Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 460, 662, 720G ชูจุดเด่นรองรับ WiFi 6, BT 5.1 และ dual-frequency GNSS - Android

Get it on Google Play

Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 460, 662, 720G ชูจุดเด่นรองรับ WiFi 6, BT 5.1 และ dual-frequency GNSS - Android

หลังจากที่ Qualcomm ได้เปิดตัวชิปเรือธง Snapdragon 865 และชิประดับกลาง Snapdragon 765 ไปเมื่อช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา วันนี้ Qualcomm ก็ได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวอีกรอบ ด้วยการเปิดตัวชิปใหม่อีก 3 รุ่น ตั้งแต่รุ่นสำหรับใช้กับมือถือราคาประหยัด ไปจนถึงมือถือระดับเกมมิ่ง ซึ่งเบื้องต้นชิปทั้ง 3 รุ่น รองรับ WiFi 6, Bluetooth 5.1 และ dual-frequency GNSS […]

หลังจากที่ Qualcomm ได้เปิดตัวชิปเรือธง Snapdragon 865 และชิประดับกลางSnapdragon 765 ไปเมื่อช่วงปลายปี 2019 ที่ผ่านมา วันนี้ Qualcomm ก็ได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนตัวอีกรอบ ด้วยการเปิดตัวชิปใหม่อีก 3 รุ่น ตั้งแต่รุ่นสำหรับใช้กับมือถือราคาประหยัด ไปจนถึงมือถือระดับเกมมิ่ง ซึ่งเบื้องต้นชิปทั้ง 3 รุ่น รองรับ WiFi 6, Bluetooth 5.1 และ dual-frequency GNSS อีกด้วย

Snapdragon 720G

เริ่มกันที่ชิปรุ่นท็อปอย่าง Snapdragon 720 ซึ่งถือเป็นภาคต่อของ Snapdragon 710 และ 712 โดยการที่มันมีตัวอักษร “G” มาด้วย ก็แปลว่าชิปตัวดังกล่าวจะเป็นชิปที่เน้นในเรื่องของประสิทธิภาพในการเล่นเกม แถมยังมีฟีเจอร์อย่าง Elite Gaming แบบเดียวกับที่เคยใช้ในชิป Snapdragon 855 ที่จะเข้ามาช่วยให้การเล่นเกมต่างๆ ลื่นไหล และมีเฟรมเรทที่เสถียรกว่าเดิม โดยชิปรุ่นนี้มี CPU ทั้งหมด 8 หัว ประกอบไปด้วย Kyro 465 ความเร็ว 2.3 GHz  2 แกน และ Kyro 465 ความเร็ว 1.8 GHz 6 แกน รองรับการใช้งาน WiFi 6 และ Bluetooth 5.1 นอกจากนี้ Snapdragon 720G ยังรองรับการแสดงผลกับหน้าจอที่มีรีเฟรชเรท 120Hz อีกด้วย

 

Snapdragon 662

ข้ามมาที่ชิประดับกลางอย่าง Snapdragon 662 บ้าง โดยความแรงของชิปตัวนี้จะมีสเปคอยู่ระหว่างกลางของ Snapdragon 660 และ 665 นะครับ มาพร้อมหน่วยประมวลผลภาพถ่ายรุ่นใหม่ Spectra 340T ISP ที่จะเข้ามาช่วยในเรื่องของการถ่ายภาพในที่แสงน้อย อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) อีกด้วย ส่วนประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อก็มีทั้ง รองรับ WiFi 6, Bluetooth 5.1 และเทคโนโลยี aptX TrueWireless Surround

 

Snapdragon 460

ปิดท้ายด้วยรุ่นเล็กสุด Snapdragon 460 ภาคต่อจาก Snapdragon 450 โดยชิปตัวนี้จะมาพร้อมกับ CPU Kryo 240 ความเร็วสูงสุด 2.3 GHz ทั้งหมด 8 แกน ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ Qualcomm เลือกใส่แกน CPU Kryo เข้าไว้ในชิปซีรีส์ Snapdragon 400 ทำให้ประสิทธิภาพแรงขึ้นกว่าเดิมถึง 70% แถมยังได้รับการอัพเกรด GPU ให้แรงขึ้นด้วย Adreno 610 ซึ่งปกติแล้วจะใช้ใน Snapdragon ซีรีส์ 600 เท่านั้น ทำให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลกราฟฟิคพุ่งกว่าเดิมถึง 60% นอกจากนี้มันยังได้รับการอัพเกรดประสิทธิภาพในการประมวลภาพถ่ายให้เร็วกว่าเดิม แถมยังรองรับการใช้งานกล้องได้สูงสุดถึง 3 ตัว และถึงแม้ว่าจะเป็นชิประดับเริ่มต้น แต่ Snapdragon 460 ก็มี WiFi 6 ใส่มาให้เหมือนกันนะครับ

Snapdragon 720Snapdragon 662Snapdragon 460 
CPU
  • 2x Kryo 465 @2.3 GHz
  • 6x Kryo 465 @1.8 GHz
  • 4x performance Kryo 260 @2.0 GHz
  • 4x efficiency Kryo 260 @2.0 GHz
  • 8x Kryo 240 @2.3 GHz
GPU
  • Adreno 618
  • Adreno 610
  • Vulkan 1.1
  • Adreno 610
  • Vulkan 1.1
AI
  • Hexagon 692
  • Hexagon 683
  • Hexagon 683
ISP
  • Spectra 350L ISP รองรับหน้าจอ 120 Hz
  • ถ่ายภาพกล้องเดี่ยวความละเอียดสูงสุด 192MP
  • ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K
  • Spectra 340T ISP
  • ถ่ายภาพกล้องเดี่ยวความละเอียดสูงสุด 48MP รองรับ HEIF
  • รองรับกล้อง 3 ตัว
  • Spectra 340 ISP
  • ถ่ายภาพกล้องเดี่ยวความละเอียดสูงสุด 25MP
  • ถ่ายภาพกล้องคู่ความละเอียดสูงสุด 16MP
  • รองรับกล้อง 3 ตัว
Modem
  • Snapdragon X15 LTE
  • 4×4 MIMO, 3CA, 256-QAM
  • Downlink: 800Mbps (4G LTE)
  • Uplink: 150Mbps (4G LTE)
  • Snapdragon X11
  • 2CA, 2×2 MIMO, 256-QAM
  • 390Mbps DL (Cat. 12),
  • 150Mbps UL (Cat. 13)
  • Snapdragon X11
  • 390Mbps DL (Cat. 12)
  • 150Mbps UL (Cat. 13)
ระบบชาร์จ
  • Qualcomm Quick Charge 4+
  • Qualcomm Quick Charge 3.0
  • Qualcomm Quick Charge 3.0
การเชื่อมต่อ
  • Beidou, Galileo, GLONASS, GPS, QZSS, SBAS, NavIC Dual Frequency support
  • Qualcomm FastConnect 6200; Wi-Fi 6 ready; 2.4/5GHz Bands; WPA3, 8×8 MU-MIMO
  • Bluetooth 5.1, aptX Adaptive
  • Beidou, Galileo, GLONASS, GPS, QZSS, SBAS, NavIC
  • Qualcomm FastConnect 6100; Wi-Fi 6 ready; 2.4/5GHz Bands
  • Bluetooth 5.1, aptX TWS
  • Beidou, Galileo, GLONASS, GPS, QZSS, SBAS, NavIC, Dual-frequency (L1+L5)
  • Qualcomm FastConnect 6100; Wi-Fi 6 ready; 2.4/5GHz Bands
  • Bluetooth 5.1, aptX Adaptive และ aptX TWS
Manufacturing Process
  • 7 นาโนเมตร
  • 11 นาโมเมตร
  • 11 นาโนเมตร

 

สำหรับมือถือที่จะได้ใช้ชิป Snapdragon 720G ในเร็วๆ นี้ ทาง Qualcomm ก็ได้ประกาศออกมาแล้วว่าเร็วสุดคือช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือมือถือแบรนด์ realme นั่นเอง (ยังไม่รู้ว่าจะเป็นรุ่นไหน) และคาดว่ารุ่นอื่นๆ จะทยอยเปิดตัวกันในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เช่นกัน ส่วนชิปอีกสองรุ่นที่เหลือทั้ง Snapdragon 420 และ 662 ก็อาจจะต้องรออีกสักพัก เพราะจากข้อมูลล่าสุดบอกว่ากว่าจะพร้อมใช้งาน คงต้องรอไปถึงช่วงปลายปีเลยทีเดียว