ล่ารายชื่อนักพัฒนา Android ดำเนินคดีแบบกลุ่มต่อ Google กรณีผูกขาดทางการค้า แบบเดียวกับ Epic - Android

จากเหตุการณ์ Epic Games ได้ฟ้องร้องต่อทั้ง Apple และ Google กรณีไม่เห็นด้วยกับการเก็บค่าคอมมิชชั่น 30% ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนสุด ๆ ในขณะนี้ ดูเหมือนจะบานปลายไปกันใหญ่ เพราะสำนักงานกฎหมาย Hagens Berman ในสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเสนอตัวเพื่อเป็นตัวแทนในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ชวนให้นักพัฒนาแอปฝั่ง Android รวมตัวกันฟ้อง Google โดยเสนอว่า นักพัฒนาแอปอาจได้รับเงินชดเชยหากชนะคดี

Hagens Berman Sobol Shapiro LLP เป็นสำนักกฎหมายด้านการดำเนินคดีแบบกลุ่มระดับชาติ ที่เคยชนะคดีใหญ่ ๆ มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น คดีการผูกขาดทางการค้าของบัตรเครดิต Visa และ Mastercard, คดีปัญหาคันเร่งของรถยนต์ Toyota, คดี Volkswagen โกงผลตรวจการปล่อยไอเสีย และคดีใหญ่อื่น ๆ อีกมากมาย

โดย Hagens Berman ได้ยื่นคำฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในเมืองแซนโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเนื้อหาในคำฟ้องได้กล่าวถึงกรณีการกีดกันทางการค้าบน Play Store ของ Google ที่แม้จะสามารถติดตั้งแอปโดยไม่ผ่าน Play Store ได้ด้วยวิธีการ sideload ก็จริง แต่ก็จะถูกกีดกันด้วยระบบความปลอดภัยอย่าง Play Protect อยู่ดี (ใครที่เคยติดตั้งแอปด้วยวิธี sideload หรือผ่านทางไฟล์ APK ก็น่าจะพอเคยเห็น pop-up แจ้งเตือนกันมาบ้าง หรือบางทีมันก็บล็อกไม่ให้ติดตั้งแอปเลยก็มี) รวมถึงกรณีผูกขาดทางการค้าด้วยค่าคอมมิชชั่น 30% และมีการกำหนดราคาขั้นต่ำของแอปที่ 0.99 เหรียญ

หากเราย้อนกลับไปเมื่อช่วงปี 2018 ที่ Epic พึ่งนำเกม Fortnite ลงบนแพลตฟอร์ม Android แต่ไม่ยอมนำแอปลง Play Store โดยจะต้องดาวน์โหลดและติดตั้งผ่านทางเว็บไซต์ของ Epic แทน แต่สุดท้ายก็ทนรับมือกับ Play Protect ที่คอยออกมาบล็อกแอปของตัวเองไม่ไหว จำใจต้องนำแอป Fortnite ขึ้น Play Store เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนนำไปสู่เหตุการฟ้องร้องที่กำลังเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

อันที่จริงแล้ว Tim Sweeney ผู้ที่เป็น CEO ของบริษัทก็ได้ออกมาประกาศอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่า สาเหตุที่ไม่อยากนำแอปของตัวเองขึ้นบน Play Store เพราะบริษัทไม่อยากเสียค่าคอมมิชชั่น 30% ให้กับทาง Google โดยอ้างว่า ส่วนแบ่งดังกล่าวเป็นจำนวนที่มากเกินไป ส่วนแพลตฟอร์มที่ Epic ยอมทำให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น App Store ของ Apple และ PS Store ของ PlayStation 4 เป็นเพราะบริษัทไม่มีทางเลือกนั่นเอง (แต่สุดท้าย Epic ก็ฟ้อง Apple ด้วยเหมือนกัน)

ยิ่งไปกว่านั้น Hagens Berman ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายต่อ Google ด้วย ต่างจากกรณีของ Epic ที่ไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหาย และได้มีการประกาศเชิญชวนนักพัฒนาแอป Android มาร่วมลงชื่อฟ้องร้องและรอรับค่าชดเชยจาก Google (ถ้าชนะคดี) กันโต้ง ๆ ที่หน้าเว็บของตัวเองเลยอีกต่างหาก แถมยังบอกอีกด้วยว่า ฝั่งผู้พัฒนาแอป ไม่จำเป็นต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียวในการร่วมลงชื่อฟ้องร้องในครั้งนี้ หากชนะคดีขึ้นมาก็เอาเงินชดเชยจาก Google ไปได้เลย

สำหรับสาเหตุที่ Hagens Berman ออกหน้าเป็นตัวแทนในการดำเนินคดีให้แกนักพัฒนาแอป Android ในคราวนี้ เนื่องจากทางบริษัทเห็นว่า เหล่านักพัฒนาต้องลงทั้งแรง ใช้ทั้งความสามารถ และใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์มากมาย กว่าที่จะผลิตแอปคุณภาพออกมาป้อนให้ Play Store ได้ในแต่ละครั้ง แต่กลับต้องมาถูกเอาเปรียบโดยข้อบังคับต่าง ๆ ของ Google ซึ่ง Hagens Berman ต้องการให้ Google มีความยุติธรรมกับนักพัฒนาเหล่านี้ ไม่ใช่จ้องแต่จะเอาเปรียบอย่างเดียว นอกจากนี้สำนักงานกฎหมายรายนี้ยังเชื่อว่า การกระทำดังกล่าวของ Google ถือเป็นการละเมิดกฏหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐอเมริกา และละเมิดกฎหมายป้องกันการแข่งขันไม่เป็นธรรมของรัฐแคลิฟอร์เนียอีกด้วย

ดูเหมือนว่า เรื่องมันชักจะซับซ้อนและไปกันใหญ่ขึ้นทุกที และดูจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง จนหลายคนเริ่มหันมาถกเถียงกันว่า ค่าคอมมิชชั่น 30% ที่ทั้ง Apple และ Google เรียกเก็บจากผู้พัฒนา ตกลงแล้วมันเป็นเปอร์เซ็นต์ที่เหมาะสมหรือไม่กันแน่ แล้วสิ่งที่ Epic กำลังทำอยู่นั้นมันถูกหรือผิด อย่างไรก็ดี ดูเหมือนประเด็นที่เกิดขึ้นนี้น่าจะลากยาวไปอีกสักพักใหญ่ ๆ เลย ถ้ามีความคืบหน้าอะไรก็จะมาอัปเดตให้ต่อไปครับ รอติดตามกันได้เลย

ที่มา : Hagens Berman (1, 2 (pdf)) จาก Android Police | Ars Technica | The Verge