ซอยรุ่นมาซะถี่เหลือเกินสำหรับแบรนด์ Xiaomi ซึ่งในบทความนี้เองทีมงานก็ได้เจ้า Mi9 Lite หรือที่รู้จักกันก่อนหน้านี้ว่าคือรุ่น Mi CC9 น้องเล็กประจำตระกูลซีรีส์ Mi9 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์การใช้งานแบบจัดเต็มไมว่าจะเป็น Snapdragon 710 กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหน้า 32MP หน้าจอ Amoled ในราคาสุดคุ้มเริ่มต้นแค่ 7,999 บาทเท่านั้น การใช้งานและรีวิวจะเป็นยังไงบ้างไปดูกันเลยครับ
ดูเผินๆ แล้วดีไซน์ Xiaomi Mi9 Lite แทบไม่ต่างจากตัวรุ่นพี่อย่าง Mi 9 หรือ Mi 9SE บอดี้ไซต์พอๆ กันมีกล้องหน้าเป็นติ่งเหมือนกัน ซึ่งจุดที่แตกต่างกันจริงๆ คือฝาหลังคนแบบ โดยเครื่องที่ทีมงานได้มารีวิวนั้นจะรุ่น 6 + 128GB เป็นสี Onyx Grey สีจะออกเทาเข้มติดม่วงนิดๆ วัสดุเฟรมตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม หน้าจอเป็นกระจก Gorilla Glass 5 ส่วนฝาหลังจะเป็นกระจกธรรมดามีสกรีนตัวอักษรนิดหน่อย ผิวสัมผัสทำได้ดีไม่ลื่นมือ สามารถใช้งานมือเดียวได้สบายๆ
ความหนาตัวเครื่องถือว่าอยู่ในขนาดที่พอดีๆ ไม่บางจนเกินไป 8.67 mm น้ำหนัก 176 กรัม ด้านบนตัวเครื่องจะมีพอร์ตเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 mm ให้ พร้อมมีไมค์ตัดเสียง 2 ตัวตรงหัวด้านบนกับด้านล่างตรงลำโพง และมีเซนเซอร์ Infrared ไว้สำหรับเป็นรีโมทแอร์หรือทีวี ส่วนด้านล่างก็จะมีพอร์ต USB Type C ไว้สำหรับชาร์จไฟและซิงค์ข้อมูลปกติ
ทางด้านหน้าจอตัวเครื่อง Xiaomi Mi9 Lite ให้มาขนาด 6.39 นิ้ว แบบ Dot Drop display มีติ่งกล้องอยู่ตรงกลาง ส่วนกล้องด้านหลังก็เรียงเป็นแนวดิ่งติดกัน 3 ตัวนูนขึ้นมาเหนือฝาหลังนิดหน่อย ส่วนถาดซิมจะอยู่ที่ด้านซ้ายตัวเครื่องเป็นแบบ Hybird Slot โดยรวมแล้วงานดีไซน์การประกอบถือว่าเป็นอีกรุ่นที่ทำได้ดีมากๆ ตัวเครื่องดูแข็งแรง มีความพรีเมียมแบบเรียบง่ายไปในตัว
แน่นอนว่าด้วยสเปคที่ Xiaomi Mi9 Lite ทั้ง Snapdragon 710 พร้อมกับ Ram 6GB การใช้งานทั่วไปลื่นไหลหายห่วง ปัดกวาดซ้ายขวาติดมือไม่มีสะดุด แต่ผิวกระจกหน้าจอไม่ได้ลื่นมากจะหนืดๆ มือนิดหน่อย ถ้าเอาไปติดฟิล์มแล้วน่าจะดีขึ้น การสแกนนิ้วบนหน้าจอทำได้ดีไม่มีติดขัดอะไร สแกน 10 ครั้งติดทั้ง 10 ครั้ง
เคสที่แถมมาให้ในกล่องจะเป็นแบบ TPU ใสสีดำเข้ากับตัวเครื่อง คลุมมิดทั้งปุ่มด้านข้าง เจาะรูตรงเซนเซอร์พอร์ตต่างๆ ได้อย่างพอดี และตัวเคสค่อนข้างข้างพอสมควรทำให้สามารถวางติดกับพื้นได้สนิทโดยไม่โดนกล้องหลัง
ฟีเจอร์ที่เพิ่มมากสำหรับ MIUI 10.3.6 ในรุ่นนี้ คือมี Dark Mode ใช้ช่วยให้ใช้งานสบายตาขึ้นเวลากลางคืน และช่วยประหยัดแบตนิดหน่อยอีกด้วย วิธีการเปิดคือไปที่ การตั้งค่า -> การแสดงผล -> โหมดมืด
การใช้งานกลางแจ้งสำหรับ Xiaomi Mi9 Lite ถือว่าทำได้ดีมาก เห็นชัดเจนเลยแบบไม่ต้องเพ่ง โดยตัวหน้าจอสามารถแสดงความสว่างได้สูงสุดถึง 403 ppi
GPS สามารถทำทางได้ดี ค้นหาไว ติดหนึบกับรถไม่มีปัญหาอะไร แต่ในตอนแรกที่เปิดเข้ามาครั้งแรกจะมีจังหวะตำแหน่งเด้งไปมาบ้างนิดหน่อย
อะแดปเตอร์ชาร์จที่แถมมาในกล่องจะเป็นขนาด 18w เท่ากับที่ตัวเครื่อง Xiaomi Mi9 Lite รองรับพอดี ซึ่งในกล่องจะไม่มีหูฟังแถมมาให้นะครับ ต้องไปซื้อหาใช้งานแยกกันเอาเอง
ทางด้านกล้องของ Xiaomi Mi9 Lite ก็ถือว่าถอดแบบว่าจะรุ่นพี่ตัวท็อป Mi9 เลยก็ว่าได้ที่ใช้เป็นกล้องหลัง 3 ตัว ตัวหลักใช้เซนเซอร์ Sony IMX586 ความละเอียด 48MP f/1.79 ถ่ายที่มืดได้สบาย, กล้อง Ultra Wide มุมกว้าง 118 องศา ความละเอียด 8MP f/2.2 และกล้องจับความลึก 2MP สำหรับถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือโหมด Portrait นั่นเอง
ส่วนกล้องหน้าถือเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยที่ให้มากกว่าใครในแบรนด์ Xiaomi ด้วยกัน คือให้ความละเอียดมา 32MP f/2.0 พร้อม AI Portrait Mode ช่วยภาพที่ได้สวยงามมากยิ่งขึ้น
สำหรับการถ่ายวิดีโอของ Xiaomi Mi9 Lite ทั้งกล้องหลังสามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps / Full HD 60fps และกล้องหน้าถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด Full HD 60fps
28/10/2019 02:45 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย