ภายในงาน Apple Events นอกจากจะมีการเปิดตัว iPad 8th Gen กันไปแล้ว ยังมีแท็บเล็ตอีกหนึ่งรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันคือ iPad Air 4 นั่นเอง ซึ่งต้องบอกว่า เจ้านี่ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของงานเลย เพราะมีการรีดีไซน์ครั้งใหญ่ ใช้ชิปเซ็ตตัวใหม่ A14 Bionic แรงนรกแตก มีสีใหม่เพิ่มมาอีก 3 สี แถมเปลี่ยนมาใช้ USB Type-C แล้ว ราคาเริ่มต้นที่ 19,990 บาท
รูปร่างหน้าตาภายนอกของ iPad Air 4 นั้นเปลี่ยนแปลงไปจากรุ่นเดิมอย่างมาก โดยมีการปรับไปใช้ดีไซน์เหลี่ยม ๆ แบบเดียวกับ iPad Pro หน้าจอแสดงผลก็ขยายออกให้เต็มพื้นที่มากขึ้น Touch ID ถูกย้ายไปรวมอยู่กับปุ่มพาวเวอร์ที่ด้านบน และเพิ่มแถบแม่เหล็กสำหรับติด Apple Pencil มาให้ที่บริเวณด้านขวาของตัวเครื่อง
ทีเด็ดของ iPad Air 4 ที่น่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คนก็คือ ในที่สุดมันก็เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB Type-C สักที ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนคาดหวังกันมานานมาก โดยนอกจากจะรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่หลากหลายมากขึ้นแล้ว ยังถ่ายโอนข้อมูลได้ไวขึ้นถึง 10 เท่าอีกด้วย
หน้าจอแสดงผลของ iPad Air 4 ก็จัดหนักจัดเต็มไม่แพ้กัน แม้จะยังเป็นพาแนล IPS LCD Liquid Retina แต่รองรับการแสดงผลแบบ wide gamut ครอบคลุม DCI-P3 กระจกหน้าจอเป็นแบบ Full Lamination มีการเคลือบสารลดรอยนิ้วมือและลดแสงสะท้อน ซึ่ง Apple เคลมว่า หน้าจอของ iPad Air 4 มีอัตราการสะท้อนเพียง 1.8% เท่านั้นเอง
แม้กล้องถ่ายภาพของ iPad Air 4 จะยังคงมีจำนวนเพียงตัวเดียวไม่แตกต่างจากรุ่นก่อน แต่มีการเพิ่มความละเอียดขึ้นเป็น 12MP จากเดิม 8MP โดยในคราวนี้สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุดได้ที่ 4K 60 fps และ slo-mo 240 fps รวมถึงมีการปรับปรุงประสิทธิภาพระบบกันสั่นให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่กล้องเซลฟี่ FaceTime HD มีความละเอียดอยู่ที่ 7MP เท่าเดิม
นอกจากจอภาพจะจัดเต็มแล้ว ลำโพงเองก็ไม่น้อยหน้า เพราะ Apple ใส่ลำโพงสเตอริโอมาให้ iPad Air 4 เป็นจำนวน 2 ตัว จะเอาไปดูหนัง เล่นเกม หรือฟังเพลงก็ฟินไม่แพ้กัน
ส่วนสำคัญที่สุดที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ ‘หน่วยประมวลผล’ นั่นเอง เพราะ iPad Air 4 มาพร้อมกับชิปเซ็ตตัวใหม่ล่าสุดของ Apple ที่ไม่เคยมีการนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์ชิ้นไหน ๆ ของตัวเองมาก่อน อย่าง A14 Bionic ซึ่งเป็น CPU 6-core บนสถาปัตยกรรม 64 บิต ขนาด 5 นาโนเมตร ตัวแรกของโลก ทรงพลังขึ้น 40 % ประมวลผลกราฟิกไวขึ้น 30% พร้อม Neural Engine เจเนอเรชั่นใหม่ที่เร็วขึ้นอีก 70%
ทางด้านอุปกรณ์เสริมของ iPad Air 4 นั้น จะรองรับการใช้งานกับทั้ง Apple Pencil และ Magic Keyboard รวมถึง Smart Keyboard Folio แฟน ๆ Apple ที่มีอุปกรณ์เหล่านี้อยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่แต่อย่างใด
วัสดุทั้งภายนอกและภายในของ iPad Air 4 ถูกเลือกสรรโดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ตัวบอดี้จะทำจากอะลูมิเนียมที่สามารถรีไซเคิลได้ทั้งชิ้น 100% ดีบุกที่ใช้สำหรับการบัดกรีแผงวงจร แร่แรร์เอิร์ธที่ใช้ในการผลิตลำโพง และวัสดุสำหรับบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดก็ล้วนมาจากการรีไซเคิลทั้งสิ้น ซึ่งเป็นสิ่ง Apple พยายามจะทำมาตลอดในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่า บริษัทจะลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จนเป็นศูนย์ให้ได้ภายในปี 2030 ทั้งจากกระบวนการผลิตและจากตัวผลิตภัณฑ์
iPad Air 4 มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 5 สี ได้แก่ เทาสเปซเกรย์ เงิน โรสโกลด์ เขียว และสกายบลู ซึ่ง 3 รายการหลังเป็นสีใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้
ราคาของอย่างเป็นทางการ iPad Air 4 ได้ถูกประกาศออกมาเป็นที่เรียบร้อย แบ่งเป็น 4 รุ่นย่อยตามหน่วยความจำและการเชื่อมต่อ ดังนี้
ส่วนวันวางจำหน่ายนั้น Apple บอกเพียงแค่ว่า เป็นเดือนหน้า แต่ยังไม่มีการระบุวันที่ที่ชัดเจน ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมอย่างไรก็จะมาอัปเดตให้ต่อไปครับ
ดูเพิ่มเติม : Apple ประเทศไทย
15/09/2020 07:12 PM
15/09/2020 07:33 AM
15/09/2020 08:46 AM
15/09/2020 07:22 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย