REVIEW | รีวิว Galaxy Buds Pro หูฟังภาคต่อน้องถั่ว ระบบตัดเสียงดี ฟีเจอร์ครบ ในราคา 6,990 บาท - Android

Get it on Google Play

REVIEW | รีวิว Galaxy Buds Pro หูฟังภาคต่อน้องถั่ว ระบบตัดเสียงดี ฟีเจอร์ครบ ในราคา 6,990 บาท - Android

Samsung เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่รักเสียงเพลงมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็น Galaxy Buds+ ที่มาพร้อมกับ Dual-Driver Set-up ให้เสียงที่ชัดเจนครบทุกย่าน ไปจนถึง Galaxy Buds Live ที่กระแสตอบรับปน ๆ กันทั้งชอบและไม่ชอบ ถัดมาคราวนี้ Samsung ก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาด เอาข้อดีจากทั้ง 2 รุ่นมารวมกันเป็นหูฟังเรือธงของค่ายตัวใหม่เอี่ยมอย่าง Galaxy Buds Pro ที่เราจะมารีวิววันนี้ครับ ขึ้นชื่อว่า Pro แบบนี้ก็รู้ได้เลยว่าหูฟังรุ่นนี้ต้องเป็นหูฟัง TWS รุ่นเรือธงที่มาพร้อมฟีเจอร์แบบ […]

Samsung เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่รักเสียงเพลงมาโดยตลอดไม่ว่าจะเป็น Galaxy Buds+ ที่มาพร้อมกับ Dual-Driver Set-up ให้เสียงที่ชัดเจนครบทุกย่าน ไปจนถึง Galaxy Buds Live ที่กระแสตอบรับปน ๆ กันทั้งชอบและไม่ชอบ ถัดมาคราวนี้ Samsung ก็เรียนรู้จากข้อผิดพลาด เอาข้อดีจากทั้ง 2 รุ่นมารวมกันเป็นหูฟังเรือธงของค่ายตัวใหม่เอี่ยมอย่าง Galaxy Buds Pro ที่เราจะมารีวิววันนี้ครับ

ขึ้นชื่อว่า Pro แบบนี้ก็รู้ได้เลยว่าหูฟังรุ่นนี้ต้องเป็นหูฟัง TWS รุ่นเรือธงที่มาพร้อมฟีเจอร์แบบ Pro แน่นอน ซึ่งส่วนตัวผมก็ต้องยอมรับว่า แอบมีเสียงแตกออกเป็นสองทางเกี่ยวกับเจ้า Galaxy Buds Pro เล็กน้อย เพราะ Galaxy Buds Pro เป็นหูฟังที่ฟีเจอร์เยอะ แต่กลับมีบางฟีเจอร์ที่ใช้จริงแล้วไม่ได้ว้าวอย่างที่คิด แต่นอกเหนือจากเรื่องนี้ Galaxy Buds Pro เป็นหูฟัง TWS ทื่สมบูรณ์แบบในการใช้งานทั่วไปมาก ๆ

ดีไซน์งานประกอบ

Galaxy Buds Pro มาพร้อมดีไซน์คล้ายคลึงกับ Galaxy Buds+ รุ่นก่อนอยู่พอสมควร เป็นหูฟัง TWS แบบ In-Ear พร้อมบอดี้แบบพลาสติกแข็งทั้งตัว ซึ่งคราวนี้เหมือนได้เอาดีไซน์แบบแวววาวสะท้อนแสงของ Galaxy Buds Live รุ่นก่อนมาผสมกับ Galaxy Buds+ ทำให้เป็นหูฟัง Galaxy Buds Pro ตัวนี้นั่นเอง แต่มีข้อสังเกตอยู่ที่ดีไซน์แบบนี้เป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายมาก ๆ เพราะงั้นต้องระวังด้วยครับ

ตัวหูฟังมีรูปทรงที่กลมมนไม่มีรอยต่อ ใส่สบาย (แต่ถ้าใส่นานก็แอบมีปวดหู) และต้องบอกไว้ก่อนว่า Galaxy Buds Pro มีท่อส่งเสียงที่สั้นพอสมควร ทำให้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเลือกใช้จุกหูฟังให้ถูกขนาดเพื่อการ Seal เสียง และความสบายในการสวมใส่ที่ดีที่สุด ซึ่งในกล่อง Galaxy Buds Pro ก็มีมาให้เลือกทั้งหมด 3 ไซส์ตามขนาดหูเลยครับ แต่มีข้อสังเกตอยู่ที่ว่าตัวท่อหูฟังถูกออกแบบมาเพื่อใช้จุกของ Samsung เท่านั้น ผู้ใช้งานไม่สามารถเลือกใช้จุก 3rd party มาใส่ได้ซึ่งใครที่อยากอัปเกรดจุกหูฟังก็อาจจะทำได้ลำบากหน่อยครับ

ตัวเคสเป็นรูปแบบเดียวกับ Galaxy Buds Live เลย ทีรูปทรงสี่เหลี่ยมมน ๆ พร้อมวัสดุพลาสติกพื้นผิวสัมผัสแบบด้าน ๆ กลไกการเปิดแบบแม่เหล็ก ใช้โมชั่นการเปิดแบบเดียวกับกล่องแหวน ตัวกล่องมีขนาดที่กะทัดรัด ใส่ในกระเป๋าได้สะดวกสบาย ๆ มีน้ำหนักประมาณหนึ่ง ด้านหลังใช้ระบบชาร์จแบบ USB-C ตัวแม่เหล็กมีความแรงพอตัว ปิดได้แน่นไม่หลุดง่าย ๆ 

เสียง

อย่างแรกเลยที่เปลี่ยนไปคือชนิดของ Driver ซึ่งเมื่อเทียบกับ Galaxy Buds+ ก็เป็น Set-up แบบเดียวกันนั่นคือ 2-Ways Dynamic Driver เป็น Tweeter เพื่อขับเสียงสูงเป็นหลัก และ Woofer อีกตัวเพื่อขับย่าน Bass แต่คราวนี้เปลี่ยนรูปทรงจากรูปทรงสี่เหลี่ยม เป็นวงกลมแทน

อันบน Galaxy Buds+ 

อันล่าง Galaxy Buds Pro

เนื้อเสียงโดยรวมออกไปทาง V-Shape ให้ความรู้สึกที่เน้นย่านต่ำ พ่วงกับเสียงสูงที่ใสให้รายละเอียดตาม Set-up ของหูฟัง มีเสียงกลาง ที่ค่อนข้างพอดี ไม่ออกมาด้านหน้าเหมือนหูฟัง Pop ทั่วไป ทำให้เสียงให้ความรู้สึกที่ธรรมชาติไม่จัดจนเกินไป โทนเสียงโดยรวมออกไปทางอุ่นฟังสบาย นิ่ม ๆ พร้อมเสียงสูงที่ให้รายละเอียดพร้อม ๆ กัน

Bass 

ย่านเบสโดยรวม ๆ ค่อนข้างคงที่ตลอดย่าน ไม่ว่าจะ Sub-bass ไปจนถึงเสียงกลอง ออกมามีอิมแพคดีหมดทั้งย่าน Mid-Bass มีความบวมเล็กน้อยแบบน้อยมาก ๆ อาจจะแล้วแต่รสนิยม ถ้าใครที่ชอบเสียงเบสอาจจะมองว่า Galaxy Buds Pro เบสน้อย แต่เอาจริง ๆ ถือว่าเป็นเบสที่จัด แน่น และอิ่มพอสมควรเลย เป็นเบสที่เก็บตัวช้า มีมวลฟังสนุก ยกตัวอย่างเพลง Around the World ของ Daft Punk (…😭) ที่มีเบสหลายย่านอยู่ในเพลงเดียว Galaxy Buds Pro ก็มีการแยกเสียงเบสแต่ละย่านได้ชัดแจ๋วไม่รวมกันเลย

Mid 

เสียงกลางเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดแบบจัดเต็ม เสียงชัดอิ่มการจัดวางไม่ได้ออกมาหน้า ๆ เหมือนกับหูฟัง Pop ในตลาด มีโทนที่หวานอุ่นให้ความรู้สึกเหมือนหูฟัง Harman อยู่พอสมควร เสียง Upper-mid จำพวกเสียงร้องผู้หญิงหรือเสียง High-pitch vocal แยกออกจากย่านเบสได้อย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเพลง Emotions ของ Cashmere Cat ที่ประกอบไปด้วยเสียง Sub bass เบา ๆ กับเสียงร้อง Electronic ที่อยู่ย่านสูง ตัว Galaxy Buds Pro ขับเพลงนี้ออกมาได้อารมณ์มาก ๆ 

High

เสียงสูงถือว่าเป็นอีกหนึ่งเสียงที่ทำได้ดีทีเดียว เสียงสูงของ Galaxy Buds Pro มีความชัดใสให้รายละเอียดที่ดี ไม่แหบแห้งหรือเสียดหูเลย เสียงฉาบเล็ก ๆ หรือเครื่องดนตรีเข้าจังหวะเล็ก ๆ มีอิมเมจที่ดีใสกิ๊ง ช่วยให้เสียงเพลงรู้สึกใสขึ้นมาก ๆ พ่วงมากับเสียงเบสที่บอกให้ข้างต้น ช่วยให้เนื้อเสียงทั้งหมดมี Dynamic ที่ดีมาก

ฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ

จุดเปลี่ยนที่ใหญ่สุดของ Galaxy Buds Pro คราวนี้ก็จะเป็นตัว ANC แบบเต็มรูปแบบควบมากับรูปแบบ in-ear ทำให้เรื่องกันเสียงรบกวนสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ทำให้ Buds Pro ตัวนี้เป็นหูฟังไร้สายที่ฟีเจอร์แน่นที่สุดในซีรีส์ของ Samsung ตอนนี้เลย

Ambient Sound 

ฟีเจอร์ที่เคยเห็นกันมาก่อนแล้วใน Galaxy Buds+ คราวนี้ก็หยิบมาใส่ใน Galaxy Buds Pro ด้วย ช่วยให้ผู้ใช้งานได้ยินเสียงรอบข้างได้มากขึ้น ให้ความรู้สึกเหมือนใส่หูฟังระบบเปิดเลย มีให้เลือกรวม ๆ Low, Medium, High, Extra High ถ้าเปิด Extra High จะให้ความรู้สึกเหมือนใช้เครื่องช่วยฟังยังไงอย่างงั้น เสียงรอบตัวดังขึ้นมาก ๆ ทั้งเสียงพูดและเสียงรอบตัว บางครั้งอาจจะดังไปด้วยซ้ำ 

ระดับที่รู้สึกเป็นธรรมชาติที่สุดคือระดับ Low ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเหมือนใส่หูฟังระบบเปิดเลยครับ แต่ตัว Ambient Sound ก็ยังคงเก็บเสียงที่ไม่จำเป็นอยู่ เช่นเสียงแอร์ และเสียง White Noise ต่าง ๆ ที่รู้สึกดังกว่าปกติ ส่วนระดับที่สูงขึ้นจะมาประโยชน์มาก ๆ เมื่อใช้งานตอนที่ฟังเพลงเสียงดัง 

Active Noise Cancelling 

ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่งใส่มาใน Buds Pro อย่าง ANC แบบเต็มรูปแบบที่ทำงานต่างกับ Galaxy Buds Live เป็นอย่างมากตรงที่คราวนี้เป็น in-ear ช่วยให้กันเสียงได้แบบดีขึ้นมาก ๆ ซึ่งสามารถเลือกได้ 2 ระดับ Low และ High ซึ่งจากที่ลองแล้วก็รู้สึกว่าเงียบมาก ๆ ทั้งเสียง Low-band จำพวกแอร์ไปจนถึงพวกเสียงอื้ออึงต่าง ๆ แต่สำหรับคนที่เคยใช้งาน ANC มาก่อนก็น่าจะเข้าใจดีกว่า ANC ก็จะยังคงมีข้อจำกัดอยู่ที่เสียงปกติอยู่ เช่นเสียงพูด หรือเสียงเพลงจากแหล่งอื่นก็ยังสามารถลอดเข้ามาได้อยู่พอสมควร 

ฟีเจอร์ EQ ปรับแต่งเสียง

อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจมาก ๆ อย่างหนึ่งก็จะเป็นเรื่องของ EQ ที่ใส่เข้ามาในแอป Wearable ซึ่งปกติถ้าใครที่เคยปรับ EQ แบบ Preset ตามแอปต่าง ๆ ก็จะรู้สึกว่ามันออกเยอะไปหน่อยเสียงที่ได้เปลี่ยนมากไป เสียงคุณภาพน้อยลง แต่ EQ ของ Wearable ทำมาได้ดีสุด ๆ คาแรคเตอร์เสียงที่ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็ไม่ได้ส่งผลต่อคุณภาพเสียงเลย สำหรับใครที่ชอบแนวเสียงแบบไหนเป็นพิเศษก็สามารถมาปรับเลือกได้ตามใจชอบเลย อย่างใครที่ชอบ Bass เยอะ ๆ ก็ไม่ได้ต้องห่วงเลย มาปรับเป็น Bass Boost ได้เบสเพิ่มสะใจเลยครับ 

360 Audio

ถือว่าเป็นฟีเจอร์พิเศษที่ติดมาให้อย่าง 360 Audio ที่จะเปิดเอฟเฟคในการ Pan เสียงตามแหล่งที่มาของเสียง เช่นถ้าผู้ใช้งานหมุนศีรษะซ้าย หรือ ขวา เสียงก็จะเปลื่ยน Pan ไปตามทิศทางที่ฟันเพื่อความสมจริงนั่นเอง ซึ่งตอนนี้ก็สามารถใช้งานได้ในแอปดูวิดิโออย่าง Netflix และ YouTube ได้ไม่มีปัญหาเลย แต่ส่วนตัวมองว่ามันยังใช้งานในชีวิตจริงค่อนข้างยากอยู่ดี

การเชื่อมต่อ

ถ้าใช้งานกับมือถือ Samsung Galaxy เวลาเปิดฝาหูฟังขึ้นมา ตัวมือถือก็จะเปิดหน้าเชื่อมต่อมาให้ทันที สามารถเชื่อมต่อได้เลย หลังจากนั้นเมื่อเปิดฝาใช้งาน ตัวหูฟังจะเชื่อมให้โดยอัตโนมัติเมื่อใช้งาน มาพร้อมแอป Wearable ที่จำเป็นต่อการใช้งานมาก ๆ ในการปรับแต่งฟีเจอร์ต่าง ๆ 

Buds Pro สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone ได้ แต่ไม่มีแอปพลิเคชั่น Wearable ทำให้ไม่สามารถปรับฟีเจอร์เสียงจำพวก ANC หรือ EQ ได้เลย เพราะงั้นจนกว่า iPhone จะอัปเดตแอป Wearable เพิ่มเข้ามา ฟีเจอร์การปรับแต่ง Galaxy Buds Pro จะยังคงเป็นฟีเจอร์ Exclusive สำหรับฝั่ง Android เท่านั้น 

แบตเตอรี่

ในเรื่องของแบตเตอรี่ก็ต้องบอกตามตรงว่าอาจจะยังสู้หลาย ๆ แบรนด์ไม่ได้ เพราะหูฟังสามารถฟังต่อเนื่องได้เพียง 5 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC และสามารถชาร์จต่อจากกล่องชาร์จได้อีก 13 ชั่วโมงเจากเคส รวมเป็น 18 ชั่วโมง

เมื่อไม่เปิด ANC สามารถฟังได้ 8 ชั่วโมงชาร์จต่อได้อีก 20 รวมเป็น 28 ชั่วโมง ซึ่งบนสเปคหน้ากระดาษก็ดูน้อยกว่าหูฟังทั่วไปนิดหน่อย แต่จากการใช้งานจริงก็ต้องบอกว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่เลย สามารถใช้งานได้หลาย ๆ วันโดยที่ไม่ได้จำเป็นต้องเสียบชาร์จ แถมยังมีฟีเจอร์ชาร์จไร้สาย สำหรับผู้ใช้งานที่มีแท่นชาร์จไร้สายอยู่แล้วด้วยครับ 

การควบคุม

Buds Pro มาพร้อมกับระบบสัมผัสที่ Body หูฟัง สามารถแตะ 1 ครั้ง เพื่อเล่นหรือหยุด 2 ครั้งเพื่อเปลี่ยนเพลง 3 ครั้งเพื่อกลับไปเพลงก่อนหน้านี้ หรือกดค้างเพื่อเปลี่ยนโปรไฟล์ ANC โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปเปลี่ยนโปรไฟล์ในการใช้คำสั่งเหล่านี้ได้ที่แอป Wearable แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าแถบสัมผัสกินพื้นที่หูฟังไปเกือบหมด ทำให้เวลาไปปรับหูฟัง หรือไปโดนนิดหน่อยก็อาจพลาดไปกดหยุดเพลง หรือเปลี่ยนเพลงได้นั่นเอง

สรุปรวม

ถือว่า Samsung ก็ได้เซอร์ไพรส์ทุกคนอีกครั้งหนึ่งกับหูฟัง Galaxy Buds Pro ตัวใหม่นี้ ที่มาพร้อมฟีเจอร์เรื่องเสียงที่ครบครันสำหรับผู้ใช้งานทุกรูปแบบ ส่วนตัวคิดว่าเป็นหูฟัง TWS ที่เสียงดี และเสปคครบที่สุดในฝั่ง Android ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ ถือว่าสามารถเอามาชนกับ AirPods Pro ได้ระดับนึงเลย สำหรับใครที่กำลังหาหูฟังไร้สายเสียงดีมีคุณภาพ พร้อมฟีเจอร์แน่น ๆ ก็สามารถเอา Galaxy Buds Pro ไว้เป็นทางเลือกได้นะครับ

03/03/2021 07:23 AM