เผยข้อมูล PlayStation 5 เบื้องต้น ยืนยันรองรับเกม PS4 โหลดเร็วด้วย SSD ออกแบบพิเศษ ชิปสุดแรง ระบบเสียง 3 มิติ - Android

Get it on Google Play

เผยข้อมูล PlayStation 5 เบื้องต้น ยืนยันรองรับเกม PS4 โหลดเร็วด้วย SSD ออกแบบพิเศษ ชิปสุดแรง ระบบเสียง 3 มิติ - Android

ทางโซนี่ได้ถ่ายทอดสดเปิดเผยรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PlayStation 5 ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการครับ หลังจากที่ลือกันมานานมากเราก็ได้รับข้อมูลจริงจากปากโซนี่เองกันสักที โดยข้อมูลที่นำมาเล่าให้ทราบกับก็แบ่งออกเป็น 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ หน่วยความจำใหม่ที่เร็วขึ้น, ชิปที่พัฒนาใหม่ ไม่ใช่แค่แรง แต่ต้องรับเกมยุคก่อนหน้าจาก PS4 และระบบเสียงแบบ 3D SSD แรงสุดในตลาด เชื่อว่าเจ้าของเครื่อง PS4 น่าจะประสบปัญหาติดตั้งเกมนาน โหลดฉากนาน โซนี่ก็รู้ถึงปัญหานี้ดีจึงได้ไปหยิบเอาหน่วยความจำแบบ SSD มาใส่ให้กับเครื่อง PS5 ซึ่งจะหยิบมาใช้เลยก็ยังเร็วไม่พอ เพราะแม้ตัว SSD เองจะเร็ว […]

ทางโซนี่ได้ถ่ายทอดสดเปิดเผยรายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่อย่าง PlayStation 5 ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการครับ หลังจากที่ลือกันมานานมากเราก็ได้รับข้อมูลจริงจากปากโซนี่เองกันสักที โดยข้อมูลที่นำมาเล่าให้ทราบกับก็แบ่งออกเป็น 3 เรื่องหลักๆ ได้แก่ หน่วยความจำใหม่ที่เร็วขึ้น, ชิปที่พัฒนาใหม่ ไม่ใช่แค่แรง แต่ต้องรับเกมยุคก่อนหน้าจาก PS4 และระบบเสียงแบบ 3D

SSD แรงสุดในตลาด

เชื่อว่าเจ้าของเครื่อง PS4 น่าจะประสบปัญหาติดตั้งเกมนาน โหลดฉากนาน โซนี่ก็รู้ถึงปัญหานี้ดีจึงได้ไปหยิบเอาหน่วยความจำแบบ SSD มาใส่ให้กับเครื่อง PS5 ซึ่งจะหยิบมาใช้เลยก็ยังเร็วไม่พอ เพราะแม้ตัว SSD เองจะเร็ว แต่มีกระบวนการอื่นๆ ระหว่างการโหลดข้อมูลที่ยังช้าอยู่ จึงได้พัฒนาหน่วยความจำใหม่และระบบการโหลดขึ้นมาใหม่ และควบคุมด้วยชิปตัวใหม่ที่เชื่อมต่อด้วย PCIe 4.0 ทำให้ได้ความเร็วสูงถึง 5GB/s หรือเร็วกว่าสมัย PS4 ราว 100 เท่าตัว

การโหลดฉาก โหลดเกมจะสามารถทำได้ในเวลาราว 1 วินาที หรือเปรียบเทียบคือเพียงกะพริบตาก็โหลดเสร็จแล้ว และนอกจากฝั่งผู้เล่นจะรู้สึกเร็วขึ้นแล้ว ยังลดข้อจำกัดในการออกแบบเกมอีกด้วย จากเดิมที่ผู้พัฒนาต้องใช้เทคนิคออกแบบฉากที่มีการบังส่วนที่ยังโหลดไม่เสร็จ หรือการสร้างแผนที่ขนาดใหญ่แต่ต้องใช้องค์ประกอบซ้ำๆ เพื่อลดการโหลด ก็จะมีทางเลือกให้การสร้างสรรค์มากกว่าเดิม

CPU/GPU ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่

คนที่ติดตามคอนโซลเกมมาน่าจะทราบดีกว่า AMD เป็นผู้ผลิตหน่วยประมวลผลให้มาตลอด และสำหรับ PS5 ก็ยังเป็นเช่นนั้นอยู่ แต่ความแปลกใหม่ที่เข้ามาใน PS5 ก็คือเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ AMD ไม่ว่าจะเป็น

  • Backward Compatibility รองรับการเล่นเกม PS4 เพราะการออกแบบชิปใหม่นั้นคำนึงถึงการรองรับเกมในรุ่นก่อนเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญ พร้อมทดสอบมาแล้วรายเกม โซนี่ระบุว่า 100 เกมอันดับทอปของ PS4 จะสามารถเล่นบน PS5 ได้เกือบหมด ณ เวลาที่วางขาย
  • Geometry Engine หน่วยคำนวณเรขาคณิตแบบใหม่ที่จัดการการประมวลผลและแสดงผลโมเดลต่างๆ รวมถึงความสามารถอย่างการคำนวณเพิ่มรายละเอียดของโมเดลในขณะที่เกมรันอยู่
  • Ray Tracing ด้วยความสามารถใหม่ของ GPU ใน PS5 ทำให้รองรับการใช้งาน Ray Tracing ได้ในระดับฮาร์ดแวร์ ซึ่งโซนี่ระบุว่าจะคล้ายกับ GPU ของทาง AMD ที่กำลังพํฒนาให้กับ PC โดยนอกจากการคำนวณแสงเงาแบบที่เราเห็นกันบ่อยๆ แล้ว ยังเอาหลักการเดียวกันมาคำนวณทิศทางของเสียงก็ได้เช่นกัน

สำหรับสเปคของความเร็วแรงของ CPU GPU โซนี่ระบุว่า GPU ได้มีการลดจำนวน Compute Unit (CU) ลงเป็น 36 CUs (เรียกกลายๆ ได้ว่า 36 คอร์) แต่เพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์และความถี่ของแต่ละตัวให้สูง และการทำงานของ CPU และ GPU จะใช้การปรับความถี่ด้วย Boost mode ด้วยเหตุผลการออกแบบที่จะคุมการใช้พลังงานให้คงที่ และคำนวณการแบ่งพลังงานใช้ระหว่าง CPU และ GPU ได้ตามความต้องการของเกม การใช้พลังงานจะคงที่ นอกจากนี้แล้วยังได้เทคโนโลยี SmartShift ที่ใช้ CPU ที่เหลืออยู่ไปช่วย GPU ประมวลผลกราฟิกได้ และ CPU จะรันได้เร็วสูงสุดถึง 3.5GHz และส่วนของ GPU จะไปได้ถึง 2.2GHz ซึ่งนับว่าสูงขึ้นมากสำหรับคอนโซล

ระบบเสียง 3D ที่วิจัยมายาวนาน

ระบบเสียงที่จะมาใหม่ใน PS5 ก็คือระบบเสียงแบบ 3 มิติที่จะเพิ่มอรรถรสของการเล่นเกมให้มากขึ้น (โดยเฉพาะ PSVR) โดยได้เพิ่มความสามารถให้ผู้พัฒนาเกมกำหนดตำแหน่งของเสียงได้มากถึง 100 ตำแหน่ง และยังได้คิดค้นการเล่นเสียงผ่านเครื่องเล่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หูฟัง ลำโพงทีวี หรือชุดลำโพงหลาย Channel เพื่อให้ทุกๆ เครื่องเสียงนั้นเล่นเสียงออกมาได้เหมือนเราฟังเสียงในโลกจริงอยู่

ถ้าถามว่าโซนี่ทำยังไงให้การเล่นเสียงนั้นออกมาเหมือนตำแหน่งในโลกจริงได้ ก็มาจากการที่จับคนมานั่ง เอาไมค์สอดหู แล้วหมุนคนไปรอบๆ ลำโพงที่เล่นเสียงรอบทิศ เพื่อดูว่าแต่ละองศาที่หันไปมานั้น ได้ยินเสียงเป็นอย่างไร แล้วจับมาทำข้อมูลให้ตัวประมวลเสียงเอาไปจำลองให้เหมือนกับที่คนได้ยินนั่นเองโดยเรียกสิ่งนี้ว่า HRTF (Head-related Transfer Function) แต่การคำนวณทิศทางการเล่นเสียงนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โซนี่เลยพัฒนาหน่วยประมวลผลเสียงแยกออกมาต่างหากชื่อว่า Tempest Engine

เทคโนโลยีนี้ยังค่อนข้างใหม่มาก และยังมีประเด็นที่ยังถูกพัฒนาต่อ เพราะสรีระของศีรษะแต่ละคนก็แตกต่างออกไป การรับเสียงก็จะต่างไป โซนี่ได้เสนอแนวทาง ณ เวลานี้ว่าในการเปิดเกมเล่น อาจจะมีตัวอย่าง HRTF มาให้เลือกอันที่เข้ากับผู้เล่นมากสุด หรืออาจจะมีซอฟท์แวร์หรือเกมที่ให้มาเล่นเพื่อปรับตำแหน่งและสร้าง HRTF ที่เหมาะกับผู้เล่นขึ้นมาในอนาคต

สรุปสเปคฮาร์ดแวร์คร่าวๆ ดังนี้

  • CPU 8 คอร์ 3.5GHz
  • GPU 36 คอร์ 2.23GHz
  • RAM 16GB GDDR6
  • Custom SSD 825GB Bandwidth 5.5GB/s
  • รองรับ External HDD
  • มีช่อง NVME SSD ใส่เพิ่มได้ แต่สเปคของในตลาดเวลานี้จะยังเร็วไม่เท่าของที่ใส่มา โซนี่ระบุว่าให้ซื้อตามรุ่นที่โซนี่แนะนำไปก่อน และราคาน่าจะค่อนข้างแพง
  • ช่องใส่แผ่นรองรับ 4K UHD Blu-Ray drive

สำหรับใครอยากรับชมถ่ายทอดแบบเต็มๆ ก็สามารถย้อนดูได้ที่คลิปนี้เลยครับ

 

อ้างอิงสเปคบางส่วนจาก: eurogamer

18/03/2020 06:19 PM