ตอนSamsung เปิดตัว Galaxy M51 บอกเลยว่าฮือฮามากๆ เพราะสเปคที่ให้มา ทั้งหน้าจอ Super AMOLED, ชิปเซ็ต Snapdragon 730, กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64MP และที่ไฮไลท์สุดๆ ก็คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000 มิลลิแอมป์ รองรับชาร์จไว 25W ทั้งหมดนี้ในราคาแค่ 12,990 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งจุดขายของรุ่นนี้นอกจากสเปคครบๆ แล้วก็มีเรื่องของแบตเตอรี่นี่แหละที่มันจะอึดขั้นเทพขนาดไหน ลองตามมาดูกัน
ครั้งแรกที่ได้จับถือ Samsung Galaxy M51 อันนี้จะสังเกตได้ว่าน้ำหนักตัวเครื่องจะค่อนข้างหนักอยู่พอสมควรที่ 213 กรัม ซึ่งสำหรับคนที่มือเล็กๆ ก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเครื่องมันหนักไปนิดนึง
หน้าจอเลือกใช้เป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ครอบทับด้วยกระจกนิรภัย Corning Gorilla Glass 3 ป้องกันรอยขีดข่วนจากสิ่งของต่างๆ ในกระเป๋ากางเกงอย่างเศษเหรียญ หรือพวงกุญแจได้เป็นอย่างดี คือถ้าไม่เอาไฟมารน หรือโยนลงพื้น ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรอะ ฮ่าๆ
ปุ่มการใช้งานต่างๆ ไม่ว่าจะตัวเพิ่ม-ลดเสียง หรือปุ่ม Power ต่างอยู่ฝั่งขวาของตัวเครื่องด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งปุ่ม Power ของ Galaxy M51 ก็มีปุ่มเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือฝั่งเอาไว้ด้วย เอนกประสงค์สุดๆ
ฝั่งซ้ายจะมีเพียงแค่ถาดใส่ซิมแบบโดดๆ เท่านั้น ซึ่งรอบนี้ Galaxy M51 มากับถาดแบบ Triple Slot ใส่ซิมได้ 2 ซิม + microSD Card
ด้านหลังจะมีกล้องทั้งหมด 4 ตัว จัดวางเป็นรูปตัว L พร้อมกับไฟแฟลช LED 1 ตัว ซึ่งแม้ว่าจะเป็นฝาหลังแบบด้าน แต่ Galaxy M51 ก็ถือว่ามีรอยนิ้วมือติดค่อนข้างง่ายอยู่เหมือนกัน ถ้าใครเป็นคนมือมันแบบผม บอกเลยว่าน่าจะต้องพกผ้าเช็ดทั้งวัน หรือไม่ก็แก้ปัญหาด้วยการหาเคสมาใส่มันเสียเลย
Galaxy M51 ยังคงมีรูหูฟัง 3.5 มม. ส่วนพอร์ตชาร์จใช้เป็นแบบ USB-C ขณะที่ลำโพงที่ให้มา น่าเสียดายที่เป็นโมโน ไม่ใช่ลำโพงคู่แบบสเตอริโอ
ด้านบนก็จะมีเพียงไมค์สำหรับเอาไว้ตัดเสียงรบกวนภายนอกเวลาคุยโทรศัพท์เท่านั้น
Samsung Galaxy M51 มากับระบบปฏิบัติการ One UI Core 2.1 บนพื้นฐาน Android 10 ที่แม้ว่าจะมีคำว่า Core ต่อท้าย แต่ฟีเจอร์ที่จำเป็นๆ ต่อการใช้ชีวิตประจำวันก็ยังมาครบ ไม่ว่าจะเป็น
การเชื่อมต่อ WiFi ตรงนี้ Galaxy M51 จะรองรับทั้ง 2 คลื่นความถี่ ทั้งแบบ 2.4G และ 5G
ด้วยความที่มาพร้อมกับ RAM ความจุ 8GB ซึ่งเมื่อลองเอาไปเปิดแอปต่างๆ ทิ้งไว้ 10-15 แอป ก็ไม่เจอกับอาการกระตุกนะ แถมระบบก็ไม่ได้ Kill Apps ทิ้งด้วย
รอบนี้ตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Samsung M51 จะย้ายมาอยู่รวมกับปุ่ม Power ซึ่งจากที่ใช้งานมา 1-2 สัปดาห์ ก็พบว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร สแกนกี่รอบก็ติด แต่ตำแหน่งเซ็นเซอร์ตรงนี้จะอยู่ค่อนข้างพอดีมือเกินไป บางทีเราแค่ถือเครื่องไว้เฉยๆ ระบบมันก็ปลดล็อคหน้าจอให้ เพราะนิ้วเราพาดไปโดนพอดี
ซึ่งตรงนี้แก้ปัญหาได้ด้วยการไปปิดฟีเจอร์การใช้งาน Fingerprint always on แทน โดยถ้าจะสแกน รอบนี้จะต้องออกแรงกดแล้ว แตะเฉยๆ ไม่สแกนให้แล้ว
การใช้งาน GPS ของแอป Google Maps ของ Samsung Galaxy M51 ถือว่าทำผลงานออกมาได้ดีเลยทีเดียว เดินตามต๊อกๆ ละไม่มีพาหลง จับสัญญาณได้เร็วเลยทีเดียว
เมื่อเอาไปเช็คกับแอป DRM Info พบว่า Samsung Galaxy M51 ถอดรหัสแบบ Widevide อยู่ที่ระดับ L1 หรือพูดง่ายๆ ว่า สามารถดูได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD นั่นเอง แถมรองรับ HDR ซะด้วย
Galaxy M51 ถือเป็นมือถืออีกหนึ่งรุ่นในตลาดตอนนี้เลยก็ว่าได้ที่ประสิทธิภาพไม่เป็นสองรองใคร มาพร้อมชิป Snapdragon 730 และ RAM 8GB ซึ่งเมื่อเอาไปทดสอบความแรงกับแอป Geekbench 5 พบว่า สามารถทำคะแนนแบบ Single-Core ที่ 547 แต้ม และ Multi-Core ที่ 1,748 แต้ม
ส่วนการทดสอบหน่วยความจำกับแอป AndroBench เจ้า Galaxy M51 ทำความเร็วแบบการอ่านที่ 484.73 MB/s และการเขียน 186.8 MB/s
Galaxy M51 สามารถปรับกราฟิกในเกม RoV ได้ตามนี้เลย ซึ่งพอเอาไปเล่นจริงบอกเลยว่าเฟรมเรทไม่แกว่งนะ
ส่วน PUBG ก็ปรับภาพได้แบบ HD และเฟรมเรทแบบ High
Galaxy M51 ใส่กล้องหลังมาให้ทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วย
ฟีเจอร์ทั่วไปอย่างโหมด Pro, Panorama, Food, Night, Macro, Live Focus, Super Slow-mo, Slow-mo หรือ Hyperlapse ก็ใส่มาให้ครบๆ แต่ถึงเวลาเอาไปถ่ายรูปจริง จะเป็นยังไงบ้าง ก็ตัดสินได้จากภาพด้านล่างได้เลยคร้าบ~
ตัวอย่างภาพจาก Galaxy M51
29/09/2020 02:55 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย