สมาร์ทโฟนเน้นความสวยงามและดีไซน์อย่าง Mi Mix 3 นั้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตระกูล Mix จากเดิมที่เอากล้องไปซ่อนไว้มุมขวาล่างจนมีปัญหาในการใช้งานพอสมควร เปลี่ยนมาซ่อนกล้องไว้ในฝาหลังแบบสไลด์ และหน้าจอเต็มตาที่ไร้ติ่งและรอยบาก มาพร้อมกับประสิทธิภาพของชิปเรือธงและกล้องที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมาทาง droidsans ก็มีโอกาสได้ลองเล่นเครื่องอยู่สักพักนึง ก็ขอนำเสนอรีวิวฉบับย่อเผื่อใครที่สนใจละกันนะครับ
แกะกล่องเช็คของกันนิดหน่อย เซ็ตนี้เพื่อนสั่งมาตั้งแต่วางขาย (แต่พอดีไม่ว่างเขียน) โดยสีที่เลือกมานั้นคือเขียวหยก Jade Green และด้วยความที่มันเป็นรีวิวแบบรวบรัด รายละเอียดอาจจะไม่ลงลึกมาก และเน้นประสบการณ์ใช้งานเป็นหลักนะครับ
หน้าจอขนาด 6.39 นิ้ว ใหญ่เต็มตา ไม่มีติ่งหรือช่องรูกล้องมารบกวน เพราะตัวเครื่องเป็นแบบสไลด์ เลื่อนหน้าจอลงเพื่อเรียกใช้งานกล้องหน้า
ภายในกล่องมีของจัดเต็มมาเพียบ เรียกว่า Xiaomi น่าจะเป็นค่ายเดียวที่ให้แท่นชาร์จแบบไร้สายมาในกล่องเลย แต่สิ่งที่ไม่เคยให้มาซักทีคือหูฟัง ฮ่า ฮ่า
ตัวเครื่องของ Mi Mix 3 นั้นรองรับระบบชาร์จเร็ว QC 4+ สูงสุด 27W แต่หม้อแปลงที่แถมมานั้นเป็น QC 3.0 สูงสุด 18W เท่านั้น ถ้าอยากชาร์จเร็วเต็มพิกัด ก็ต้องหาหม้อแปลง QC 4+ มาใช้เองนะครับ (ข้อสังเกตุของหม้อแปลง Quick Charge 4+ คือจะสามารถจ่ายไฟระดับ 11V / 2.4A, 12V / 2.25A )
ด้านล่างมีพอร์ท USB C และช่องลำโพง อีกฝั่งเป็นไมโตครโฟน พอคว่ำเครื่องลงแบบนี้จะเห็นว่าสีเขียวที่ขอบนั้นตัดกับสีดำของฝาสไลด์ที่เป็นส่วนหน้าจออย่างเห็นได้ชัด
ส่วนด้านข้างก็เป็นปุ่มพาวเวอาร์ ใช้เปิด/ปิดเครื่อง และปุ่มปรับเสียงจะอยู่ด้านบนตามปกติ กล้องหลังจากมุมนี้จะเห็นว่านูนออกมาพอสมควร แต่ถ้าประกบกับตัวเคสแล้วก็จะเรียบเป็นผิวระดับเดียวกัน
ถาดซิมรุ่นนี้เป็นแบบ nano SIM 2 สลอต ไม่รับเมมเพิ่มนะ ส่วนการรองรับเครือข่ายก็เป็น Dual 4G มี Dual VoLTE แต่ไม่มี VoWiFi เหมือนเดิม
ด้วยความเป็นเรือธง รุ่นนี้ก็จะมีการดีไซน์ตัวเคสแถมมาแบบพิเศษกันหน่อย ตัวเคสผิวสัมผัสดี และออกแบบสีเขียวมาเข้ากับเครื่องเลย ส่วนใครที่ซื้อสีอื่นไปก็จะได้เคสตามสีนั้นๆ
ลองมาประกบใส่แล้วก็สวยงามดี ตัดปัญหาตัวเครื่องลื่นและรอยนิ้วมือเหนอะหนะได้ แถมยังออกแบบมาเผื่อให้สามารถสไลด์หน้าจอได้ไม่ติดขัด ส่วนกล้องที่นูนขึ้นมาก็แบนราบเรียบไปกับเคสที่ประกบเข้าไป
ในส่วนของ MIUI นั้นคงไม่ขออธิบายยาว เพราะหลายๆ คนน่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ในเรื่องของการใช้งานทั่วไปนั้นไม่เจอปัญหาอะไรเป็นพิเศษ และปกติทาง Xiaomi นั้นมีรอบอัพเดทแก้บั๊กต่างๆ ค่อนข้างถี่กว่ายี่ห้ออื่นๆ ส่วนที่เป็นไฮไลท์ฟีเจอร์นั้นคือการสไลด์หน้าจอซึ่งนอกจากจะตั้งค่าให้เปิดกล้องแล้ว ยังสามารถสไลด์เพื่อรับสายได้ด้วย
และถึงแม้จะไม่สไลด์หน้าจอลงมาก็รับสายได้สบายๆ เพราะหน้าจอก็มีช่องลำโพงสนทนาเผื่อเอาไว้ด้วย
เรื่องของประสิทธิภาพในการเล่นเกมและประมวลผลนั้นคงไม่ต้องวัดกันเยอะ เพราะนี่คือเรือธง Snapdragon 845 คะแนน Antutu ทำไป 292845 จะแตะ 3 แสนอยู่แล้ว การเล่นเกมต่างๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา เปิดโหมดเฟรมเรทสูงได้ตามมาตฐาน ส่วนหน่วยความจำนั้นก็เป็น UFS ครับ
ผล Geekbench คะแนนที่ออกมาก็เกาะกลุ่มเรือธง แต่จะมาเสียเรื่องอยู่นิดนึงตรง Widevine หรือ DRM L3 ที่สุดท้าย Xiaomi เองก็ยังไม่เคยมีรุ่นไหนที่รองรับ Widevine L1 เลย จนถึงปัจจุบัน (รุ่นที่มีลุ้นได้อัพเดทมากที่สุดก็คือ Pocophone F1)
กล้องของ Mi Mix 3 นั้นมีการประกาศตั้งแต่ตอนเปิดตัวว่าใช้เซนเซอร์ชุดเดียวกับ Mix 2s และ Mi 8 แต่มีการพัฒนาในเรื่องของ AI และ Software มาเรื่อยๆ จนล่าสุดสามารถทำคะแนนภาพนิ่งจาก DxOMark ได้ไป 108 คะแนน ซึ่งก็ถือว่าน่าชื่นชม และจากที่ได้ไปลองกล้องมานั้นก็ถือว่ารายละเอียดสีสันนั้นคมชัดเลยทีเดียว
เช่นเกียวกับกล้องหน้าที่เก็บคะแนน DXO Selfie ไปได้ 84 คว้าอันดับ 3 ไปครอง จุดเด่นคือ สีสัน สีผิว AI และยังถ่ายภาพย้อนแสงมี HDR รองรับ
11/02/2019 09:44 AM
11/02/2019 04:45 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย