เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยไปหมาดๆ ไม่ถึงสัปดาห์สำหรับ Motorola One สมาร์ทโฟนในโปรเจ็ค Android One ที่จะวางจำหน่ายในราคา 7,990 บาท และยังมีโปรโมชั่นราคาพิเศษเมื่อซื้อพร้อมแพ็คเกจด้วย (Exclusive เฉพาะผู้ใช้ TruemoveH เท่านั้น) ซึ่งวันนี้เราจะมาแกะกล่องส่อง Accessories ที่มาพร้อมกับ Motorola One รุ่นนี้ว่ามีอะไรบ้าง มาดูกันเลยค่า ~
หน้าตาของกล่อง Motorola One ที่เป็นสีม่วงเหลือบน้ำเงิน และมีโลโก้ Android One เด่นหราอยู่หน้ากล่อง
ก่อนอื่นขอพูดถึงจุดเด่นของ Motorola One ซึ่งแน่นอนว่าพอเป็นสมาร์ทโฟนที่เข้าร่วมในโครงการ “Android One” ก็จะรับประกันว่าจะได้ไปต่อในเวอร์ชั่นถัดไปเหมือนกับแกงค์ Pixel ไม่โดนลอยแพในเร็วๆ นี้แน่นอน และยังได้ฟีเจอร์ของ Pure Android ทั้ง Google Assistant, Google Lens และเก็บภาพได้แบบไม่จำกัดใน Google Photo นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลว่าจะได้แอปที่ไม่จำเป็นที่มักจะได้แถมมาจากผู้ผลิตด้วย เพราะไม่มีแน่นอน
ชะแว้บ ~เปิดกล่องมาก็เจอกับตัวเครื่อง Motorola One สีดำเงาวับ ซึ่งเป็นสีที่จะวางจำหน่ายในไทยเพียงสีเดียวเท่านั้น
อุปกรณ์ที่มาพร้อมกับ Motorola One ในกล่อง
ตัวเครื่องด้านหน้าและด้านหลังเป็นกระจกเงาวับ สีดำขลับสวยงาม แต่!! ติดรอยนิ้วมือง่ายมากๆ ซึ่งพอเป็นรอยนิ้วมือเยอะๆ ก็ทำให้ความสวยงามดูลดลง ดังนั้นแนะว่าควรใส่เคสไว้ดีกว่า ไม่งั้นอาจต้องมาคอยเช็ดตลอด
ขนาดเครื่องกำลังพอดีมือ แต่เวลาจับแอบมีสะดุดขอบเบาๆ ไม่เนียนเหมือนที่เห็นตอนวางเฉยๆ คือดูโค้งมนสวยงาม
สำหรับหน้าจอของ Motorola One นั้นเป็น LTPS IPS LCD ขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1520 x 720) พิกเซล Max Vision ในอัตราส่วน 19:9 และนับเป็นรุ่นแรกของ Motorola ที่ทำให้สมาร์ทโฟนมีรอยแหว่ง (Notch) ที่หน้าจอ ให้เป็นที่อยู่ของลำโพง เซนเซอร์ และกล้องหน้า ความละเอียด 8 MP มาพร้อมฟีเจอร์ถ่ายเซลฟี่แบบหน้าชัดหลังเบลอซึ่งปรับได้แบบ Real time
ด้านหลังเป็นกระจกเงาสีดำสวยงาม แต่พอแตะโดนแค่นิดเดียวก็ขึ้นรอยนิ้วมือเห็นชัดอย่างที่ได้เกริ่นไปตอนแรก
ส่วนกล้องหลังของ Motorola One เป็นกล้องคู่ (Dual Camera) ความละเอียด 13 MP (f/2.0) + 2 MP (f/2.4) มาพร้อม Dual depth-sensing ช่วยให้ภาพดูมีมิติมากขึ้น และ Low Light Sensor ช่วยในการถ่ายภาพในที่แสดงน้อย สำหรับฟีเจอร์เด่นๆ ก็มีโหมด Portrait ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ และ Spot Color ที่เลือกให้มีสีเฉพาะตำแหน่งที่เลือกได้ ส่วนที่เหลือนั้นก็จะเป็นสีขาวดำ รวมถึงมีฟีเจอร์ทำภาพ Cinemagraph คือ สามารถเลือกฟรีซหรือหยุดบางส่วนในวิดีโอให้หยุดนิ่งได้ ส่วนที่เหลือก็จะขยับไปตามปกติ
ตัวอย่างของภาพแบบ Cinemagrapgh
นอกจากนี้ยังรองรับความสามารถ AI ของ Google Lens ที่เมื่อนำกล้องไปส่องที่สิ่งของ หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็จะปรากฎข้อมูลขึ้นมาให้ ซึ่งตอนนี้ก็พัฒนาการทำงานให้ฉลาดขึ้นเรื่อยๆ >> ฟีเจอร์ใหม่ของ Google Lens
ตัวเครื่องด้านข้างค่อนข้างดูหนา เมื่อจับแถวแล้วก็ไม่รู้สึกว่าหนาเกินไป เป็นที่อยู่ของปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power
ส่วนอีกด้านเป็นที่อยู่ถาดใส่ซิม รองรับ 2 ซิม (nanoSIM) และมีอีก 1 สล็อทสำหรับใส่ microSD Card รองรับสูงสุด 256GB
ด้านบนเครื่องมีรูหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งมองจากมุมนี้หรือด้านข้างจะเห็นความนูนของกล้องอย่างชัดเจนเลย
ด้านล่างตัวเครื่องมีลำโพง และพอร์ท USB Type-C ที่รองรับชาร์จเร็ว Turbo Power ซึ่งเคลมว่าชาร์จเพียง 20 นาที สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง เมื่อรวมกับความจุของแบตเตอรี่ที่ให้มา 3,000 mAh และการทำงานของชิป Snapdragon 625 ที่ขึ้นชื่อเรื่องการประหยัดพลังงานทำให้แบตอึด จึงว่าถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของ Motorola One เลยล่ะค่ะ
สำหรับวันนี้การแกะกล่องสมาร์ทโฟน Anodroid One อย่าง Motorola One นั้นคงจะพูดถึงคร่าวๆ เพียงเท่านี้ สำหรับประสิทธิภาพการใช้งาน กล้อง และฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่มาพร้อมการอัพเกรดเป็น Android Pie จะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งในตอนรีวิวการใช้งานจริงนะคะ หากเพื่อนๆ มีอะไรที่อยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Motorola One สามารถทิ้งคำถามไว้ที่คอมเมนท์ได้เลยค่า
02/12/2018 12:56 PM
02/12/2018 01:11 AM
02/12/2018 10:45 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย