รีวิวนี้มาพบกับ Asus VivoBook S15-S531 หรือ VivoBook S15 รุ่นปี 2019 ที่รอบนี้ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ หล่อกว่าเดิม และประสิทธิภาพดีกว่าเดิม
The post รีวิว : Asus VivoBook S15-S531FL หล่อและบางยิ่งขึ้น ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม appeared first on AripFan.
VivoBook คือโน้ตบุ๊กแนวไลฟ์สไตล์เน้น ๆ จาก Asus ชูโรงด้วยความหลากสีสัน (มีหลายสีให้เลือก) ดีไซน์ตามใจวัยรุ่น และราคาที่คุ้มสเปก อย่างตัว VivoBook S15 S530UN ที่เคยรีวิวไป แต่หลัง ๆ มานี้ VivoBook เริ่มมีกลิ่นอายเทียบชั้นกับ ZenBook ขึ้นเรื่อย ๆ จากไลฟ์สไตล์จ๋า ก็เริ่มมีความหรูหราเข้ามาด้วย แต่ยังไม่ทิ้งความคุ้มค่า รีวิวนี้มาพบกับ Asus VivoBook S15-S531FL หรือ VivoBook S15 รุ่นปี 2019 ที่รอบนี้ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ หล่อกว่าเดิม และประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ในราคาไม่เกิน 3 หมื่นบาทเหมือนเคย แต่คุ้มค่ายิ่งกว่าเดิมมากกก
Display : จอ NanoEdge ขนาด 15.6 นิ้ว สัดส่วน 16:9 ความละเอียด Full HD (1920×1080) 60Hz Anti-Glare Panel และ 45% NTSC
CPU : Intel Core i7-8565U 1.8GHz Quad-Core (up to 4.6GHz) 8MB cache
VGA : NVIDIA GeForce MX250 2GB GDDR5 VRAM
RAM : 8 GB DDR4 2400MHz
HDD : 1TB 5400 rpm
SSD : 512GB PCIe SSD
Wireless : Intel Wi-Fi 5 (802.11ac)
Bluetooth : 4.2
Port : USB 3.1 Gen 1 Type-C x 1, USB 3.1 Type-A Gen 1 x 1, USB 2.0 x 2, HDMI x 1, Combo audio jack x 1, MicroSD card reader x 1 และ DC-in
Battery : 2Wh 3-cell lithium-polymer battery กับ 90W power adapter
Weight : 1.8 kg
Color : สีเงิน Transparent Silver (ที่รีวิว) , สีดำ Gun Metal, สีชมพู Punk Pink, สีน้ำเงิน Cobalt Blue และ สีเขียว Moss Green
OS : Windows 10 Home
กล่องยังคงสไตล์ VivoBook แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ
ในกล่องจะแถมสติ๊กเกอร์ให้ชุดหนึ่ง เอาไว้แปะกับฝาหลังโน้ตบุ๊กหรือตัว VivoBook นี้ได้ตามใจชอบ
ตัวอย่าง
ในรุ่นปี 2018 จะมีขอบสีชวนสะดุดตา ดูเป็นวัยรุ่นมั๊ก ๆ (เขียนว่า “มาก ๆ” นะจ๊ะเด็ก ๆ) แต่หลังปี 2019 ตัว Asus VivoBook S15 ได้เปลี่ยนจากหลังเท้าเป็นหน้ามือเลยครับ โดยรุ่นที่ผมได้มารีวิวนี้คือ Asus VivoBook S15-S531F กับสี Transparent Silver หรือสีเงินสุดหรูหรา ดูไฮโซมาก ๆ จากมาดวัยรุ่นกลายเป็น Businessman ทันที
เมื่อก่อนซีรี่ย์นี้จะมีความอวบนิด ๆ แต่รอบนี้มาแบบผอมเพรียวเลย อีกทั้งไม่ใช้วัสดุพลาสติก แต่เป็นอลูมิเนียมที่ผิวเรียบเนียนกว่าแต่ก่อน เสมือนไปศัลยกรรมที่เกาหลีมายังไงยังงั้น ทั้งนี้ตัวเครื่องขึ้นโครงด้วยอลูมิเนียม ทำให้มีน้ำหนักอย่างเลี่ยงไม่ได้ (รุ่นนี้หนัก 1.8 kg) แต่ก็ช่วยให้ตัวเครื่องมีความแข็งแรงทนทานมาก ๆ และหนัก
ความเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัด ๆ คือ บริเวญขอบหลังมีการสลักชื่อ “VIVOBOOK SERIES” เท่ ๆ พร้อมกับโลโก้ Asus ที่เหมือนก่อนเคยอยู่ตรงกลางฝาหลัง ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโลโก้ “Asus VivoBook” แทนที่ สุดท้ายขอบยางหลากสีก็หายไปแล้ว แต่แทนที่ด้วย
ขอบสีแบบตัดกับสีหลักของตัวเครื่องแทน อย่างรุ่นสีน้ำเงิน Cobalt Blue ก็จะมีเส้นขอบสีแดงตัดกันตามภาพ ดูสะดุดตาเล็กน้อยกว่าเดิม แต่ลงตัวยิ่งกว่า
กลับมาต่อกันที่รุ่น Transparent Silver เมื่อพลิกดูใต้เครื่อง ก็จะเห็นลวดลายเพิ่มเติมพร้อมลำโพง SonicMaster ของ Asus สองฝั่ง และช่องดูดลมเข้าเพียงหนึ่งเดียว
ส่วนพอร์ตเชื่อมต่อก็มีครบครันเช่นเคย อาทิ USB 3.1 Gen 1 Type-C x 1, USB 3.1 Type-A Gen 1 x 1, USB 2.0 x 2, HDMI x 1, Combo audio jack x 1, MicroSD card reader x 1 และ DC-in ช่องต่อไฟเลี้ยง
เมื่อกางจอและเปิดเครื่องขึ้นมา ภาพ Asus ZenBook ลอยมาทันที คืออย่างที่เกรื่นไป ตัวเครื่องมีกลิ่นอายความเป็น ZenBook ทั้งที่เป็น VivoBook โน้ตบุ๊กแนวไลฟ์สไตล์ คือมันเหมือนกับเด็กนักเรียนมัธยม ที่กำลังก้าวสู่รั้วมหาวิทยาลัยก็ไม่ปาน
จุดที่ทำให้ตัวเครื่องมีความเป็น ZenBook จริง ๆ ก็คือ หน้าจอ NanoEdge ขอบบาง ที่เหมือนก่อนมันเหลือขอบด้านล่างเอาไว้ซะเยอะ แต่ตอนนี้กลายเป็นขอบบางทั้ง 4 ด้านเลย ดูสมมาตรขึ้น และทำให้หน้าจอขนาด 15.6 นิ้วนี้ ดูเล็กลงกว่าโน้ตบุ๊กจอ 15.6 นิ้ว รุ่นอื่น ๆ อย่างรู้สึกได้ สำหรับจอก็มาพร้อมความละเอียด FHD แบบ 60Hz เป็นจอด้าน Anti-Glare และ 45% NTSC พร้อมกล่อง IR Camera สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่องได้
27/06/2019 11:36 AM
2014 © ปพลิเคชันไทย