Redmi Note 8 มือถือสุดคุ้มที่พึ่งจะวางจำหน่ายในบ้านเราไปเมื่อเดือนที่แล้วในราคาเริ่มต้นแค่ 4,999 บาทเท่านั้น แต่สเปคแต่ละอย่างที่ได้มาถือว่าคุ้มค่าสุดๆ ไม่ว่าจะกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48MP, ชิป Snapdragon 665 ที่ใช้งานทั่วไปได้สบายๆ แถมยังได้จอ FHD+ ขนาด 6.3 นิ้ว มาอีกต่างหาก
Redmi Note 8 ในบ้านเรามีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น เริ่มต้นจากรุ่นเล็กสุดซึ่งมีหน่วยความจำ 3GB/ 32GB ราคา 4,999 บาท, รุ่น 4GB / 64GB ราคา 5,999 บาท และรุ่นท็อป 4GB / 128GB ราคา 6,999 บาท โดยรุ่นที่เรารีวิวคือรุ่นกลางที่ให้ RAM มา 4GB และความจุ 64GB นะครับ
Redmi Note 8 มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 4,999 – 6,999 บาท แต่ตัวเครื่องถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียว ด้วยเฟรมเครื่องที่เป็นพลาสติกเนื้อแน่นแข็งโป๊ก ฝาหลังเป็นกระจกโค้ง 2.5D ที่ Xiaomi เคลมว่าสามารถทนทานต่อการขีดข่วนได้ดีสุดๆ แม้ใช้ตะไบไถ หรือสว่านก็เจาะไม่เข้า เรียกว่าวัสดุประกอบเครื่องดีแข็งแรงทนทานไม่ก๊องแก๊ง แถมยังมีดีไซน์โดยรวมที่ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่าเป็นมือถือราคาแค่ 5,000 – 7,000 บาท
เฟรมเครื่องของ Redmi Note 8 เป็นพลาสติกที่เคลือบด้วยสีเงินวาววับ ด้านขวามีปุ่มปรับเสียง + ปุ่ม Power ด้านซ้ายมีช่องใส่ถาดซิมและ MicroSD Card
ขอบบนมีแค่ IR Blaster หรือช่องยิงแสงอินฟราเรด ขอบล่างมีลำโพง, ไมโครโฟน, รูหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ท USB-C
หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว มี Notch แบบหยดน้ำสำหรับวางกล้องเซลฟี่ 13MP อยู่ที่ขอบจอบน, ขอบจอด้านข้างซ้าย-ขวาถือว่าบางอยู่ ส่วนขอบล่างจะหนากว่าด้านอื่นเล็กน้อย และมีโลโก้ Redmi แปะอยู่
สเปคของ Redmi Note 8 ที่ให้มาทั้งชิป Snapdragon 665 และ RAM 3GB – 4GB เรียกได้ว่าสามารถใช้งานทั่วไปได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเว็บ, เล่นโซเชียล, ดูหนังระดับ FHD หรือจะเล่นเกม ก็ไม่มีอาการกระตุกหรือหน่วงให้เกิดอาการเซ็งจิตแต่อย่างใด โดยวัดประสิทธิภาพจากแอป AnTuTu ออกมาได้ตามนี้
หน่วยความจำของ Redmi Note 8 เป็นแบบ eMMC 5.1 ซึ่งวัดประสิทธิภาพในการอ่าน-เขียนข้อมูลด้วยแอป Androbench ออกมาได้ตามนี้ครับ
ส่วนการเล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ จากการทดสอบด้วยเกมสุดฮิตอย่าง ROV พบว่าสามารถปรับโหมดเฟรมเรทสูงได้ และปรับกราฟฟิคอื่นๆ ได้เกือบสุด จะเหลือก็แค่ “การแสดงผล” ที่สามารถปรับได้แค่เกือบสุดที่ระดับสูงเท่านั้น พอเข้าไปเล่นเกมก็สามารถเล่นได้สบายๆ โดยตอนที่นัวๆ กัน เฟรมเรทจะร่วงลงไปที่ราวๆ 45 fps แต่ก็ไม่ได้กระทบกับการเล่นเกม หรือทำให้เสียอารมณ์ นอกจากนี้ระบบทัชก็ไม่มีอาการเพี้ยนหรือทัชหลุดแต่อย่างใด
เกมกินสเปค PUBG ตอนเข้าเล่นครั้งแรก ตัวเกมจะปรับมาให้ที่ระดับต่ำสุด แต่สามารถปรับได้เองสูงสุดที่ Balanced และเฟรมเรทได้ที่ระดับกลาง ซึ่งก็เล่นได้ลื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไร
ทดสอบอีกหนึ่งเกมคือ Call of Duty ปรับกราฟฟิคได้สุดที่ High และเฟรมเรทที่ High (สูงสุดคือ Very High) ก็พบว่าเล่นได้ลื่นๆ ไม่มีปัญหาอีกเช่นกัน
กล้องของ Redmi Note 8 ทั้ง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 48MP + กล้อง Ultrawide 8MP + กล้องมาโคร 2MP + กล้องจับความลึก 2MP
โหมดถ่ายภาพจะมีให้เลือกทั้งการถ่ายภาพปกติที่มีให้เลือกทั้งการถ่ายแบบซูม 2x และ Ultrawide 0.6x ซึ่งในโหมดนี้ยังเปิดระบบ AI สำหรับช่วยจำแนก Scene, โหมดมาโครสำหรับถ่ายวัตถุระยะใกล้ ส่วนโหมดถ่ายภาพแบบเต็มความละเอียด 48MP ที่ไม่มีฟีเจอร์ให้เลือก มีแค่ฟิลเตอร์เปลี่ยนสีเท่านั้น
Night Mode ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยสว่างขึ้นมาได้อีกหน่อย (ไม่ถึงกับว่าถ่ายในที่มืดสนิทได้เหมือนมือถือในระดับที่สูงกว่า)
การถ่ายวิดีโอทำได้สูงสุดถึง 4K 30fps สำหรับการถ่ายแบบธรรมดาและถ่ายซูม 2x แต่เมื่อสลับมาใช้เลนส์ Ultrawide จะถ่ายได้แค่ 720p – 1080p 30fps
ความละเอียด 4K 30fps
ความละเอียด FHD เลนส์ Ultrawide
นอกจากนี้ยังมีโหมดกันสั่นสำหรับถ่ายวิดีโอระดับ 1080p 30fps อีกด้วย ซึ่งคุณภาพก็ถือว่าพอใช้ได้ เนียนขึ้นกว่าตอนไม่ได้เปิดเยอะเลย แต่สีและความละเอียดเหมือนจะลดลงไปนิดหน่อย
ความละเอียด FHD ปิดระบบกันสั่น
ความละเอียด FHD เปิดระบบกันสั่น
กล้องหน้าของ Redmi Note 8 มีความละเอียด 13MP มีทั้งโหมดบิวตี้ปรับหน้าเนียน, หน้าเล็ก, ตาโต และถ่ายแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย
28/11/2019 09:25 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย