หลุดสเปคเต็ม Galaxy Buds+ แบตเตอรี่มากขึ้น, ลำโพงและไมค์ดีขึ้น แต่ขนาดยังเท่าเดิม - Android

ในงาน Galaxy Unpacked 2020 ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ นอกจากจะเห็นการเปิดตัวของมือถือซีรีส์ Galaxy S20 แล้ว เราอาจจะได้เห็นมือถือจอพับ Galaxy Z Flip อีกด้วย…นอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่างหูฟังไร้สาย Galaxy Buds+ ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานนี้ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุดได้มีสเปคแบบเต็มๆ ของหูฟังดังกล่าวหลุดออกมาแล้วด้วย

ข้อมูลสเปคของ Galaxy Buds+ ได้มาจากแหล่งข่าวเจ้าประจำอย่าง Evan Blass ที่ได้โพสท์ตารางสเปคของ Galaxy Buds รุ่นแรก เพื่อเปรียบเทียบกับ Galaxy Buds+ เผยถึงความแตกต่างหลายๆ อย่างที่เพิ่มเข้ามาในหูฟังรุ่นใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็น…

• แบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้น ตัวหูฟังจากเดิม 58 mAh เพิ่มเป็น 85 mAh
• แบตเตอรี่ในเคสจากเดิม 252 mAh เพิ่มเป็น 270 mAh
• เวลาใช้งานจากเดิมเล่นเพลงต่อเนื่องได้ 6 ชม. เพิ่มเป็น 11 ชม.
• เวลาใช้งานจากหูฟัง + เคส เดิม 13 ชม. เพิ่มเป็น 22 ชม.
• เวลาสนทนาต่อเนื่องจากเดิม 5 ชม. เพิ่มเป็น 7.5 ชม.
• น้ำหนักจากเดิมข้างละ 5.6 กรัม เพิ่มเป็น 6.3 กรัม
• ลำโพงจากเดิม 1 ตัว เพิ่มเป็น 2 ตัว (Woofer + Tweeter)
• ไมโครโฟนจากเดิม 1 ตัวด้านใน + 1 ตัวด้านนอก เพิ่มเป็น 1 ตัวด้านใน + 2 ตัวด้านนอก
• Touch Pad จากเดิมที่ใช้กด Play, Pause, Skip, ปรับเสียง รุ่นใหม่จะเพิ่มการเรียกแอป Spotify มาให้ด้วย
• สีหูฟังรุ่นเดิม สีดำ, สีขาว, สีเหลือง, สีเงิน รุ่นใหม่เปลี่ยนเป็น สีดำ, สีขาว, สีน้ำเงิน, สีแดง
• ราคารุ่นเดิมเปิดตัวมาที่ 129 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,000 บาท) รุ่นใหม่เพิ่มเป็น 149 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,650 บาท)

จากสเปคดังกล่าวจะเห็นว่า Galaxy Buds+ ได้เพิ่มลำโพงเข้ามาอีก 1 ตัว (จากเดิมที่มีแค่ตัวเดียว) แบ่งเป็นลำโพง Woofer และลำโพง Tweeter ซึ่งแน่นอนว่าจะให้เสียงที่ดีขึ้นกว่ารุ่นแรก นอกจากนี้ยังได้เพิ่มไมโครโฟนสำหรับสนทนาเข้ามาให้อีก 1 ตัว เป็น 3 ตัว จากรุ่นเดิมที่มีแค่ 2 ตัว ซึ่งได้รับเสียงบ่นจากผู้ใช้งานหลายๆ คนว่าใช้คุยโทรศัพท์บนรถไฟ หรือที่ที่มีเสียงรบกวนแล้วคุยกันแทบไม่รู้เรื่องเลย

ส่วนที่น่าเสียดายอีกอย่างก็คือในตารางสเปคไม่ได้บอกเอาไว้ว่ามันจะมากับระบบตัดเสียงรบกวน (Noise Canceling) ตามข่าวลือตอนแรกอีกด้วย

ก็ไม่รู้ Galaxy Buds+ จะมีฟีเจอร์อะไรเด็ดๆ ซ่อนเอาไว้อีกรึเปล่า แต่คาดว่าในงาน Galaxy Unpacked 2020 เราน่าจะได้รู้กันครับ ว่านอกจากสเปคด้านบนแล้ว มันจะมีฟีเจอร์อื่นๆ มาสู้กับเหล่าหูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นอื่นๆ ในตลาดได้บ้าง

ที่มา : Evan Blass, GSMArena