Mi Pad 4 เป็นอีกหนึ่งแท็ปเล็ตจาก Xiaomi ที่เพิ่งเปิดตัวและวางขายกันที่ประเทศจีนไป ได้รับความสนใจจากหลายๆคนพอสมควรจากรูปร่างและสเปคที่น่าใช้งานเอาซะมากๆ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังคงต้องลุ้นว่าจะมีวางขายในประเทศอื่นหรือไม่ เพราะแต่ไหนแต่ไรมา Mi Pad ไม่ค่อยออกจากจีนเท่าไหร่นัก แต่ในเมื่อเราได้เครื่องมาแล้ว วันนี้เราเลยจะมา Unbox แกะกล่องเจ้า Xiaomi Mi Pad 4 ลองเล่นทำมินิรีวิวกันสักหน่อยละกันค่ะ แกะกล่อง Xiaomi Mi Pad 4 มีอะไรมาให้บ้าง ตัวกล่องจะเป็นสีขาวและมีเลข 4 ด้านหน้าซึ่งก็คือรุ่น […]
The post Review | มินิรีวิว Xiaomi Mi Pad 4 แท็บเล็ตไซส์พอดีมือ ราคาพอดีใจ appeared first on DroidSans.
Mi Pad 4 เป็นอีกหนึ่งแท็ปเล็ตจาก Xiaomi ที่เพิ่งเปิดตัวและวางขายกันที่ประเทศจีนไป ได้รับความสนใจจากหลายๆคนพอสมควรจากรูปร่างและสเปคที่น่าใช้งานเอาซะมากๆ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังคงต้องลุ้นว่าจะมีวางขายในประเทศอื่นหรือไม่ เพราะแต่ไหนแต่ไรมา Mi Pad ไม่ค่อยออกจากจีนเท่าไหร่นัก แต่ในเมื่อเราได้เครื่องมาแล้ว วันนี้เราเลยจะมา Unbox แกะกล่องเจ้า Xiaomi Mi Pad 4 ลองเล่นทำมินิรีวิวกันสักหน่อยละกันค่ะ
ตัวกล่องจะเป็นสีขาวและมีเลข 4 ด้านหน้าซึ่งก็คือรุ่น Mi Pad 4 นั่นเอง
พอเปิดฝากออกมาก็จะเจอตัวเครื่อง Mi Pad 4 อยู่ด้านใน ขนาดเครื่องค่อนข้างใกล้เคียงกับ iPad Mini ของ Apple อยู่พอสมควร จับถือง่ายเข้ามือ สามารถถือเล่นมือเดียวได้อยู่ หน้าจอ 8 นิ้ว ด้านหน้าจะเห็นว่ามีกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
เครื่องที่ซื้อมาเป็นสี Rose Gold และเป็นรุ่น Wifi ด้านหลังอย่างที่เห็นก็จะมีกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล
ด้านล่างก็จะเป็นช่องเสียบชาร์ตซึ่งจะใช้เป็น USB-C และลำโพงที่มา 2 ฝั่งเลย และอีกจุดนึงที่เกินมาจะเป็นไมค์นะ
ด้านขวามี 2 ปุ่ม ปุ่มเล็กเป็นปุ่ม Power หรือปุ่มเปิดเครื่อง ส่วนปุ่มใหญ่เป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง
ส่วนด้านซ้ายถาดเพิ่ม Micro SD ซึ่งในกล่องจะมีที่จิ้มเอาถาดออกมาให้อยู่
ด้านบนก็จะมีรูหูฟัง 3.5mm แต่ไม่มีหูฟังมาให้ในกล่องนะคะ
อยากอื่นที่ให้มาในกล่องก็จะมีเข็มจิ้มถาด Micro SD, สายชาร์ต USB-C, หัวปลั๊กและ คู่มือกับใบรับประกันซึ่งเป็นภาษาจีนล้วน
พอเปิดเครื่องมาก็จะขึ้นมาเป็นอย่างที่เห็น ขอบจอโค้งมนทั้ง 4 ด้าน สีสันจอสดใสดี มีแปะกันรอยมาให้เลยนะ แต่ว่าจะเป็นแบบด้านทำให้ดูเผินๆเหมือนความคมชัดลดลงนิดหน่อย ไม่มีแถบนำทางมาให้ ใช้วิธีควบคุมเหมือนของฝั่ง iOS คือ ลากขึ้นจากขอบจอ = Home, ลากขึ้นแล้วค้าง = Recent, และปัดจากขอบจอด้านซ้าย = Back
พอปลดล็อคแล้วก็จะเข้ามาที่หน้านี้เลย ด้วยความที่เราซื้อเครื่องมาจากที่จีนเลยจะเป็น China Rom ไม่มี Play Store มาให้ก็ต้องมาลงเอง ซึ่งในภาพเราลงไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าใครสนมีซื้อเครื่องหิ้วของ Xiaomi จากประเทศจีนมาแล้ว รออีกแปปนึงเดี๋ยวเราจะมาบอกอีกทีว่าต้องทำยังไงบ้าง
เป็นการทดสอบจากเครื่องจริงที่เราได้ลองจับอยู่ซึ่งเป็นรุ่น 4/64GB WiFi นะ เพราะตัว LTE ยังไม่วางจำหน่าย
มีขายทั้งหมด 3 รุ่นราคาก็แตกต่างกันไปตามสเปค
รีวิวด้านล่างนี้จาก Gimme นะครับ ผิดพลาดประการใดท้วงติงที่ผมได้เลย
อย่างที่บอกไปว่า Mi Pad 4 นี้มีโอกาสว่าจะขายในจีนเท่านั้นค่อนข้างสูงทำให้รอมที่ออกมามีแต่ตัวจีนซึ่งไม่มี Google Services มาให้ด้วย ไม่มีทั้ง Gmail, YouTube, Google Search, Photos, หรือทุกอย่างของ Google นั่นแหละ แต่ยังดีว่าทางทีมพัฒนาเค้ามีแอปเอาไว้ให้สามารถติดตั้งเองได้ไม่ยาก โดยต้องไปโหลด apk มาลงจาก en.miui.com เลย (เค้าไม่มีให้โหลดจาก Mi Store แล้ว) โหลดมาแล้วก็ลงไม่ยากอะไรทำตามขั้นตอนแป๊บเดียวก็เสร็จ
แม้ว่าบางคนจะตั้งค่าภาษาของระบบเป็นอังกฤษเป็นประจำ แต่อีกหลายคนในประเทศนี้ยังชอบที่จะตั้งค่าเมนูให้เป็นภาษาไทยอยู่นะ ซึ่งเครื่อง Mi Pad 4 นี้ไม่มีภาษาไทยให้ใช้นะ จะมีแค่ จีน, อังกฤษ, และภาษาอื่นๆไปเลย
ด้วยความที่ Mi Pad 4 ใช้ซีพียู Snapdragon 660 ซึ่งเป็นตัวที่แรงมากตัวนึง หลายรุ่นขายกันหลักหมื่นเลย แต่ทาง Xiaomi จับมาใส่ให้ในราคาไม่ถึงหมื่นทำให้การโหลดแอป เล่นเกมต่างๆทำได้รวดเร็ว เปิดเอฟเฟกต์สุดเล่นได้สบายๆ แต่มีเจอปัญหาสะดุดบ้างในตอนใช้งานในช่วงแรกๆของการเล่น แต่เล่นไปสักพักก็จะลื่นดี
รอตัวอย่างคลิปแป้บนึง ตัดต่อเสร็จแล้วจะมาแปะให้ครับ
ลำโพงที่ให้มาใน Mi Pad 4 จัดว่ามีความดังดี เปิดสุดแล้วเข้าขั้นหนวกหูได้ แต่ความน่าเสียดายอย่างนึงของลำโพงบน Mi Pad 4 คืออยู่ด้านล่างเท่านั้น ทำให้เวลาพลิกเล่นแนวนอนแล้วเสียงมันออกด้านเดียว ถ้าทำเป็นบนล่างเอาไว้น่าจะดีกว่านี้เยอะครับ
ตรงนี้ยังไม่มีการทดสอบแบบเป็นตัวเลขมาให้ชัดๆแต่เท่าที่ใช้งานมา เล่นเกมดูยูทูปนานๆแบตไม่มียวบเลย ที่มาก็น่าจะเพราะตัวแบตที่ให้มาเยอะถึง 6000 mAh และโมเดลที่ได้มาเป็นตัว WiFi ทำให้ยิ่งประหยัดพลังงานเข้าไปใหญ่ ใครอยากจะเอาไว้อ่านหนังสือ/การ์ตูน, ดู YouTube, Netflix อันนี้ก็แนะนำเลยครับ ดูกันจนเพลียกว่าจะแบตหมดแน่นอน แต่ข้อเสียคือตัวมันเองไม่ได้ใส่ฟีเจอร์ชาร์จไวมาด้วยนะครับ รองรับแค่ 5V2A เท่านั้น ชาร์จทีรอกันข้ามคืนเลยกว่าจะเต็มครับ
สำหรับคนที่อยากเอาไปนำทางต้องบอกว่าตัวมันเองไม่มี GPS มาให้สำหรับรุ่น WiFi นะครับ ต้องเป็นรุ่น LTE เท่านั้น
13/07/2018 11:29 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย