นมา มันก็จะเด้งขึ้นตรงมุม ซึ่งที่ด้านหลังนั้นจะซ่อนเอา LED Flash สำหรับใช้งานกล้องหลังเอาไว้ด้วย
ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 16MP f2.0 และยังมี LED soft light ให้เปิดใช้งานได้อีกต่างหาก
ชุดกล้องหลัง 3 ตัวนั้นประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP f1.7 + กล้องซูม 13MP f3.0 + กล้องมุมกว้าง Ultra Wide 8MP f2.0 โดยจะมีระบบกันสั่น OIS มาให้ใช้งานทั้งในกล้องหลักและกล้องซูม แถมรอบนี้โหมดถ่ายวิดีโอนั้นรองรับสูงสุดที่ 4K 60fps อีกต่างหาก
สเปคจัดเต็ม Snapdragon 855 + RAM 8GB + Cooling Technology ระบบระบายความร้อนถึง 3 ชั้นนั้นก็เลยขอลองวัดความแรงกันสักหน่อย ทำคะแนน Antutu ไปถึง 354440 เลยทีเดียว ส่วนเรื่องการเล่นเกมและเฟรมเรตนั้นขอติดค้างเอาไว้ก่อน รอพบกับการทดสอบครบๆ ได้ในรีวิวฉบับเต็มอีกที ซึ่งตอนนี้ใน Color OS 6 มีระบบ Game Boost 2.0 มาช่วยเรื่องกราฟิคและระบบทัชให้มันทำงานได้ดีขึ้นด้วย
ขอลองกล้องซูมกันนิดๆ หน่อยๆ ว่าระยะของมันนั้นทำออกมาได้ถึงไหน เริ่มจากการเปิดกล้อง Ultra Wide 120 องศาดูก่อน
สลับมาเปิดที่ระยะมาตรฐาน 1x ใช้เซนเซอร์หลัก 48MP
กดไป 2 สเตป ก็จะเป็น ซูม 2x และ 6x
ส่วนนี่เป็นระยะซูมแบบ Hybrid ไม่เสียรายละเอียด 10x
เริ่มดันไปที่ดิจิตอล 20x
ดันไปสุดระยะที่ 60x ก็จะเห็นป้ายที่อยู่ลิบๆ ประมาณนี้ครับ
อันนี้เป็นตัวอย่างภาพที่ลองไปลองเล่นลองซูมมาคร่าวๆ พอซูมได้ มันก็ไปถ่ายภาพสนุกๆ หรือได้มุมมองที่หลากหลายมากขึ้น
04/06/2019 08:45 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย