ต้องบอกว่าไปเจอฟีเจอร์นี้มาแบบบังเอิญสุดๆ เพราะเมื่อเช้าก็เข้าเช็ค Gmail ตามปกติเหมือนทุกวัน แต่สิ่งที่เตะตามากๆ คือรอบนี้หน้าตา UI ของตัวแอป Gmail นั้นเปลี่ยนไป แถมมีหัวข้อ Meet เพิ่มแยกขึ้นมาอีกต่างหาก ก็เลยลองกดเข้าไปดู ปรากฎว่า Google ได้รวบเจ้าแอป Google Meet ให้สามารถใช้งานร่วมกับ Gmail ได้เลย ไม่ต้องกระโดดไปกระโดดมาเหมือนเมื่อก่อน เบื้องต้นจะยังไม่ใช่ทุกคนนะที่ใช้ได้ คาดว่าอีกซักพักทาง Google น่าจะค่อยๆ ทยอยปล่อยให้ใช้งานกัน
การใช้งานก็ไม่มีอะไรยาก เพียงแค่กดเข้าไปที่หัวข้อ Meet เพื่อที่จะเริ่มต้นการประชุมวิดีโอคอลกันได้เลย ส่วนในเรื่องของฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ตรงนี้ทาง Google เคยออกมาให้รายละเอียดแล้วรอบนึงว่า ผู้ใช้งานทุกคน (ไม่จำเป็นต้องสมัครบริการ G Suite) จะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทุกอย่างของ Google Meet ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพร้อมกัน 100 คน, การแชร์หน้าจอ, Live Caption (อันนี้ดีงามจริง) ฯลฯ
โดยรวมๆ ทั้งฟีเจอร์ และหน้าตา UI รวมไปถึง UX (ประสบการณ์การใช้งาน) ต่างๆ ของ Meet จะแทบไม่ต่างอะไรกับแพลตฟอร์มประชุมวิดีโอคอลออนไลน์ต่างๆ อย่าง Skype, Microsoft Team หรือ Zoom เลยนะ การวาง Layout จะจัดระเบียบมาให้ในแนวๆ เดียวกัน
พอเข้ามาที่ Meet สิ่งแรกๆ ที่จะเห็นก่อนก็คือตัวเลือก “New meeting” กับ “Meeting code” ซึ่งหากเราต้องการจะเป็นคนสร้างห้องเอง ก็กดไปที่ตัวเลือกแรก ส่วนแบบที่สองจะเป็นให้เราไปกรอกรหัส Invitation Code ที่คนอื่นส่งมาให้มากกว่า
แต่เอาจริงๆ มันแชร์ห้องประชุมแบบเป็นลิงก์ได้เหมือนกันนะ ตรงนี้น่าจะสะดวกสำหรับใครหลายๆ คนมากกว่า เอาไปแปะในห้องแชทต่างๆ ได้เลย ไม่ต้องคอยกรอกรหัสยาวๆ จำยากๆ เผลอๆ กรอกผิดอีก ต้องเสียเวลากรอกใหม่ไปมา
ซึ่งอย่างที่บอกไปตอนแรกว่าหน้าตาของเจ้า Meet นั้น จะคล้ายๆ กับแพลตฟอร์มประชุมวิดีโอคอลออนไลน์อื่นๆ ทั่วไป มีแถบบอกว่าในห้องมีคนอยู่กี่คน (จุได้สูงสุด 100 คน), มีห้องแชทแยก และมี Meeting Info หรือรายละเอียดยิบย่อยต่างๆ ของห้องประชุม
ผู้ใช้งาน Meet ทุกคน สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ภายในแอปได้อย่างจัดเต็ม จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2563 ซึ่งแม้ว่าใน Meet จะมีฟีเจอร์ไม่ค่อยเยอะมาก แต่บอกเลยว่าแทุกอย่างมีประโยชน์ และใช้ได้จริง ไม่ได้ใส่มาไว้แค่เอาเท่เฉยๆ ไม่ว่าจะเป็น…
โดยสิ่งที่ผมอยากนำเสนอมากก็คือเจ้าตัวฟีเจอร์ Live Caption ที่หลังจากลองใช้งานมา ถือว่า Google พัฒนาฟีเจอร์นี้มาได้ดีมากๆ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องใส่สำเนียงแบบจัดเต็ม จะพูดอังกฤษสำเนียงไทย (หรือ Tinglish) เจ้าตัว Meet ก็สามารถฟังออกแทบจะหมดทุกคำ เอาเป็นว่าความถูกต้องผมให้ราวๆ 80 – 90% เลย
ยิ่งถ้าพูดสำเนียงใกล้เคียงกับเจ้าของภาษานะ Live Caption บน Meet แทบจะไร้ที่ติเลยล่ะ โดยฟีเจอร์อันนี้จะมีประโยชน์มากๆ สำหรับคนที่ทำงานอยู่กับเจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานที่พูดภาษาอังกฤษ เพราะบางทีสำหรับเรา พวกเขาอาจจะพูดไว พูดรัว การมี Subtitles คอยขึ้นให้ น่าจะช่วยให้เข้าใจกันง่ายขึ้นไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว
ส่วนฟีเจอร์แชร์หน้าจออย่าง Present Screen อันนี้ก็ทำได้ตามมาตรฐานนะ แต่ติดตรงที่ว่าหากต้องการจะแชร์หน้าจอจากแอป YouTube ตรงนี้ทาง Meet จะแสดงผลให้แค่ภาพเท่านั้น เสียงยังไม่มา ส่วนตัวผมพยายามหลายรอบแล้ว แต่ก็ยังหาตัวเลือกให้เสียงออกมาไม่เจอ
แต่รวมๆ ฟีเจอร์ Present Screen ถือว่าใช้ได้เลยนะ เห็นแค่ภาพก็ไม่เป็นไร เพราะต้องนี้แก้ไขง่ายๆ ด้วยการพูดทับเข้าไป Voice-Over อธิบายซ้ำเข้าไปอีกรอบ เท่านี้ก็หมดปัญหาแล้ว และอีกอย่างคือ คุณภาพวิดีโอกับเสียงใน Meet นี้ดีงามพระรามแปดจริงๆ เผลอๆ เอามาใช้คุยโทรศัพท์ หรือวิดีโอคอลเรื่อยเปื่อยได้เลยแหละ
ทว่า…หากเราจบการประชุมเมื่อไหร่ ตรงนี้ห้องที่เราใช้ประชุมกันก่อนหน้านี้ จะไม่สามารถกลับมาใช้งานได้แล้วนะ ซึ่งในส่วนนี้ก็ไม่แน่ใจว่า Google ตั้งใจให้มันทำลายตัวเองลงอัตโนมัติ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลแชทในห้อง หรือว่ายังพัฒนาตัวแอปไม่เสร็จสมบูรณ์กันแน่ ก็เลยต้องคอยสร้างห้องอยู่เป็นประจำ หากจะประชุมใหม่แต่ละที
รวมๆ มองว่า Meet เป็นอีกหนึ่งแอปประชุมวิดีโอคอลออนไลน์ที่ใช้ได้เลยนะ มีฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์แบบครบๆ ไม่เสียเงินค่าบริการ แถมยังเป็นของ Google อีกต่างหาก ยิ่งเอามารวมกับ Gmail แล้ว ยิ่งมีประโยชน์ใหญ่ ไม่ต้องคอยเข้าแอปหลายๆ แอป จบที่เดียวใน Gmail ไปเลย
ส่วนเรื่องเหมาะกับใคร หรือการใช้งานแบบไหน อันนี้จุดประสงค์หลักๆ ของ Meet ที่ Google วางเอาไว้ ก็คือสำหรับใช้ในการประชุมทางไกล หรือ Remote Conferences อะไรแบบนี้อะนะ แต่ถ้าใครจะประยุกต์ใช้ในการใช้เรียนออนไลน์แบบตัวๆ, คุยวิดีโอคอล-คุยเสียง แบบเรื่อยเปื่อย อันนี้ก็ไม่น่าจะติดปัญหาอะไร
แต่ถ้า Gmail ของใครยังไม่มีฟีเจอร์ Meet ใส่เข้าไปในแอป อันนี้ก็ไปดาวน์โหลดตัวแอปกันได้ที่ Google Play และ App Store นะ
Google Meet - Secure Video Meetings (Free, Google Play) →
Google Meet (Free, App Store) →
09/08/2020 05:42 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย