เราได้เห็นทาง AIS แถลงเปิดตัวบริการใหม่ๆบน 5G มาตลอดช่วงปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง 5G SA ทั่วประเทศ, 5G FWA ให้บริการก่อนใคร ตอนนี้ทาง AIS ก็มีการแจ้งเพิ่มเติมว่ามีการนำเอาเทคโนโลยีรวมการเชื่อมต่อระหว่าง 5G และ 4G เข้าด้วยกันได้อย่าง EN-DC มาใช้ด้วยแล้ว โดยปัจจุบันมือถือหลายรุ่นรองรับฟีเจอร์นี้ทันที
สำหรับเทคโนโลยี EN-DC หรือ EUTRAN NEW radio Dual Connectivity ถือเป็นเรื่องใหม่ของโครงข่าย 5G ที่เอไอเอสเป็นหนึ่งในไม่กี่เครือข่ายทั่วโลกที่มีการพูดถึง ซึ่งเทคโนโลยีนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อรวมความเร็วของ 4G ในปัจจุบัน ที่สามารถทำความเร็วได้ดีในระดับนึงอยู่แล้ว เข้ากับ 5G ที่มีความเร็วมากกว่า และเป็นอนาคตของเครือข่าย จึงทำให้มีความเร็วแรงเพิ่มสูงขึ้นไปเป็นเท่าตัว และเครือข่ายที่มีคลื่นความถี่มากก็จะยิ่งแรงเพิ่มเข้าไปเป็นทวีคูณ
EN-DC เทคโนโลยีที่ทำให้สามารถรวมคลื่น 4G + 5G เข้าด้วยกันได้
และแน่นอนว่าเมื่อเทคโนโลยีมา เราก็ต้องได้ใช้ โดยเอไอเอส ประกาศเปิดใช้งานเทคโนโลยี EN-DC ก่อนใคร ชูความเหนือกว่าเจ้าอื่นที่ เอไอเอสถือครองคลื่นความถี่ 4G และ 5G มากที่สุดในไทย รวม 1420 MHz แบ่งเป็นคลื่นความถี่ต่างๆ ดังนี้
*TrueMove H มีอยู่ 990 MHz, Dtac มีอยู่ 270 MHz (ไม่นับรวมคลื่นสัมปทาน)
ก่อนหน้านี้ทาง Nokia ก็เพิ่งมีการประกาศว่าสามารถทำความเร็ว 5G แตะระดับ 4.7Gbps (4700Mbps) ได้ผ่านเทคโนโลยี EN-DC นี้ ณ เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส, สหรัฐอเมริกา โดยทำการรวมคลื่น 5G mmWave n257 และ n260 จำนวนรวม 800MHz เข้ากันกับคลื่น 4G LTE 800MHz กว้าง 40MHz
โนเกียสร้างสถิติโลกความเร็ว 5G แตะระดับ 4.7 Gbps ด้วยวิธี OTA
ส่วนของทาง AIS แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยตัวเลขอย่างเป็นทางการ รวมถึงคลื่นที่ใช้ แต่ก็มีการเปรยว่าสามารถทำความเร็วได้เกิน 1.4Gbps และคาดว่าจะใช้เป็นคลื่น n41 (2600MHz) รวมกับคลื่น 4G LTE ที่ทางเอไอเอสมีอยู่หลากหลายคลื่นความถี่เลยนั่นเอง
สำหรับคลื่น 5G ที่แต่ละเครือข่ายมีอยู่ในมือนี้ คลื่น 700 MHz เป็นคลื่นที่ยังไม่ถูกนำมาใช้งานด้วยปัญหาด้านเทคนิค รอการรีฟาร์ม (refarm) คลื่นคืนจากทีวีดิจิทัล ที่เปิดให้ผู้ประกอบการสามารถคืนคลื่นได้ตั้งแต่ปี 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับคลื่นให้เรียบร้อยได้ในช่วงปลายปีนี้ และเปิดให้โอเปอร์เรเตอร์ทั้ง 3 เจ้าสามารถเข้ามาชำระเงินรับใบอนุญาตได้ในเดือน มกราคม 2021 เป็นต้นไป โดยคลื่นนี้จะช่วยให้เครือข่ายสามารถขยายสัญญาณเข้าพื้นที่ห่างไกลได้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งค่ายที่จะได้รับผลมากที่สุดก็น่าจะเป็นดีแทค ซึ่งขาดคลื่นในย่านความถี่ต่ำนี้อยู่เพียงเจ้าเดียว
อย่างไรก็ดี คลื่น 700 MHz ที่เอไอเอส ประมูลได้มารวม 30 MHz นี้ จะได้มาใช้ก่อนเพียง 20 MHz ในเดือนมกราคม 20201 โดยคลื่นอีก 10 MHz จะได้ตามมาภายหลัง เนื่องจากเป็นคลื่นที่คืนมาจากคนละส่วนกันนั่นเอง
สำหรับวิธีตรวจสอบในปัจจุบัน เท่าที่ทราบจะมีเพียงสมาร์ทโฟนของทาง Samsung เท่านั้น ที่สามารถกด USSD CODE *#0011# เพื่อตรวจสอบได้ ส่วนค่ายอื่นจะยังไม่มีการเปิดให้กดตรวจสอบด้วยตัวเองแต่อย่างใด หากมีช่องทางอื่นหรือแอปที่สามารถตรวจสอบได้จะเอามาบอกเพิ่มเติมให้อีกทีนะครับ
สังเกต ENDC ในหน้า ServiceMode ได้
สำหรับรุ่นที่ทาง AIS ได้แจ้งเอาไว้อย่างเป็นทางการว่ารองรับ EN-DC แล้วจะมีรวมทั้งหมด 4 รุ่นดังนี้
แต่จากการทดสอบ พบว่าสมาร์ทโฟนของ Samsung หลายรุ่นที่ราคาประหยัดกว่า Galaxy Note 20 Ultra ก็รองรับฟีเจอร์ EN-DC ด้วยเช่นกัน คาดว่าทางเอไอเอสจะมีการทยอยอัพเดตเพิ่มเติมข้อมูลส่วนนี้ให้ต่อไปในอนาคต โดยสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G เกือบทุกรุ่นน่าจะสามารถใช้งานเทคโนโลยี EN-DC ได้ไม่ต่างกัน
ส่วนเครือข่ายอื่นจะมีการเปิดใช้เมื่อไหร่นั้น ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผย หรือประสัมพันธ์ข้อมูลด้านนี้แต่อย่างใด แต่เท่าที่ลองทดสอบในพื้นที่ใช้งานเป็นประจำ ก็เริ่มพบการเปิดใช้งานใน EN-DC ในเครือข่าย Truemove H กันไปบ้างแล้วเช่นกัน
18/11/2020 04:25 PM
2014 © ปพลิเคชันไทย