REVIEW | รีวิว Galaxy Tab A7 (2020) แท็บเล็ตจอ 10 นิ้ว พร้อมลำโพง 4 ตัว ครบครันด้านบันเทิง ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท - Android

Get it on Google Play

REVIEW | รีวิว Galaxy Tab A7 (2020) แท็บเล็ตจอ 10 นิ้ว พร้อมลำโพง 4 ตัว ครบครันด้านบันเทิง ในราคาไม่ถึงหมื่นบาท - Android

นอกจาก Samsung จะเปิดตัวแท็บเล็ตระดับพรีเมี่ยมซีรีส์ Galaxy Tab S7 ซึ่งมากับสเปคในระดับไฮเอนด์ทั้งหน้าจอขนาด 11 – 12.4 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz, ชิป Snapdragon 865+, ระบบเสียง Harman Kardon, ปากกา S Pen และอื่นๆ อีกเพียบ…แต่สำหรับใครที่ต้องการแค่แท็บเล็ตสำหรับดูหนัง, เข้าเว็บ, เล่นโซเชียล, เล่นเกมทั่วไปได้ลื่นๆ เราก็ขอแนะนำแท็บเล็ตรุ่นเล็กอย่าง Galaxy Tab […]

นอกจาก Samsung จะเปิดตัวแท็บเล็ตระดับพรีเมี่ยมซีรีส์ Galaxy Tab S7 ซึ่งมากับสเปคในระดับไฮเอนด์ทั้งหน้าจอขนาด 11 – 12.4 นิ้ว รีเฟรชเรท 120Hz, ชิป Snapdragon 865+, ระบบเสียง Harman Kardon, ปากกา S Pen และอื่นๆ อีกเพียบ…แต่สำหรับใครที่ต้องการแค่แท็บเล็ตสำหรับดูหนัง, เข้าเว็บ, เล่นโซเชียล, เล่นเกมทั่วไปได้ลื่นๆ เราก็ขอแนะนำแท็บเล็ตรุ่นเล็กอย่าง Galaxy Tab A7 ที่มีราคาเปิดตัวมาเบาๆ แค่ไม่ถึงหมื่นบาท แต่ให้มาครบๆ ทั้งจอ 1080p, ลำโพง 4 ตัว และสเปคที่ใช้งานได้สบายๆ ส่วนการใช้งานจริงจะเป็นยังไงบ้าง มาดูกันครับ

Galaxy Tab A7 มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น คือรุ่นที่ใช้เฉพาะ WiFi (8,490 บาท) และรุ่นที่รองรับ 4G/LTE (9,990 บาท) สเปคโดยรวมก็ไม่ได้มีอะไรต่างกันนอกจากการเชื่อมต่อเท่านั้น ซึ่งตัวที่เราเอามารีวิวให้ดูก็คือรุ่นที่ใช้ 4G LTE ตัวเครื่องสีทองครับ

สเปค GALAXY TAB A7 (2020)

  • หน้าจอ TFT (LTPS) ความละเอียด WUXGA+ (2000 x 1200) ขนาด 10.4 นิ้ว อัตราส่วน 15:9 รีเฟรชเรท 60Hz
  • CPU : Snapdragon 662
  • GPU : Adreno 610
  • RAM : 3GB
  • ความจุ : 64GB รองรับ microSD Card สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง : 8MP, AF
  • กล้องหน้า : 5MP
  • ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว, Dolby Atmos, รูหูฟัง 3.5 มม.
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, BT 5.0, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, gyro, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 7040 mAh รองรับชาร์จไว 15W
  • ระบบ Android 10 ครอบด้วย One UI 2.1
  • ขนาด / น้ำหนัก : 247.6 x 157.4 x 7 มม. / 476 กรัม (รุ่น WiFi), 477 กรัม (รุ่น 4G)

 

ดีไซน์ตัวเครื่อง

ถึงแม้ว่า Galaxy Tab A7 จะมีราคาอยู่ในระดับที่ไม่ถึงหมื่นบาท แต่วัสดุและการประกอบตัวเครื่องก็ไม่ใช่ก๊อกแก๊กเลย เพราะตัวเครื่องทำจากโลหะเกือบทั้งหมด ยกเว้นขอบเครื่องด้านบนซึ่งเป็นเสาสัญญาณจะใช้วัสดุประเภทโพลีคาร์บอเนต และมีพื้นผิวหลังเครื่องแบบด้าน (Matte) ทำให้ไม่เป็นรอยนิ้วมือเวลาใช้งาน

ที่มุมขวาบน (มองจากแนวนอน) มีกล้องหลัง 1 ตัว นูนขึ้นมานิดหน่อย ซึ่งหากว่าใส่เคสแล้วก็จะอยู่ในระดับเดียวกัน ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนขูดเป็นรอยเวลาวางไว้บนโต๊ะ หรือที่อื่นๆ

Tab A7 2020ลำโพงฝั่งละ 2 ตัว

ขอบเครื่องด้านบนมีปุ่ม Power และ ปุ่มปรับเสียง ขอบซ้ายมีลำโพง 2 ตัว ขอบขวามีลำโพงอีก 2 ตัว + พอร์ต USB-C และรูหูฟัง 3.5 มม. อยู่ที่มุม

รูหูฟัง 3.5 มม. ยังมีมาให้อยู่นะจ๊ะ

หน้าจอ 10.4 นิ้ว ความละเอียด FHD

หน้าจอยังไม่ได้ใช้ดีไซน์ขอบบางมากนัก ซึ่งเอาจริงๆ คิดว่ามันใช้งานง่ายดี เพราะเวลาถือแล้วไม่โดนจอลั่น นอกจากนี้ Galaxy Tab A7 ก็เปลี่ยนรูปแบบมาเน้นการใช้งานแนวนอนเหมือนกับรุ่นพี่แล้วเพราะย้ายเอากล้องเซลฟี่มาอยู่ที่ขอบจอแนวนอน (และคาดว่ารุ่นต่อๆ ไปก็จะใช้รูปแบบแนวนอนด้วย) เพื่อเน้นใช้งานประเภท Video Call หรือการประชุมทางไกลได้ง่ายกว่าแท็บเล็ตที่มีกล้องเซลฟี่แนวตั้งนั่นเองครับ

กล้องเซลฟี่แนวนอน

สำหรับหน้าจอของ Galaxy Tab A7 มีขนาดอยู่ที่ 10.4 นิ้ว ความละเอียด 1200 x 2000 (FHD+) และใช้พาแนลชนิด IPS LCD อัตราส่วน 5:3 รีเฟรชเรท 60Hz ซึ่งจากการใช้งานจริงทั้งเล่นเกม และดูหนังต่างๆ ก็ไม่ได้แย่เลย ภาพคมชัดสมระดับ FHD และสีสันก็สวยงาม ไม่ซีดเซียว แต่ปัญหานิดนึงของจอ LCD คือมันไม่ค่อยสู้แดดแรงๆ ซักเท่าไหร่ (แต่คงไม่มีใครเอาไปใช้งานกลางแดดนานๆ อยู่แล้วมั้ง…)

ดูหนัง Netflix แบบ HD ได้

ประสิทธิภาพเครื่อง และการเล่นเกม

Galaxy Tab A7 ใช้ชิป Snapdragon 662 และ RAM 3GB ที่เรียกว่าเหลือๆ สำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างเช่นท่องเว็บ, เล่นโซเชียล, ดูวิดีโอความละเอียด 1080p ทั้งจาก YouTube, Netflix, HBO Go หรืออื่นๆ ได้แบบไม่มีติดขัด ส่วนการเล่นเกมกราฟิกจัดๆ ก็ไม่มีปัญหาถ้าตั้งค่าเอาไว้ที่ระดับกลาง หรือระดับต่ำๆ เพื่อเพิ่ม fps ซึ่งทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอป 3DMark แล้ว ได้ผลคะแนนออกมาตามนี้ครับ

คะแนน (Sling Shot) อยู่กึ่งๆ ระหว่าง Vivo NEX A และ HTC Nexus 9

ทดสอบเล่นเกมยอดฮิตอย่าง PUBG, ROV และ LOL Wild Rift ใช้การตั้งค่าแบบ Default ที่ตัวเกม ก็เล่นได้ลื่นๆ ไม่มีกระตุกให้หงุดหงิด แต่แนะนำว่าใช้การตั้งค่าแบบ Default ก็พอนะครับ ถ้าไปปรับมากกว่านั้น เล่นตอนแรกอาจจะดูลื่น แต่เกิดไปเจอผู้เล่นคนอื่นเยอะๆ แล้วภาพกระตุกขึ้นมาตอนนั้นจะเสียจังหวะแล้วร่วงลงไปกองแบบไม่รู้ตัวซะเปล่าๆ

ROV ตั้งค่ากราฟิกแบบ Default และปรับ High Framerate เล่นได้ลื่นๆ อยู่ที่ 58 – 60 fps

PUBG ตั้งค่า Default เล่นได้ลื่นปรื๊ด

LOL Wild Rift ตั้งค่า Default เล่นได้ลื่นอยู่ แต่ถ้าปรับโหมด 60fps เวลาตะลุมบอนกันแล้วจะร่วงลงมาถึง 30 กลางๆ

ลำโพง 4 ตัว และระบบเสียง DOLBY ATMOS ให้เสียงสุดกระหึ่ม

จุดเด่นของแท็บเล็ตรุ่นนี้อีกหนึ่งอย่างก็คือลำโพงที่ให้มาถึง 4 ตัว และยังได้ระบบเสียง Dolby Atmos มาด้วย ซึ่งคุณภาพเสียงถึงจะสู้รุ่นพี่ซีรีส์ Tab S7 ที่ใช้ระบบเสียง AKG ไม่ได้ แต่เอามาใช้ดูหนัง Netflix ก็มีการแยกมิติซ้าย-ขวา ได้เป็นอย่างดี แถมเปิดระบบ Dolby Atmos แล้วยังให้เสียงที่กระหึ่มบึ้มบั้มใช้ได้เลย แต่ถ้าหากจะใช้ฟังเพลงแนะนำว่าเปิดแค่ราวๆ 70 – 80% ก็เพียงพอแล้ว เพราะหากเปิดจนสุด เสียงจะตีกันจนแยกซ้าย-ขวาไม่ออกจนฟังแล้วรู้สึกไม่เพราะเท่าไหร่

ส่วนตำแหน่งของลำโพงด้านล่างจะอยู่พอดีกับบริเวณที่ต้องเอามือมาจับเวลาเล่นเกมทำให้เสียงจะอู้ๆ ไปหน่อย เพราะฉะนั้นต้องคอยปรับตำแหน่งในการถือให้ดี แต่ถ้าไม่ได้ใส่ใจมากก็ไม่เป็นไร เพราะลำโพงด้านบนยังมี

ตำแหน่งลำโพงด้านล่างที่จะโดนมือบัง เวลาถือเล่นเกม

ระบบ Android 10 และ ONE UI 2.5

Galaxy Tab A7 มากับระบบ Android 10 ที่ครอบด้วย One UI 2.5 ซึ่งก็จะเหมือนกับหน้าตาของมือถือ Galaxy ทั่วไป เพียงแต่เปลี่ยนมาอยู่บนหน้าจอที่ใหญ่กว่าเท่านั้นเอง

กล้องหน้า และกล้องหลัง

แท็บเล็ตรุ่นนี้ให้กล้องหลังมา 1 ตัว ความละเอียด 8MP พร้อมระบบ Autofocus ใช้ถ่ายภาพได้แบบแก้ขัด ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติสำหรับกล้องแท็บเล็ตอยู่แล้ว (ถ้าไม่นับแท็บเล็ตระดับท็อปๆ) โดยการถ่ายภาพในสภาวะแสงปกติ ก็จะออกมาค่อนข้างโอเค แต่พอถ่ายในที่แสงน้อย ภาพจะขาดรายละเอียดและความคม พร้อมกับเหล่า Noise ที่โผล่กันออกมาเต็มพรึ่ดไปหมด แถมยังโฟกัสช้า และโฟกัสพลาดในบางครั้ง

 

มีโหมด Live Focus หรือหน้าชัดหลังเบลอมาให้ด้วย แต่ก็ตัดขอบวัตถุได้ไม่เนียนเท่าไหร่นัก

31/10/2020 04:50 AM