สมาร์ทโฟนซีรี่ส์ V จาก Vivo นั้นเป็นตระกูลที่เน้นเรื่องกล้องทั้งหน้าและหลังเป็นพิเศษ รอบนี้ Vivo V19 มาพร้อมกล้องหน้าคู่ 2 ระยะเลนส์ และกล้องหลัง 4 ตัว ได้ชิปประมวลผลที่แรงขึ้น และยังชาร์จเร็วขึ้นถึง 33 วัตต์ ทั้งหมดนี้แพ็คมาในดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยเฉียบเนี้ยบอีกต่างหาก
วีโว่ได้เลือกเอา 2 สีคลาสสิคอมตะอย่างดำและเงินมาทำใหม่ ให้ดูมีสเหน่ห์มากขึ้น เริ่มจาก Gleam Black ที่หากดูผ่านๆ จะเหมือนสีดำทั่วๆ ไป แต่จริงๆ แล้วซ่อนเอาประกายเงาสะท้อนแสงเอาไว้
เรียกว่าดูนุ่มลึก แต่ก็มีความซับซ้อนแอบซ่อนอะไรเอาไว้ข้างในให้ดูน่าค้นหา
ส่วน สีเงิน Sleek Silver นั้นมาแนวล้ำๆ กับความเงาสะท้อนที่ไม่จำเจ ถึงแม้ว่ามันจะดูออกมาในโทนสีฟ้าๆ บ้าง หากไม่โดนแสง
แต่ถ้าได้ออกไปข้างนอกหรือเจอแสงที่อุณหภูมิต่างๆ กัน มันก็พร้อมที่จะโชว์สีที่เปลี่ยนไปในทุกมุมที่ได้มอง
ได้เห็นทั้งคู่แบบนี้ เอาจริงๆ ก็เลือกสียากเหมือนกันนะ ว่าจะจัดดำหรือเงินดี
จุดแรกที่เห็นแล้วเด่นคือหน้าจอ 6.44 นิ้วแบบ Super AMOLED เพราะสีสันนั้นสวยสดโดนก่อนเลย แถมเมื่อมองใกล้ๆ ความคมและรายละเอียดต่างๆ ก็ดีกับควาละเอียด Full HD+ และการแสดงสีสันได้กว้างตามมาตรฐาน P3
ส่วนเรื่องของแสงสีฟ้านั้นหน้าจอของ V19 ถูกออกแบบมาให้ปล่อยออกมาน้อยกว่าหน้าจอแบบเดิมๆ ถึง 42% ในการใช้งานปกติ ไม่ต้องเปิดโหมดถนอมสายตาให้จออุ่นๆ เหลืองๆ ก็ได้
กล้องหน้าแบบ Ultra O Screen ที่รอบนี้อาจดูมีการเจาะรูยาวไปนิด แต่ข้างในนั้นฝังเอากล้องคู่ Dual Camera ที่มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 32MP และยังมีกล้องมุมกว้าง Super Wide 8MP ด้วย
เสียงลำโพงทั้งสายเรียกเข้า แจ้งเตือน ถือว่าดีทั้งเรื่องของความดังและคุณภาพถือว่าดีสำหรับลำโพงเดี่ยว ส่วนเสียงจากลำโพงสนทนาก็ใสชัดเจนดีครับ
ขนาดตัวเครื่องและน้ำหนักออกแบบมาได้บาลานซ์ เวลาถือใช้งานไม่รู้สึกว่าหนักหรือถ่วงไปทางไหน หากต้องใช้งานมือเดียวก็สามารถเปิดเรียกเอา One Hand Mode มาช่วยให้พิมพ์หรือทำสิ่งต่างๆ ได้สะดวกขึ้น
ใน FunTouch OS เวอร์ชั่นใหม่นั้นได้ปรับเอาปุ่มลัดต่างๆ ไปไว้ที่ด้านบนตามมาตรฐานของ Android OS แล้วนะครับ ใครที่ใช้ Vivo รุ่นก่อนๆ อาจจะงงนิดๆ ว่าทำไมลากจอจากด้านล่างแล้วไม่มีการตั้งค่าทางลัดเด้งขึ้นมา รอบนี้มันอยู่ด้านบนแล้ว
นอกจากนั้นยังมีโหมดมืด สำหรับใครที่ชอบโทนสีเข้มๆ ดำๆ ซึ่งนอกจากจะลดภาระสายตาแล้ว ยังช่วยประหยัดแบตให้กับหน้าจอแบบ AMOLED ได้ด้วย
ส่วนสีสันต่างๆ นั้นก็สามารถเลือกปรับได้หากใครที่ชอบสีธรรมชาติ หรือสดๆ แบบเน้นสีสันจัดๆ
นอกจากนั้นก็ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยในการใช้งาน ทั้งเรื่องของระบบการนำทาง ใครยังถนัด 3 ปุ่ม หรือปรับไปใช้การปัดหน้าจอแทน, มีฟังก์ชั่นเขย่าเพื่อเปิดไฟฉายๆ หรือเลือกเปิดโหมดบิวตี้ในแอปอื่นๆ เวลาโทรวิดีโอคอลได้ด้วย
ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น Vivo V19 มีสแกนลายนิ้วมือบริเวณใต้หน้าจอ หรือจะเลือกใช้การสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคก็ได้เหมือนกัน
ส่วนผู้ช่วยอย่าง Jovi ในตอนนี้อาจจะยังไม่ได้พูดคุยกันเหมือน Assistant รุ่นอื่นๆ แต่ก็มีข้อมูลข่าวสารต่างๆ มาให้ดู รวมถึงการเก็บข้อมูลการใช้งานมือถือ นับก้าวเดิน หรือไปวิ่งออกกำลัง และการดูแลสุขภาพอย่างกำหนดการดื่มน้ำได้นะ
นอกจากจะใส่ฟีเจอร์มาเยอะแล้ว ใน FunTouch OS ก็ยังใส่แอปที่เราอาจจะไม่ได้ใช้ รวมถึงการแจ้งเตือนที่เด้งพรึ่บพรั่บไปหมด อันนี้ขอบ่นหน่อยนึง สุดท้ายก็ต้องไปปิดการแจ้งเตือนของแอปพวกนี้ทิ้ง
ความลื่นไหลของ UI เปิดปิดแอปต่างๆ นั้นทำได้รวดเร็ว คล่องตัว RAM 8GB ที่ให้มาเยอะก็สามารถช่วยให้สลับแอปไปมาได้รวดเร็วขึ้นด้วย
ชิป Snapdragon 712 มีพลังในการประมวลผลทั้ง CPU + GPU ดีกว่าใน V รุ่นที่แล้ว เวลาเล่นเกมต่างๆ ก็สามารถเปิดกราฟิคระดับสูง รวมถึงเฟรมเรตสูงได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น Call of Duty, Marvel Super Wars, PUBG หรือ RoV เขียนอธิบายอาจจะไม่เห็นภาพ ไปดูในคลิปรีวิวกันเลยดีกว่า
ส่วนของ Ultra Game Mode นั้นรอบนี้มี Multi Turbo เข้ามาเสริม ช่วยเร่งประสิทธิภาพของตัวเครื่องระหว่างเล่นเกม และฟีเจอร์เสริมอย่างการบันทึกหน้าจอระหว่างเล่น หรือการเปลี่ยนเสียงเวลาคุยในเกม
หากเล่นไปนานๆ เกิดความร้อนภายในก็ยังมี Copper Tube Liquid Colling มาช่วยระบายความร้อนให้กับ CPU
ภายในท่อ Copper Tube นั้นจะมีการถ่ายเทความร้อนระหว่างของเหลวและไอน้ำ ทำให้เกิดการกระจายความร้อนออกไปจาก CPU ทำให้อุณหภูมิของชิปเซ็ตลดลง 3~7 องศาเซลเซียส เมื่อควบคุมอุณหภูมิของชิปได้ มันก็สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนั่นเอง
แอบชอบแอบดูวิดีโอของ Vivo เหมือนกันนะ ที่ออกแบบ UI มาให้ปรับเสียงและความสว่างได้ผ่านการลากนิ้วทางซ้ายและขวา แต่เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะไปดูพวกสตรีมมิ่งกันหมดแล้ว
หน้าจอ 6.44 นิ้วอัตราส่วน 20:9 นั้นสามารถรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้สบายๆ หากเปิดดู YouTube หรือ Netflix ก็สามารขายให้เต็มอัตราส่วนหน้าจอได้ส่วน Netflix นั้น Vivo V19 รองรับการชมความละเอียดแบบ Full HD ผ่านมาตรฐาน Widevine L1 ครับ
เสียงจากลำโพงด้านล่างนั้นถือว่าดัง มีมิติ มีเบสติดมาตึ้บๆ เบาๆ เหมาะทั้งการดูหนัง ฟังเพลง เรียกว่าทำได้ดีเกินคาด
กล้องหน้าคู่ 32MP + 8MP นั้นสามารถเปิดใช้งานได้ทั้งการถ่ายภาพปกติ เต็มความละเอียด 32MP ได้ไฟล์ใหญ่ๆ คมชัด เผื่อจะเอาไปแต่งต่อ หรืออยากจะได้ภาพมุมกว้างเก็บวิวรอบๆ ไปด้วยก็สลับมาใช้กล้อง Super Wide 8MP
หน้ายังคงเนียนสวยใสได้ด้วย AI Face Beauty และยังมีโหมด Art Portrait ปรับแต่งแสงและสีตามฟิลเตอร์แบบที่เราชอบได้ รวมถึงเลือกแต่งหน้าได้ด้วยนะ
การเซลฟี่เวลากลางคืนหรือที่ที่มีแสงน้อยนั้น Vivo V19 มีตัวช่วยมาให้ทั้ง Softlight Band ที่ใช้ไฟจากหน้าจอ หรือจะเปิดโหมด Super Nigth Selfie ไปเลยก็ได้
กล้องหลัง Quad Camera ทั้ง 4 ของ V19 นั้นมีเซนเซอร์หลักความละเอียด 48MP ที่ใช้การรวมพิกเซลเพื่อให้ภาพสว่างมากขึ้นในทุกๆ สถานการณ์ หรือจะเลือกถ่ายเต็มความละเอียด 48MP เลยก็ได้หากมีแสงมากพอเพื่อนำไปใช้แต่งต่อในภายหลัง
13/05/2020 07:10 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย