ใครที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่สเปคจัดเต็มแล้วละก็ เราขอแนะนำ Infinix HOT 7 PRO ที่เปิดตัวในบ้านเราไปเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา ราคาไม่ถึง 5,000 บาท แต่สเปคอัดแน่นมาแบบสุดๆ ทั้ง RAM 6 GB แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 4000 mAh หน้าจอขนาด 6.2 นิ้ว แถมกล้องมาด้วยกันถึง 4 ตัวเลย ส่วนการใช้งานจะเป็นยังไงบ้าง มาดูกันดีกว่า
เปิดกล่องมาก็จะเจอกับตัวเครื่อง Infinix HOT 7 PRO หน้าจอเงางามอยู่ด้านบนสุด เปิดเข้าไปอีกก็จะมีเข็มจิ้มซิม, ฟิล์มกันรอย, เคสพลาสติกแข็ง, คู่มือการใช้งานต่างๆ, หูฟังแบบ in-ear, อแดปเตอร์จ่ายไฟ 5V 2A และ สาย Micro USB คือมีครบจบในกล่องเดียว ไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเลย
ตัวเครื่องของ Infinix HOT 7 PRO สีที่นำมารีวิวคือสี Mocha Brown วัสดุด้านหลังดูคล้ายโลหะแต่มีน้ำหนักเบา วัสดุเคลือบของตัวเครื่องจะเป็นแบบด้านเวลาถือก็จะไม่มีรอยนิ้วมือให้เห็น แต่ก็จะทำให้ไม่ค่อยเล่นไฟเท่าไหร่ ซึ่งบางคนอาจจะชอบแบบนี้เพราะดูหรูหราไปอีกแบบ ราคาแค่นี้แต่วัสดุและดีไซน์คือเกินราคามาก
ในส่วนของหน้าจอมีขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1500 x 720) น้ำหนัก 165 กรัม ถือถนัดมือไม่ได้ใหญ่เกินไป เวลาใช้งานมือเดียวถือว่าใช้งานง่ายอยู่ ตัวเครื่องไม่หนาไม่บางเกินไป พอใส่เคสเพื่อเพิ่มความหน้าเข้าไปเวลาถือก็รู้สึกถนัดมือมากขึ้น
หน้าจอมาใหญ่ขนาดนี้ เวลาดู YouTube หรือดูหนังคือเต็มตาเต็มจอสุดๆ การแสดงผลของสีสันถือว่าโอเคเลย สีสวยกำลังดีไม่ได้จัดจ้านเกินไป มีโหมดถนอมสายตาสามารถเปิดปิดได้เอง และแสงหน้าจอสามารถสู้แสงแดดอันร้อนแรงในที่โล่งๆ ได้สบาย แต่ถ้าปรับลดแสงให้น้อยสุดคือมองไม่เห็นอะไรเลยซึ่งก็เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ส่วนในเรื่องของการทัชใช้งานทั่วไป ติดนิ้วดี ไม่เจอปัญหาทัชหลุดแต่อย่างใด
หน้าจอของ Infinix HOT 7 PRO จะมี Notch เพื่อวางกล้องเซลฟี่ 2 ตัว ความละเอียด 13MP + 2MP พร้อมระบบ AI อัจฉริยะ และไฟแฟลช LED 1 ตัว นอกจากกล้องหน้าจะใช้ถ่ายเซลฟี่แล้ว ยังใช้สำหรับปลดล็อคใบหน้าด้วย ลำโพงสนทนาที่ด้านบนก็ฟังเสียงได้แบบชัดแจ๋วดี
พลิกมาดูที่ด้านหลังกันก่อนดีกว่า ด้านซ้ายบนมีกล้องคู่ พร้อมไฟแฟลช LED 1 ตัว ความละเอียด 13MP + 2MP พร้อมระบบ AI อัจฉริยะเช่นเดียวกับกล้องหน้า ถัดมาจะเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ด้านล่างก็มีจะโลโก้ Infinix
ถัดมาด้านขวาของตัวเครื่อง จะเป็นช่องถาดใส่ซิมคู่แบบ nanoSim + MicroSD สามารถเพิ่มได้ถึง 128 GB รองรับการเชื่อมต่อ 4G/3G/2G ทั้ง 2 ซิม สะดวกสบายอย่างมากสำหรับคนที่ต้องใช้งาน 2 ซิม และต้องการเพิ่ม MicroSD ด้วย
ส่วนด้านซ้ายของเครื่อง มีปุ่มปรับเพิ่ม-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ ที่น่าสนใจคือ ปุ่มพาวเวอร์จะมีผิวสัมผัสแบบขรุขระ เป็นปุ่มๆ นูนออกมาจะไม่เหมือนปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ส่วนตัวคิดว่าช่วยเรื่องการใช้งานจะได้ไม่เผลอกดปุ่มผิด
มาที่ส่วนสุดท้ายด้านล่างของตัวเครื่อง ก็จะมีลำโพง ซึ่งถ้าเปิด Dirac 3D Sound เสียงจะดังดีมากๆ ถัดมาเป็นช่อง micro USB รูไมโครโฟน และช่องสุดท้าย Infinix HOT 7 PRO ก็ให้มาด้วย รูเสียบหูฟัง 3.5 มม.
Infinix HOT 7 PRO มาพร้อมกับ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย XOS 5.0 การใช้งานง่ายมาก ไม่ซับซ้อนอะไร วิธีดูแอปทั้งหมดในเครื่องว่ามีอะไรอยู่บ้างก็แค่รูดขึ้นก็จะเห็นแอปทั้งหมดแล้ว แต่ไม่สามารถสร้าง Folder ของแอปในหน้านี้ได้นะ ต้องเอามาสร้างไว้ด้านหน้าแทนอย่างเดียว และสามารถเปิดใช้งานฟังก์ชันลัดได้หลากหลายแบบไม่ต้องเข้าตั้งค่าให้วุ่นวาย
สามารถแบ่งหน้าจอเพื่อใช้งานพร้อมกัน 2 แอปพลิเคชันได้ด้วย และยังรองรับการสั่งงานด้วยท่าทางได้ 2 อย่างด้วยกัน คือ การแตะหน้าจอ 2 ครั้ง เพื่อให้หน้าจอเปิด กับการใช้ 3 นิ้วเลื่อนลงที่หน้าจอเพื่อถ่ายภาพหน้าจอ หรือแคปนั่นเอง เปลี่ยนแถบ Navigation Bar ให้เป็นแบบลากสั่งงานได้
ส่วนเรื่องการปลดล็อค Infinix HOT 7 PRO ก็มีมาด้วยกันถึง 3 แบบ ปลดล็อคแบบรหัส, ปลดล็อคด้วยใบหน้า และปลดล็อคด้วยสแกนลายนิ้วมือ ส่วนตัวชอบการปลดล็อคด้วยใบหน้ามาก เพราะรวดเร็วทันใจ แถมเวลาแสงไม่พอสามารถเปิดแฟลชหน้าเพื่อช่วยในการปลดล็อคได้
แถมยังมีแอปพลิเคชันช่วยเคลียร์ขยะ เคลียร์หน่วยความจำแรมในเครื่องของเราด้วย และมีโหมดประหยัดพลังงาน
จากที่ทดสอบเปิดแอปหลักทั้งหมด 10 แอป สามารถสลัปเปลี่ยนแอปได้อย่างรวดเร็วดี ไม่มีติดขัดหรืออาการค้างใดๆ ส่วนการอ่าน-เขียนไฟล์ขนาดใหญ่ ได้ทำการทดสอบผ่านแอป AndroBench สามารถอ่านได้ 286.55 MB ต่อวินาที ส่วนการเขียน 204.55 MB ต่อวินาที หรือจะยังใช้เป็นหน่วยความจำแบบ eMMC ซึ่งจะยังไม่ได้เขียนอ่านได้เร็วปรู๊ดปร๊าดเหมือนรุ่นแพงๆ โหลดเข้าแอปหรือเปิดไฟล์ใหญ่ๆก็อาจจะยังใช้เวลาเยอะหน่อย
ในส่วนของ GPS ทำงานได้ดี ไม่มีหลุดออกนอกเส้นทาง ใช้งานรับรองไม่หลง ส่วนเข็มทิศก็ใช้งานได้ ไม่มีผิดทิศผิดทาง โดยทำการลองทดสอบเทียบกับโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นก็แสดงผลได้ตรงกัน
สมาร์ทโฟน Infinix HOT 7 PRO รองรับ 2 ซิม เป็นแบบ microSIM และสามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 128 GB ในเรื่องของการใช้งาน เปิดใช้อินเทอร์เน็ตซิม 1 ก็เล่นได้แบบปกติเหมือนตอนที่ใส่แค่ซิมเดียว ไม่มีอาการหน่วงและอาการใดๆ ให้เห็น
Infinix HOT 7 PRO มากับชิปเซ็ต MediaTek Helio P22 พร้อม RAM 6 GB งานใช้งานทั่วไปถือว่าลื่นไหลดี ใช้งานได้สบายๆ มีบางครั้งที่เกิดอาการหน่วงและช้าบ้างเวลาเปิดแอปสลับไปมา หรือเปิดเร็วๆ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นปัญหาใหญ่อะไร ส่วนเรื่องของการทัชดีมากไม่มีสะดุดเลย ลื่นไปตามนิ้วสุดๆ ดูหนัง ฟังเพลง เล่นโซเชียลก็ไม่มีกระตุก ส่วนผลการทดสอบด้วย AnTuTu ได้คะแนนอยู่ที่ 78851 คะแนน
มาเรื่องการเล่นเกมกันบ้าง จากที่ทดสอบเล่นเกม PUBG ค่า default ที่เกมตั้งให้ตอนเล่นครั้งแรกคือระดับต่ำ ช่วงแรกๆ ก็เล่นได้สบายอยู่แต่พอมีการบวกกันแบบคนเยอะๆ มีกระตุกและหน่วงบาง ช่วงโหลดแมพเข้าเกมก็จะช้าๆ หน่อย มีบางทีที่ทัชไม่ค่อยติดตรงช่วงใกล้ๆ ขอบจอบ้าง เรียกว่าโดยรวมพอเล่นได้ แต่ถ้าจะจริงจังอาจจะไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่
05/07/2019 07:23 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย