เปิดตัวเรียบร้อยแล้ว กับมือถือสเปคโคตรคุ้มซีรีส์ Redmi Note 9 ที่คราวนี้มาด้วยกัน 2 รุ่น คือ Redmi Note 9 Pro และ Note 9 Pro Max ซึ่งได้รับการอัพเกรดจากรุ่นที่แล้วขึ้นมาเยอะแยะ ทั้งชิปแรงขึ้น, กล้องหลังดีขึ้น, กล้องเซลฟี่ดีขึ้น, แบตเตอรี่อึดขึ้น และอื่นๆ อีกเพียบ ส่วนราคาก็ยังคงเปิดมาได้เร้าใจอีกเช่นเคยโดยรุ่น Note 9 Pro เริ่มต้นที่ราวๆ 5,500 บาท ส่วนรุ่น Pro Max เริ่มต้นที่ราวๆ 6,400 บาท เท่านั้น
Redmi Note 9 Pro Max มากับ Aura Design แบบสมมาตร โดยด้านหลังเครื่องจะวางโมดูลกล้องสี่เหลี่ยมไว้ตรงกลางเครื่องด้านบน โดยบนโมดูลก็มีกล้อง 4 ตัว วางเรียงกันด้านบน 2 ตัว ด้านล่าง 2 ตัว และถัดลงมาเป็นแฟลช LED
หน้าจอของ Redmi Note 9 Pro Max มีขนาดอยู่ที่ 6.67 นิ้ว เปลี่ยนดีไซน์จากการใช้ Notch หยดน้ำจากรุ่นที่แล้ว มาใช้ดีไซน์หน้าจอเจาะรู ตรงกลางจอด้านบนสำหรับวางกล้องเซลฟี่ มีอัตราส่วนหน้าจอ อยู่ที่ 20:9 เรียกว่า Cinematic Screen ซึ่งเหมาะสุดๆ สำหรับการดูหนัง หรือดูคลิปต่างๆ ได้แบบเต็มจอ
ตัวเครื่องด้านหลัง และหน้าจอของ Redmi Note 9 Pro Max ครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ซึ่งทนทานต่อการขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
Redmi Note 9 Pro Max มีสีให้เลือกทั้งหมด 3 สี คือสีฟ้า Aurora Blue, สีขาว Glacier White, สีดำ Interstellar Black
Redmi Note 9 Pro Max มากับกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP + กล้อง Ultra Wide 8MP + กล้องมาโคร 5MP + กล้องจับความลึก 2MP ซึ่งสามารถถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ซึ่งมีคุณภาพที่สูงกว่าไฟล์ภาพแบบปกติ ทำให้เราสามารถนำไปตกแต่งเพิ่มเติมในแอปที่ต้องการได้โดยที่ภาพไม่เสียนั่นเอง
โหมดถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือ Night Mode ของ Redmi Note 9 Pro Max สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยออกมาได้อย่างชัดเจน และยังจัดการกับเหล่า Noise ได้ดีอีกด้วย
กล้อง Ultra Wide ของมันสามารถเก็บภาพได้ในมุมกว้างถึง 119° ซึ่งนอกจากจะเก็บภาพได้กว้างแล้ว การจัดการแสงต่างๆ ก็ทำได้ดีแม้จะเป็นการถ่ายในสภาวะแสงน้อยก็ตาม
กล้องมาโครความละเอียด 5MP สามารถโฟกัสได้ในระยะใกล้สุดถึง 2 ซม. – 10 ซม. เลยทีเดียว
การถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอก็สามารถตัดขอบวัตถุ และละลายพื้นหลังได้แบบเนียนๆ เป็นธรรมชาติ
Redmi Note 9 Pro Max ใช้กล้องเซลฟี่แบบ In display Camera ที่มีความละเอียดสูงถึง 32MP
ซึ่งสามารถถ่ายภาพออกมาได้ขาวใสวิ้งวับ ไม่วอกผิดธรรมชาติ แถมยังสามารถถ่ายภาพแบบ Bokeh ได้เนียนๆ อีกด้วย
Redmi Note 9 Pro Max ให้แบตเตอรี่มาจุใจถึง 5020 mAh ซึ่งทาง Redmi เคลมว่าสามารถสแตนด์บายได้ถึง 20 วันครึ่ง, ดูวิดีโอติดต่อกันได้ถึง 26 ชม., เล่น PUBG ติดต่อกันได้ 11 ชม.
นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไวที่ระดับ 33W แถมยังมีที่ชาร์จไวแถมให้มาในกล่องเลยด้วย
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวมือถือรุ่นน้องอย่าง Redmi Note 9 Pro อีกด้วย โดยจะโดนลดสเปคบางอย่างลงไป อย่างเช่นกล้องหลังจะมีความละเอียดสูงสุดที่ 48MP, กล้องเซลฟี่ 16MP และระบบชาร์จไว 18W ส่วนสเปคก็มีตามนี้ครับ
Redmi Note 9 Pro Max แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 รุ่น ตามหน่วยความจำ โดยแต่ละรุ่นมีราคาตามนี้
ส่วนรุ่นน้อง Redmi Note 9 Pro ก็แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ตามหน่วยความจำเช่นกัน โดยแต่ละรุ่นมีราคาตามนี้
Redmi Note 9 Pro และ Redmi Note 9 Pro Max จะเริ่มวางจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์ในประเทศอินเดียตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป ส่วนประเทศอื่นๆ จะตามมาตอนไหน ต้องรออัพเดทข้อมูลกันอีกทีครับ
12/03/2020 03:00 PM
2014 © ปพลิเคชันไทย