REVIEW | รีวิว Xperia 5 II ขนาดพอดีมือ น้ำหนักเบา กล้องถ่ายสนุก แบตอึดกว่าที่คิด - Android

Get it on Google Play

REVIEW | รีวิว Xperia 5 II ขนาดพอดีมือ น้ำหนักเบา กล้องถ่ายสนุก แบตอึดกว่าที่คิด - Android

Xperia 5 II สมาร์ทโฟนเรือธงขนาดกะทัดรัดรุ่นล่าสุดจาก Sony โดดเด่นมากเรื่องการจับถือและใช้งานมือเดียว แอปกล้องปรับตั้งค่าได้เยอะ UI น่าใช้งาน พร้อมปุ่มชัตเตอร์แยก ทำให้รู้สึกสนุกกับการถ่ายภาพ แบตเตอรี่อึดสุด ๆ ใช้งานข้ามวันก็ยังไหว จอภาพ OLED 120Hz พร้อมลำโพงคู่ เล่นเกมก็ดี ดูหนังก็เพลิน แถมด้วยประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกับ pure Android แท้ ๆ ในราคา 28,990 บาท สเปค XPERIA […]

Xperia 5 II สมาร์ทโฟนเรือธงขนาดกะทัดรัดรุ่นล่าสุดจาก Sony โดดเด่นมากเรื่องการจับถือและใช้งานมือเดียว แอปกล้องปรับตั้งค่าได้เยอะ UI น่าใช้งาน พร้อมปุ่มชัตเตอร์แยก ทำให้รู้สึกสนุกกับการถ่ายภาพ แบตเตอรี่อึดสุด ๆ ใช้งานข้ามวันก็ยังไหว จอภาพ OLED 120Hz พร้อมลำโพงคู่ เล่นเกมก็ดี ดูหนังก็เพลิน แถมด้วยประสบการณ์การใช้งานที่ใกล้เคียงกับ pure Android แท้ ๆ ในราคา 28,990 บาท

สเปค XPERIA 5 II

  • จอภาพ :
    – CinemaWide OLED 6.1 นิ้ว, Full HD+ 2520 × 1080 พิกเซล, สัดส่วน 21:9
    – อัตรารีเฟรช 120Hz, อัตราตอบสนองการสัมผัส 240Hz
    – รองรับ HDR
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 865 5G
  • หน่วยความจำ : RAM 8GB + 256GB, รองรับ micro SD card สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง :
    – Wide 12MP (ƒ/1.7), 24 มม.
    – Ultra-wide 12MP (ƒ/2.2), 16 มม.
    – Telephoto 12MP (ƒ/2.4), 70 มม.
    – เลนส์ ZEISS T*
  • กล้องหน้า : 8MP (ƒ/2.0)
  • เครือข่าย : GSM / HSPA / LTE / 5G (ไม่รองรับคลื่นความถี่ 2600 MHz)
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax
    – Bluetooth 5.1
    – GPS, A-GPS, A-Glonass, Beidou, Galileo, QZSS9
    – USB Type-C 3.1
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (รวมกับปุ่มพาวเวอร์)
  • แบตเตอรี่ : 4000mAh, รองรับชาร์จไว USB Power Delivery (USB PD) 3.0 21W
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 10
  • ความทนทาน :
    – กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP65/68
    – Corning Gorilla Glass 6 (ด้านหน้า, ด้านหลัง)
  • ขนาด : 158 × 68 × 8 มม.
  • น้ำหนัก : 163 กรัม
  • สี :  ชมพู,  น้ำเงิน, ◉ ดำ
  • ราคา : 28,990 บาท

อุปกรณ์ภายในกล่อง

Sony ใส่อุปกรณ์พื้นฐานมาให้ในกล่อง Xperia 5 II อย่างครบครัน ได้แก่ สาย USB-C to USB-C สำหรับชาร์จไฟและถ่ายโอนข้อมูล, อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB PD (Power Delivery) ขนาด 18W และสุดท้าย หูฟังอินเอียร์รุ่น MH750 ที่ชาวอารยธรรมน่าจะคุ้นเคยกันดี

ไม่มีเข็มสำหรับจิ้มถาดซิมแถมมาให้ เพราะ Xperia 5 II สามารถดึงถาดซิมออกมาได้โดยใช้เพียงแค่เล็บเกี่ยว จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิมนั่นเอง ส่วนวัสดุของบรรจุภัณฑ์นั้นทำมาจากกระดาษแข็งแทบทั้งหมด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมดี

เป็นเรื่องน่าเสียดายเล็กน้อยที่ Sony เลือกแถมอะแดปเตอร์แปลงไฟขนาด 18W มาให้ แทนที่จะเป็นตามระดับสูงสุด 21W ที่ Xperia 5 II รองรับ

ดีไซน์ภายนอกและการจับถือ

ความรู้สึกหลังจากที่ได้ลองจับ Xperia 5 II ต้องบอกว่า เป็นอะไรที่สร้างประทับใจได้มากถึงมากที่สุด ด้วยขนาดตัวเครื่องที่เล็ก น้ำหนักที่เบา และเฟรมเครื่องที่โค้งมน ทำให้ทุกอย่างดูลงตัวไปหมด ถือได้กระชับ เข้ามือมาก ๆ ใช้งานมือเดียวได้โดยที่นิ้วโป้งยังคงเอื้อมถึงขอบหน้าจออีกฝั่งได้แบบไม่ต้องฝืนหรือเกร็งเลย งานประกอบทำได้เนี๊ยบ ไม่รู้สึกถึงรอยต่อระหว่างชิ้นส่วนเท่าไหร่ เพราะตรงมุมจะมีความโค้งมนทั้งหมด เต็ม 10 ไม่หัก

ปุ่มกดทั้งหมดของ Xperia 5 II จะมากองรวมอยู่ที่ฝั่งขวา ไล่จากบนลงล่าง ประกอบด้วย ปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มพาวเวอร์พร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ, ปุ่ม Google Assistant และสุดท้ายคือ ปุ่มชัตเตอร์ โดยส่วนตัวรู้สึกว่า ตำแหน่งของปุ่มโดยรวมจะอยู่ค่อนข้างต่ำ เข้าใจได้ว่า Sony ต้องการออกแบบให้ใช้งานมือเดียวได้ถนัด กดปุ่มต่าง ๆ โดยการขยับเพียงแค่นิ้ว ไม่ต้องขยับทั้งมือ ใช้ไปสักพักคงชินไปเอง

การที่ปุ่มกดทั้งหมดอยู่รวมกันในฝั่งเดียวนั้นมีทั้งข้อดีและข้อเสียในคราวเดียวกัน ซึ่งจะพูดถึงในส่วนถัดไป และบริเวณมุมขวาบนของหน้าจอจะมีไฟ LED สำหรับบอกสถานะหรือการแจ้งเตือนมาให้ด้วย

Sony เลือกใช้กระจก Gorilla Glass 6 จาก Corning เป็นวัสดุสำหรับทั้งหน้าจอและฝาหลังของ Xperia 5 II ซึ่งดูเหมือนมีการเคลือบสารลดรอยนิ้วมือมาให้แล้ว แต่หากจับบ่อย ๆ ก็หนีไม่พ้นอยู่ดี รวมถึงเฟรมเครื่องที่เป็นโลหะผิวมันวาวเองก็เช่นกัน ถ้าหงุดหงิดกับอะไรแบบนี้ แนะนำให้หาเคสมาใส่ก็จะดีกว่า

มีหลายคนสงสัยเกี่ยวกับสีของตัวเครื่อง โดยเฉพาะสีชมพู ซึ่งเครื่องที่ผมได้มาก็บังเอิญเป็นสีชมพูพอดี ของจริงสีจะออกหม่น ๆ อมม่วง อมเทา เล็กน้อย หากกระทบกับแสงจะสะท้อนแบบเมทัลลิก ให้ความรู้สึกพรีเมียมและหรูหรา แต่ถ้าไม่โดนแสงตรง ๆ จะเป็นสีแบบพาสเทล สวยไปอีกแบบ ผู้ชายถือได้ไม่มีปัญหาแน่นอน โดย Xperia 5 II รุ่นนี้ยังคงผลิตที่ประเทศไทยบ้านเราเหมือนเดิม แต่ไม่มีการสกรีนบอกเอาไว้ที่ฝาหลังนะครับ

จอภาพและการแสดงผล

Xperia 5 II มาพร้อมกับจอภาพ CinemaWide OLED 6.1 นิ้ว หากดูจากความยาวตามแนวทแยงอาจดูเหมือนเยอะ แต่จริง ๆ แล้วเครื่องไม่ได้ใหญ่อะไรเลย เพราะจอภาพมีสัดส่วน 21:9 ยาวเป็นพิเศษ ด้านกว้างจึงสั้น และหน้าจอขนาดประมาณนี้ถือว่าหาได้ยากมาก ๆ สำหรับสมาร์ทโฟนในสมัยนี้ ยิ่งกับพวกเรือธงด้วยยิ่งแล้วใหญ่

เรื่องสีสันนั้นทำได้ดีตามมาตรฐาน แสดงผลสีดำได้มืดสนิทตามแบบฉบับ OLED โดย Xperia 5 II มีโปรไฟล์การแสดงผลให้เราเลือก 2 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Standard สีสดจี๊ดจ๊าด บาดลึกไปทั้งหัวใจ อุณหภูมิสีจะอมฟ้าแบบที่หลายคนน่าจะชอบ (แต่หากไม่ถูกใจก็สามารถปรับเอาทีหลังได้) ส่วนอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ โหมด Creator ที่เน้นความถูกต้องเที่ยงตรงของเฉดสี ให้ผู้ใช้งานได้เสพสีสันที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผู้ผลิตคอนเทนต์ต้องการจะสื่อมากที่สุด โดยจะรองรับการแสดงผลสีในขอบเขตสเปกตรัม BT.2020 และสีแบบ 10-bit


โหมด Creator เน้นความถูกต้องของสี / โหมด Standard เน้นความสดใสของสี


ปรับอุณหภูมิสีของหน้าจอได้ด้วยนะ

ยิ่งไปกว่านั้น Sony ยังใส่เทคโนโลยี X1 for mobile มาให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วย เมื่อเปิดใช้งานจะเป็นการเพิ่มความสดใสและความคมชัดให้แก่วิดีโอ ฟีเจอร์นี้จะเปิดใช้งานได้เฉพาะโปรไฟล์ Standard ถ้าไม่ชอบก็สามารถปิดได้ตามสะดวก ซึ่งส่วนตัวผมก็ปิดเอาไว้ เพราะรู้สึกว่า เมื่อเปิดใช้งานแล้วภาพวิดีโอมันดูแข็ง ๆ กระด้างแปลก ๆ เพราะมันไปเร่งความคมชัด จนเกิดเป็นเอฟเฟกต์เฮโล (halo effect) ในภาพ ขึ้นเป็นขอบขาว ๆ และคอนเทนต์สมัยนี้ก็มีความคมชัดมากพออยู่แล้ว จนไม่มีความจำเป็นต้องไปยัดเยียดแบบฝืน ๆ เข้าไปอีก

อัตรารีเฟรช 120Hz แสดงผลได้ลื่นไหลเนียนตาสุด ๆ แต่มีจุดสังเกตเล็กน้อยตรงที่ Xperia 5 II มีให้เลือกแค่ 60 Hz กับ 120Hz เท่านั้น ไม่มีโหมด adaptive ที่จะปรับเปลี่ยนอัตรารีเฟรชไปตามสถานการณ์โดยอัตโนมัติ ดังนั้น หากเปิดใช้งาน 120Hz คงต้องทำใจล่วงหน้าเลยว่า มันจะสูบแบตเพิ่มขึ้น


อัตรารีเฟรช 120Hz เลือกได้แค่ เปิด หรือ ปิด

สำหรับมือถือขนาดปกติทั่ว ๆ ไป ผมสามารถแยกความแตกต่างระหว่างความละเอียดจอภาพ Full HD กับ 2K หรือสูงกว่าได้อย่างง่ายดาย แต่กับ Xperia 5 II ที่มีพื้นที่การแสดงผลค่อนข้างเล็ก แม้จะมีความละเอียดระดับ Full HD แต่ความหนาแน่นของจุดพิกเซลก็สูงเกินพอ ระดับ 449 PPI สามารถใช้งานได้โดยไม่ติดขัดอะไรเลย

จากที่ได้ลองใช้งาน Xperia 5 II มาสักระยะหนึ่ง ผมพบกับสิ่งชวนหงุดหงิดในเรื่องจอภาพของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่ 3 ประการด้วยกัน อันดับแรกคือ ระดับความสว่าง ทั้งต่ำสุดและสูงสุด ซึ่งทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นักหากเทียบกับมือถือที่ใช้หน้าจอ OLED เหมือน ๆ กันจากที่ส่วนตัวเคยสัมผัสมา ซึ่งสร้างปัญหาให้กับผมเป็นอย่างมากเมื่อใช้งานกลางแจ้ง ต่อให้ไม่ใช่สภาพที่มีแดดจัดก็แทบมองไม่เห็นอะไรเลย ต้องคอยเอามือมาป้องบังแดดเอาไว้

ผมไม่มีอุปกรณ์สำหรับวัดระดับความสว่าง จึงแอบไปส่องผลทดสอบจากแลปของเว็บต่างประเทศมา พบว่า Xperia 5 II ทำความสว่างสูงสุดได้ประมาณ 530 nit เท่านั้น เป็นค่าความสว่างที่ต่ำมากหากเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นที่ทำได้สูงสุดทะลุเกิน 800 nit ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือว่า เรือธงรุ่นต่อไปของ Sony จะได้รับการปรับปรุงในส่วนนี้ ส่วน Xperia 5 II คงต้องรับสภาพกันไป เพราะมันเป็นปัญหาระดับฮาร์ดแวร์ แก้ไขอะไรไม่ได้

อันดับถัดมาคือ การไล่ระดับความสว่างที่ไม่นุ่มนวล แทนที่จะไล่เป็นสเต็ป 1, 2, 3, 4, 5, … อย่างที่ควรจะเป็น แต่ Xperia 5 II กลับกระโดดเป็น 1, 5, 13, 15, 19, … เสียอย่างนั้น ส่วนอันดับสุดท้ายคือ อาการภาพซ้อนแบบแปลก ๆ เมื่อปรับระดับความสว่างต่ำกว่า 10% ลงไป พบได้ทั้ง 60Hz และ 120Hz

กล้องและการถ่ายภาพ

Xperia 5 II มีกล้องหลังจำนวน 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก ความยาวโฟกัส 24 มม. รูรับแสง ƒ/1.7 ซึ่งกล้องนี้จะมีคุณภาพสูงที่สุด + กล้องอัลตร้าไวด์ ให้ภาพมุมกว้าง 124 องศา กว้างเป็นอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทโฟน รูรับแสง ƒ/2.2 + กล้องเทเลโฟโต้ ความยาวโฟกัส 70 มม. รูรับแสง ƒ/2.4 ความละเอียด 12 MP ปิดทับด้วยเลนส์ ZEISS T* คุณภาพสูงที่ได้รับการเคลือบผิวมาเป็นพิเศษ ขยับขึ้นมาด้านบนเล็กน้อยจะมีไฟแฟลช LED และเซนเซอร์ RGB-IR สำหรับช่วยประมวลผลไวต์บาลานซ์ให้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น

แอปกล้องของ Xperia 5 II มีด้วยกัน 3 แอป Camera เป็นแอปกล้องพื้นฐานที่ปรับตั้งค่าอะไรแทบไม่ได้เลย เน้นถ่ายง่าย ๆ ไว ๆ ส่วนแอป Photo Pro กับ Cinema Pro เป็นแอปใหม่ Sony ที่พัฒนาโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องในตระกูล Alpha ของตัวเอง ดังนั้น ทั้งหน้าตา UI การปรับตั้งค่า รวมทั้งเสียงตอนโฟกัสและกดชัตเตอร์ จะเหมือนกับกล้อง Alpha เป๊ะ ๆ เลย ใครชอบถ่ายภาพ บอกเลย ฟินมาก

ในการทดสอบถ่ายภาพ ผมจะใช้แอป Photo Pro ในโหมดออโต้เป็นหลัก ปน ๆ กับเซมิออโต้บางภาพ แต่จะไม่ใช้โหมดแมนนวล เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้งานโหมดนี้ได้เป็น และในบางสถานการณ์อาจไม่ได้มีเวลามากพอให้เรามานั่งปรับตั้งค่าอย่างประณีต

.
ภาพถ่ายจาก Xperia 5 II มีสีสันแนวธรรมชาติ โทนกลาง ๆ ตัวซอฟต์แวร์ไม่ได้บูสต์ความสดมาให้สักเท่าไหร่ ข้อดีคือ เอาภาพไปแต่งต่อได้ง่าย ไดนามิกเรนจ์กว้างพอที่จะตอบรับกับสถานการณ์ทั่วไปได้สบาย ๆ การวัดแสงตัวแบบไวต์บาลานซ์ทำงานได้ดีในสถานการณ์ส่วนใหญ่ น่าจะเป็นอานิสงส์จากเซนเซอร์ RGB-IR ส่วนระบบโฟกัสทั้งแบบปกติและแบบ Eye AF ติดตามดวงตาก็รวดเร็วและแม่นยำไว้ใจได้

29/11/2020 02:45 AM